"ฟิลลิปประกันชีวิต"เปิดแผน 5ปี ตั้งเป้าติดท็อปเท็น เบี้ยรับประกันภัยใหม่แตะ 5,000 ล้านบาท หรืออย่างน้อยปีละ 2,000 ล้านบาท และขึ้นอันดับ 1 ด้านอินชัวร์เทค
นายธฤทธิ์ พรหมนารถ กรรมการผู้จัดการ บริษัทฟิลลิปประกันชีวิต เปิดเผยแผนการเติบโตของบริษัทในด้านเบี้ยประกันภัยและกำไรใน 5 ปี โดยเริ่มจากปีนี้ ซึ่งเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลง( Year of Transformation ) เพื่อนำไปสู่เป้าหมายการสร้างเบี้ยประกันภัยใหม่ ซึ่งมีความเติบโตอย่างมั่นคง ด้วยช่องทางการขายแบบ Multi Channel อันได้แก่ ตัวแทนประกันชีวิต B2B B2C และ FA พัฒนา Digital Face to Face
โดยภายใน 5ปี เบี้ยประกันภัยใหม่ของบริษัทจะต้องขึ้นมาอยู่ใน Topten ของธุรกิจประกันชีวิตในไทยหรือมีเบี้ยประกันภัยใหม่มากกว่า 5,000 ล้านบาทหรือ อย่างน้อยปีละ 2,000 ล้านบาท ขณะที่แผนระยะ3 ปีนั้นเราจะเป็นอันดับ 1 ในด้านอินชัวร์เทค
ทั้งนี้เพื่อรองรับการเติบโตให้ได้ตามเป้าหมาย บริษัทมีแผนการเพิ่มทั้งตัวแทน พันธมิตร และที่ปรึกษาทางการลงทุนหรือ FA ที่จะให้คำปรึกษากับลูกค้า โดยตัวแทนมีแผนเพิ่มให้ได้ 3,000 คน จาก 2,000 คน ในปัจจุบัน ส่วนFAนั้นจะเพิ่มให้ได้ระดับ1,000 คนใน 3 ปี
ส่วนผลิตภัณฑ์ ที่จะออกมาจะต้องเน้นในเรื่องของความง่าย เข้าใจง่าย เข้าถึงง่าย โดยจะมีความชัดเจนที่เห็นเป็นรูปธรรมภายในไตรมาส 2 นี้
นายธฤทธิ์ กล่าวว่า ในส่วนของเงินและพอร์ตลงทุนที่มีอยู่ประมาณ4,000 ล้านบาทนั้น ที่ผ่านมาให้น้ำหนักและเน้นลงทุนในต่างประเทศเป็นหลัก แต่ปัจจุบันบริษัทจะเน้นให้ความสำคัญและเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในประเทศเพิ่มมากขึ้น และลดการลงทุนต่างประเทศจากเดิม 25% ลดเหลือ 20% ซึ่งผลของการหันมาให้น้ำหนักการลงทุนในประเทศเพิ่มขึ้นจะทำให้ เงินกองทุน หรือ CARของบริษัทขยับขึ้นมาอยู่เหนือ 200% จากปัจจุบัน อยู่ในระดับ 170%
ด้านนายปรีชา ไพบูลย์วุฒิโชค รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายการตลาด B2B & B2C กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทเน้นธุรกิจที่สร้างผลกำไรจากพันธมิตรหรือคู่ค้าและลูกค้าที่มีคุณภาพ เน้นผลิตภัณฑ์ประเภทสินเชื่อมากขึ้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของพันธมิตรและเพิ่มเครื่องมือการขายเพื่อสนับสนุนการขายของพันธมิตร
นายอภิพงศ์ พงศ์เสาวภาคย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ-ฝ่ายขาย กล่าวว่า ปีนี้บริษัทจะเน้นการสร้างตัวแทนใหม่ของตัวเองเป็นหลัก รวมทั้งการสร้าง FA หรือที่ปรึกษาทางการเงิน โดยชักชวนให้ตัวแทนประกันชีวิตสอบขอรับใบอนุญาตผู้แนะนำการลงทุน เพื่อให้สามารถขายประกันชีวิตควบหน่วยลงทุน
นายธฤทธิ์ พรหมนารถ กรรมการผู้จัดการ บริษัทฟิลลิปประกันชีวิต เปิดเผยแผนการเติบโตของบริษัทในด้านเบี้ยประกันภัยและกำไรใน 5 ปี โดยเริ่มจากปีนี้ ซึ่งเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลง( Year of Transformation ) เพื่อนำไปสู่เป้าหมายการสร้างเบี้ยประกันภัยใหม่ ซึ่งมีความเติบโตอย่างมั่นคง ด้วยช่องทางการขายแบบ Multi Channel อันได้แก่ ตัวแทนประกันชีวิต B2B B2C และ FA พัฒนา Digital Face to Face
โดยภายใน 5ปี เบี้ยประกันภัยใหม่ของบริษัทจะต้องขึ้นมาอยู่ใน Topten ของธุรกิจประกันชีวิตในไทยหรือมีเบี้ยประกันภัยใหม่มากกว่า 5,000 ล้านบาทหรือ อย่างน้อยปีละ 2,000 ล้านบาท ขณะที่แผนระยะ3 ปีนั้นเราจะเป็นอันดับ 1 ในด้านอินชัวร์เทค
ทั้งนี้เพื่อรองรับการเติบโตให้ได้ตามเป้าหมาย บริษัทมีแผนการเพิ่มทั้งตัวแทน พันธมิตร และที่ปรึกษาทางการลงทุนหรือ FA ที่จะให้คำปรึกษากับลูกค้า โดยตัวแทนมีแผนเพิ่มให้ได้ 3,000 คน จาก 2,000 คน ในปัจจุบัน ส่วนFAนั้นจะเพิ่มให้ได้ระดับ1,000 คนใน 3 ปี
ส่วนผลิตภัณฑ์ ที่จะออกมาจะต้องเน้นในเรื่องของความง่าย เข้าใจง่าย เข้าถึงง่าย โดยจะมีความชัดเจนที่เห็นเป็นรูปธรรมภายในไตรมาส 2 นี้
นายธฤทธิ์ กล่าวว่า ในส่วนของเงินและพอร์ตลงทุนที่มีอยู่ประมาณ4,000 ล้านบาทนั้น ที่ผ่านมาให้น้ำหนักและเน้นลงทุนในต่างประเทศเป็นหลัก แต่ปัจจุบันบริษัทจะเน้นให้ความสำคัญและเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในประเทศเพิ่มมากขึ้น และลดการลงทุนต่างประเทศจากเดิม 25% ลดเหลือ 20% ซึ่งผลของการหันมาให้น้ำหนักการลงทุนในประเทศเพิ่มขึ้นจะทำให้ เงินกองทุน หรือ CARของบริษัทขยับขึ้นมาอยู่เหนือ 200% จากปัจจุบัน อยู่ในระดับ 170%
ด้านนายปรีชา ไพบูลย์วุฒิโชค รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายการตลาด B2B & B2C กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทเน้นธุรกิจที่สร้างผลกำไรจากพันธมิตรหรือคู่ค้าและลูกค้าที่มีคุณภาพ เน้นผลิตภัณฑ์ประเภทสินเชื่อมากขึ้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของพันธมิตรและเพิ่มเครื่องมือการขายเพื่อสนับสนุนการขายของพันธมิตร
นายอภิพงศ์ พงศ์เสาวภาคย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ-ฝ่ายขาย กล่าวว่า ปีนี้บริษัทจะเน้นการสร้างตัวแทนใหม่ของตัวเองเป็นหลัก รวมทั้งการสร้าง FA หรือที่ปรึกษาทางการเงิน โดยชักชวนให้ตัวแทนประกันชีวิตสอบขอรับใบอนุญาตผู้แนะนำการลงทุน เพื่อให้สามารถขายประกันชีวิตควบหน่วยลงทุน