เตือน! ประชุม กนง.พรุ่งนี้ แม้หั่นดอกเบี้ยเหลือ 1.75% แต่ SET ไม่พุ่งแรง แถม Fund flow ไม่เข้า
จับตาประชุมกนง. พรุ่งนี้ คาดลดลงดอกเบ้ยนโยบายเหลือ 1.75% แต่นักวิเคราะห์ชี้ SET จะไม่พุ่งขึ้นแรงเมื่อเทียบกับภาวะปกติ เป็นเพราะตลาดอาจรับรู้ไปในระดับหนึ่งแล้ว แถม Fund flow ยังไม่ไหลเข้า เพราะส่วนใหญ่อาจจะยังเลือกกระจุกตัวอยู่ในตลาดพันธบัตรไทย
นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด เปิดเผยว่า วันพรุ่งนี้ (30 เม.ย. 68) เวลา 14.00 น. มีกำหนดประชุม กนง. ครั้งที่ 2/2568 โดย CONSENSUS ให้น้ำหนัก 81% คาดว่าจะเห็นการปรับลดดอกเบี้ยลงมาสู่ระดับ 1.75% นอกจากนี้ยังมีสัญญาณจาก BOND YIELD 10Y ของไทย ล่าสุดขยับลงมาอยู่ที่ 1.9% ซึ่งต่ำกว่า POLICAY RATE ปัจจุบันที่ 2.0%
อย่างไรก็ตาม กรณีที่บ้านเรามีการลงดอกเบี้ยตามคาดการณ์ มีโอกาสที่ SET จะไม่พุ่งขึ้นแรงเมื่อเทียบกับภาวะปกติ เป็นเพราะตลาดอาจรับรู้ไปในระดับหนึ่งแล้ว นอกจากนี้น่าจะเห็นการปรับลดประมาณ GDP GROWTH ของไทยในนี้ ลงมา เช่นเดียวกับหลายๆ เศรษฐกิจ จากความไม่แน่นอนของนโยบายตั้งกำแพงภาษีสหรัฐฯ
ในทางกลับกัน สำหรับทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐฯ FEDWATCH TOOL ยังคงให้น้ำหนักมากกว่า 90% คาด FED คง ดอกเบี้ยในการประชุมรอบวันที่ 7 พ.ค. นี้ ซึ่งในกรณีที่ “ไทย” ปรับลดดอกเบี้ยเร็วกว่า “FED” อาจกดดันให้เงินบาท อ่อนค่าได้ในช่วงสั้นๆ
ขณะที่วานนี้ตลาดหุ้นไทยมีมูลค่าซื้อขายต่ำเพียง 2.8 หมื่นล้านบาท จากที่นักลงทุนรอความชัดเจนของหลายปัจจัย ทั้ง TRADE TARIFF 2.0, เศรษฐกิจมีโอกาสชะลอตัวลงรวมถึงไทย, การประชุม กนง. 30 เม.ย.68 และการเปิดกอง THAIESGX สำหรับการโยกย้าย/ซื้อ เพื่อลดหย่อยภาษี จึงทำให้ FLOW ต่างชาติยังไม่ไหลเข้าตลาดหุ้นไทยในเดือนนี้ โดยถูกขายสุทธิ 550 ล้านเหรียญฯ เช่นเดียวกับประเทศอื่นๆที่ถูกขายสุทธิอย่างหนักเช่นกัน อาทิ เกาหลีใต้ ไต้หวัน อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม
อย่างไรก็ตามผลตอบแทนตั้งแต่ต้นเดือนตลาดหุ้นไทยไม่ได้ปรับตัวลงแรงตาม FLOW ต่างชาติที่ขายสุทธิ เฉกเช่น ประเทศอื่นในเอเชีย เนื่องจากมีความคาดหวังจากเม็ดเงิน THAIESGX ในช่วง 2 เดือนหลังจากนี้(พ.ค.-มิ.ย.68) ที่ หลายฝ่ายคาดกันว่าจะมีเม็ดเงินเข้ามาราว 1-2 หมื่นล้านบาท
โดยฝ่ายวิจัยฯคาดว่ามีความเป็นไปได้ เนื่องด้วยหาก เปรียบเทียบกับ NAV กองทุน THAIESG ที่เริ่มขายตั้งแต่ต้นปี 2567 มียอด NAV ราว 3.3 หมื่นล้านบาท(จำนวนเงิน ที่สามารถซื้อลดหย่อยภาษีเท่ากัน คือ 3 แสนบาท/คน/ปี)
อีกทั้งตลาดฯเตรียมมีมูลค่าซื้อขายที่เพิ่มขึ้นจากการที่หุ้น ใน UNIVERSE ของ กอง THAIESGX และ LTF ที่แตกต่างกัน โดยมีโอกาสเห็น NAV โยกย้ายจาก LTF มาสู่ THAIESGX ราว 50%ของ NAV เดิม (8 หมื่นล้านบาท)
ขณะที่ในมุมแนวรับทางพื้นฐาน ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินภายใต้ EPS68F ที่หัก DOWNSIDE จากค่าเฉลี่ยราคาน้ำมันดิบ WTI ในปีนี้ที่ถูกกว่าปีก่อนหน้าราว 10 เหรียญฯ จะเหลือ 80 บาท/หุ้น และอิง MEYG 5.8% (ระดับสูงสุดตลอดกาล) จะได้แนวรับทางพื้นฐานที่ระดับ 1026 จุด แต่ถ้าลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 1 ครั้ง เหลือ 1.75% จะได้แนวรับทาง พื้นฐานที่ระดับ 1060 จุด(ซึ่งอยู่ระดับใกล้เคียงดัชนีปัจจุบัน) ถือเป็นโอกาสสะสมสำหรับนักลงทุนที่หวังผลกำไรระยะ กลาง-ยาว
ขณะที่ความเห็นนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด มองว่า หากธปท.ปรับลดดอกเบี้ยนโยบายในวันที่ 30 เม.ย.นี้ จะเป็นผลกระทบเชิงลบเล็กน้อยต่อ Fund flow เนื่องจากเม็ดเงินของนักลงทุนต่างชาติส่วนใหญ่อาจจะยังเลือกกระจุกตัวอยู่ในตลาดพันธบัตรไทยเป็นสำคัญ ส่วนหนึ่งจากมุมมอง Downside risk ทางเศรษฐกิจที่เปิดกว้างมากขึ้น รวมไปถึงความคาดหวังการลดดอกเบี้ยที่อาจจะมีเกิดขึ้นอีกในปีนี้
โดยยังคงแนะนําให้ผู้ที่มีกําไรจากกลุ่ม Rate sensitive เช่น ไฟแนนซ์ หาจังหวะ Take profit ก่อนหน้าการประชุม กนง.สวนหนึ่ง และ Sell on fact ในส่วนที่เหลือหลังการประชุม ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร ในทางกลับกัน แนะนํามองหาจังหวะทยอยเข้าสะสม กลุ่มธนาคาร ที่ราคาช่วงที่ผ่านมา รับข่าวการปรับลดอัตราดอกเบี้ยไปมากแล้วเช่นกัน โดยธนาคารขนาดใหญ่ที่ยังคงแนะนํา “ซื้อ” ในเชิงพื้นฐานจะได้แก่ KTB, BBL และ KBANK
ยอดนิยม
%20copy_0.jpg)
THAI ทำตามแผนฟื้นฟูสำเร็จแล้ว หลังปรับโครงสร้าง -ส่วนผู้ถือหุ้นเป็นบวก ขอคำสั่งศาลฯ ยกเลิกฟื้นฟูกิจการ
%20copy_0.jpg)
OR แนวโน้มเด่น Q1/68 คาดโกยกำไร 4.2 พันลบ. โต 24% โบรกฯ ชี้ปีนี้ราคาหุ้นฟื้นตัวได้อีก
%20copy_0.jpg)
ITC ราคาดิ่งลึกกว่า 16% โบรกฯ ชี้กำไรไตรมาส 1/68 อ่อนเกินคาด พร้อมสั่ง “ขาย” ราคาเหมาะสม 11.50 บาท
_0.jpg)
เซียนวิเคราะห์ราคาทอง! หากหลุด 3,300 ดอลลาร์ ระยะสั้นขาลง ระวังเทขายครั้งใหญ่
_0.jpg)