จับประเด็นหุ้นเด่น

รายงานพิเศษ : SFLEX ได้เวลาพลิกฟื้น ราคาขายเพิ่ม-ต้นทุนทรงตัว


16 มีนาคม 2566
ราคาน้ำมันที่ทรงตัวในระดับต่ำ  หลังจากที่ปรับเพิ่มขึ้นมากในช่วงที่ผ่านมา  ทำให้ต้นทุนในการผลิตสินค้าปรับลดลง  รวมทั้งต้นทุนของบริษัท สตาร์เฟล็กซ์  (SFLEX) ที่ปรับตัวดีขึ้น สะท้อนจากกำไรที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง  ทำให้บล.ฟินันเซียไซรัส เชื่อบริษัทเริ่มกลับมาฟื้นตัว แนะนำ “ซื้อ” 
รายงานพิเศษ SFLEX ได้เวลาพลิกฟื้น160323.jpg
บล.ฟินันเซียไซรัส วิเคราะห์หุ้นบริษัท สตาร์เฟล็กซ์ จำกัด (มหาชน) (SFLEX) ผู้ผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อน (Flexible Packaging) สำหรับสินค้าอุปโภคและบริโภค ตามคำสั่งซื้อของลูกค้า (Made to Order) โดยแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ ได้แก่ บรรจุภัณฑ์ประเภทม้วน (Roll Form) และบรรจุภัณฑ์ประเภทซอง โดยระบุว่า  

SFLEX ผู้ผลิตชั้นนำในบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อน
SFLEX เป็นผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อน (Flexible plastic packaging) ที่มีคุณภาพสูง บริษัทฯมีรายได้ส่วนใหญ่ (ประมาณ 60%-70%) จากสินค้าประเภทม้วนฟิล์มที่ขายในประเทศให้แก่อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์สำหรับสินค้าอุปโภค SFLEX เริ่มธุรกิจเมื่อ 20 ปีที่แล้วและได้เจาะเข้าสู่อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์สำหรับสินค้าบริโภคเมื่อไม่นานมานี้

ในปี 2022 บรรจุภัณฑ์สำหรับสินค้าอุปโภคคิดเป็น 75% ของรายได้รวมและบรรจุภัณฑ์สำหรับสินค้าบริโภคคิดเป็น 24% ในขณะที่ส่วนที่เหลือเป็นฟิล์มป้องกันรอยขีดข่วน อัตรากำไรฟื้นตัวมาตั้งแต่4Q22  หลังจากถูกกดดันจากต้นทุนวัตถุดิบที่อยู่ในระดับสูงมา 2 ปีตามราคาน้ำมันดิบโลก 

SFLEX รายงานกำไรปกติ 4Q22 อยู่ในเกณฑ์ดีที่ 34 ลบ. นับเป็นกำไรที่สูงที่สุดในรอบ 6 ไตรมาส สะท้อนอัตรากำไรขั้นต้นที่ฟื้นตัวเป็น 15.3% เทียบกับที่เคยตกต่ำสุดถึง 10.8% ใน 3Q22 ในปี 2022 บริษัทฯ รายงานกำไรปกติลดลงมาอยู่ที่ 55 ลบ. (-63% y-y) หลังอัตรากำไรปกติลดลงสู่ระดับต่ำที่สุดในรอบ 6 ปีที่ 3.3% ในด้านบวกคือรายได้จากการขายทรงตัวในระดับสูงที่ 1.7 พันลบ. ลดลงเพียงเล็กน้อยที่ 0.5% y-y หลังโตดีถึง 11% y-y และ 20% y-y ในปี 2020-21  ตามลำดับ

ได้เวลาพลิกฟื้น
จากราคาขายที่ค่อยๆ ปรับในขณะที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกทรงตัว เราคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะเพิ่มขึ้นแตะ 18.5% ในปี 2023 ใกล้ค่าเฉลี่ยในช่วงปี 2020-21 โดยคำนึงถึงค่าไฟฟ้าที่ปรับขึ้นในช่วง 4M23 แล้ว และคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะค่อย ๆ ไต่ขึ้นสู่ระดับก่อนโรคระบาดที่ 20% ในปี 2025 ด้วยเหตุดังกล่าว เราจึงคาดว่ากำไรปกติน่าจะกระโดดเพิ่ม 193% y-y เป็น 160 ลบ. ในปี 2023 และโต 11.8% CAGR มาอยู่ที่ 200 ลบ. ในปี 2025

แนะนำซื้อที่ราคาเป้าหมาย 4.7 บาท
เราแนะนำซื้อ SFLEX ที่ราคาเป้าหมาย 4.7 บาท (24x ของค่า 2023E P/E, -0.5SD ของค่าเฉลี่ย 4 ปีย้อนหลังตั้งแต่เริ่มจดทะเบียนในตลาดฯ) เราเห็นว่าราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลง 41% ในปี 2022 ได้สะท้อนกำไรที่ตกต่ำไปหมดแล้ว ปัจจุบันหุ้นมีการซื้อขายที่ 18.9x ของค่า 2023E  P/E และที่เพียง 12.6x ของค่า 2023E EV/EBITDA (-1.0SD ของค่า P/E และ EV/EBITDA  เฉลี่ย 4 ปีย้อนหลัง) เกือบเท่าจุดต่ำสุดตั้งแต่หุ้นจดทะเบียนในตลาดฯ 

แต่ถ้าผู้ถือหุ้นใช้สิทธิ์ SFLEX-W1 ทั้งหมด กำไรต่อหุ้นปี 2023 น่าจะลดลงจากประมาณการปัจจุบัน 9% ซึ่งจะทำให้ราคาเป้าหมายปี 2023 ของเราลดลงเหลือ 4.3 บาท