Gossip Station..by เจ๊จิ๋ม

เจ๊จิ๋ม..สายเถื่อน 20-03-23


20 มีนาคม 2566
เจ๊จิ๋ม..สายเถื่อน 20-03-23

20-03-23  สวัสดีพี่น้องชาวไทย "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิม www.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยเวลา 7.30 น.มีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ

***สัปดาห์ที่ผ่านมา ดาวโจนส์ปิดที่ 31,861.98 จุด ลดลง 384.57 จุด หรือ -1.19% เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นออกมา ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับวิกฤตในภาคธนาคาร และความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอย ส่วนดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,916.64 จุด ลดลง 43.64 จุด หรือ -1.10%  และ ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,630.51 จุด ลดลง 86.76 จุด หรือ -0.74% 

***มีรายงานว่านักลงทุนวิตกเกี่ยวกับวิกฤตในภาคธนาคารอีกครั้ง หลังจากเอสวีบี ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (SVB Financial Group) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (Silicon Valley Bank - SVB) ได้ยื่นเรื่องต่อศาลนิวยอร์กเพื่อขอรับการพิทักษ์ทรัพย์ตามมาตรา 11 ของกฎหมายล้มละลาย ทั้งห่วงว่าการล้มละลายของ SVB และธนาคารซิกเนเจอร์ แบงก์ของสหรัฐในสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น จะลามกระทบต่อไปยังระบบธนาคารทั่วโลก และความวิตกดังกล่าวได้แผ่ขยายไปยังยุโรป โดยหุ้นธนาคารเครดิต สวิส ร่วงลงจากความกังวลเกี่ยวกับปัญหาสภาพคล่องของธนาคาร ซึ่งกระตุ้นให้ผู้กำหนดนโยบายรีบเข้ามาช่วยเหลือเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับตลาด

***ส่วนตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ กูรูหุ้นประเมินว่า SET INDEX จะมีแนวรับที่ 1,535 และ 1,515 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,575 และ 1,585 จุด ตามลำดับ โดยมีปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) วันที่ 21-22 มี.ค. ทิศทางเงินทุนต่างชาติ และประเด็นการเมืองภายในประเทศ

***ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญที่ต้องติดตามดู ได้แก่ ยอดขายบ้านใหม่ ยอดขายบ้านมือสอง ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.พ. รวมถึงดัชนี PMI (เบื้องต้น) เดือนมี.ค. ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ อัตราดอกเบี้ย LPR เดือน มี.ค. ของจีน การประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ตัวเลขเงินเฟ้อเดือนก.พ. ของญี่ปุ่นและอังกฤษ ตลอดจนดัชนี PMI (เบื้องต้น) เดือนมี.ค. ของญี่ปุ่น และยูโรโซน

***อย่างที่เจ๊จิ๋มเคยบอกไว้อ่ะ...ในวิกฤติมีโอกาสเสมอ ตอนนี้สภาพการซื้อขายของตลาดหุ้นคงจะผันผวนหนักหนาเอาการ เพราะข่าวบวก-ข่าวลบ จากฝั่งต่างประเทศมีเข้าทุกวัน "ฝนที่ตกทางโน๊นนนน-หนาวถึงคนทางนี้"   ก้อเป็นธรรมดาที่จะส่งผลมายังฝั่งการลงทุนในประเทศไทยด้วย แต่เราเลือกได้ค่ะ ...หุ้นพื้นฐานแข็งแกร่ง ฐานะการเงินแน่นๆ อนาคตสดใส รายได้กำไรเติบโตสวยๆ ปันผลเจ๋งๆ มีอยู่จริง!!!

***ขอเริ่มจาก MENA หุ้นร้อนฉ่าาาาาของเดือนมีนาฯ นายหญิงคนเก่ง "สุวรรณา ขจรวุฒิเดช"  ออกมาฉายภาพธุรกิจปี 2566 ให้เห็นกันชัดๆถึงทิศทางธุรกิจโลจิสติกส์ปีนี้ว่าน่าจะขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง เพราะเรื่องการแพร่ระบาดของโควิด-19 คลี่คลายลงแล้ส ขณะที่อุตสาหกรรมก่อสร้างมีแนวโน้มที่ดี  โดยเฉพาะธุรกิจให้บริการขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จด้วยรถมิกซ์เซอร์ที่มีโอกาสเติบโตสูงจากอุตสาหกรรมก่อสร้างฟื้นตัวทั้งจากโครงการเมกะโปรเจคต่างๆ ก้อเดินหน้าตามนโยบายภาครัฐที่ขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ รวมถึงโครงการก่อสร้างภาคเอกชนทั้งรายใหญ่และรายย่อยรับอานิสงส์จากการเปิดประเทศด้วย

***ปีนี้ MENA ตั้งเป้ารายได้จะเติบโตอย่างโดดเด่น ต่อเนื่องจากรอบปี 65 ที่มีกำไรสุทธิ  51.18  ล้านบาท หรือ +57.38 % มีรายได้รวม 707.60 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 23.52% โดยทั้งรายได้และกำไรทำสถิติสูงสุดในรอบ 5 ปี นับตั้งแต่ปี 2561 มีกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 115 ล้านบาท เติบโตถึง 27%  อานิสงส์จากการขนส่งสินค้าทุกประเภททั้งซีเมนต์ คอนกรีต สินค้าอุปโภคบริโภค  สินค้าเฉพาะทาง และสินค้าควบคุมอุณหภูมิขยายตัวต่อเนื่อง รวมถึงการขยายงานของบริษัทฯ ทำให้เกิดการประหยัดต่อขนาด (Economies of Scale)

***ณ สิ้นปีที่ผ่านมา MENA มีรถขนส่งให้บริการ 728 คัน แบ่งเป็น รถมิกเซอร์ 472 คัน รถเทรลเลอร์ 68 คัน  หางพ่วงชนิดต่างๆ 105 หาง รถบรรทุก 4-10 ล้อและรถขนส่งควบคุมอุณหภูมิรวมอีก 83 คัน มีพนักงานรวมกว่า 780 คนโดยมีแผนขยายฟลีทรถอย่างต่อเนื่อง มุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในด้านการขนส่งทั้งในส่วนของรถมิกเซอร์ รถเทลเลอร์ รถควบคุมอุณหภูมิ และรถขนส่งสินค้าเฉพาะทางเพื่อต่อยอดห่วงโซ่คุณค่า ซึ่งตั้งเป้ามีรถพร้อมให้บริการอยู่ที่ 820 คันภายในสิ้นปีนี้

***อีกหุ้นที่เงียบๆ แต่งานเพียบนะจ๊ะ APCS หรือ บมจ.เอเซีย พรีซิชั่น ทำธุรกิจด้านงานรับเหมาก่อสร้างด้านพลังงานทุกประเภท จุ๊-จุ๊!!! สายสืบรายงานว่ากำลังเตรียมรับงานใหม่เร็วๆ นี้ ส่วนผู้บริหาร “ สุริยล อุดชาชน” แอบกระซิบว่ามีงานรอประมูลราว 1,500-2,000 ล้านบาท มีลุ้นได้ไม่น้อยกว่า 70 -80%  แถมยังตุน Backlog กว่า 1,200  ล้านบาท ที่จะส่งมอบปีนี้ หนุนผลงานปี 66 เข้าสู่โหมดเติบโตรอบใหม่..ฟันธง!!!

***PCC หุ้นดี-ปันผลเริ่ดดดดดด ภายใต้การบริหารของซีอีโอ “กิตติ สัมฤทธิ์” ปี 65 โชว์ผลงานสุดเริ่ดดดด รายได้แตะ 4,859.99 ล้านบาท เติบโต  33.57% ส่วนกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ 283.79 ล้านบาท พุ่ง 40.02% นับเป็นหุ้นที่มีผลงานโดดเด่น ที่สำคัญบอร์ดยังใจดี!!! จ่ายปันผลเป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.14 บาท เตรียมขึ้น  XD วันที่ 8 พ.ค.นี้ เราลองมาบวก-ลบ-คูณ-หารดูนะ.. ณ ราคาหุ้น 3.30 บาทต่อหุ้นจะมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล(ยิลด์)สูงถึง 4.24% ว๊าวววววว ...เริ่ดดดดดดดดดดด ไม่อยากให้พลาดโอกาสดีๆ เลยอ่ะตะเอ๊งงงงง 

***ประกาศจ๊าาาาา-ประกาศถึงแฟนคลับ SUPER เตรียมตัว!!!! สำหรับการอัพเดทข้อมูล รวมทั้งแผน-กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจโดย  “จอมทรัพย์  โลจายะ” ควงคู่มากับ "กุลชลี นันทสุขเกษม " บอกเลยพกข้อมูลมาแน่นๆ !! ตอบทุกข้อสงสัย พร้อมแจกแจงรายละเอียดและความคืบหน้าโครงการโรงฟ้าพลังงานหมุนเวียนทุกรูปแบบในมือทั้งในประเทศและเวียดนาม  ตลอดจนสตอรี่ใหม่ๆ  ในงานบริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุน (Opportunity Day) วันที่ 21 มีนาคม 2566 นี้  เวลา 9.15 น. ผ่านช่องทาง WWW.Set.or.th/oppday ย้ำ!! ไม่ควรพลาด!!!!