APCO กางแผนธุรกิจปี 66 พัฒนางานวิจัยต่อเนื่อง เพิ่มประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ภูมิคุ้มกันบำบัด ชูนวัตกรรมวัฒนชีวาย้อนวัย/ชะลอวัย สร้างสังคมชีวี 100 ปีมีสุข ปักธงสมาชิก 20,000 คนใน ปีนี้ ด้านภูมิคุ้มกันบำบัดมะเร็ง และโครงการ Bye Bye HIV ขยายฐานดูแลผู้ป่วยในวงกว้าง ผลักดันยอดขายเพิ่ม ผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยง-พันธมิตรจีนเสริมทัพ ตั้งเป้ารายได้โต 30-50% รักษาอัตรากำไรขั้นต้นไม่ต่ำกว่า 80%
ศ.ดร.พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ APCO เจ้าของธุรกิจนวัตกรรมธรรมชาติเพื่อสุขภาพและความงาม ยกระดับคุณภาพชีวิตด้วยการวิจัย พัฒนา ผลิตและจำหน่ายครบวงจร เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจปี 2566 มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง จากภาพรวมตลาดผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ รวมถึงกำลังซื้อผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้น
โดยแผนการดำเนินธุรกิจปีนี้ บริษัทมุ่งเน้นขยายตลาดนวัตกรรมวัฒนชีวาย้อนวัย ชะลอวัย เพื่อสร้างสังคมชีวี 100 ปีมีสุข โดยทำการตลาดเพื่อเพิ่มจำนวนสมาชิกอย่างต่อเนื่อง จากการบอกต่อจากสมาชิกที่ใช้ผลิตภัณฑ์แล้วได้ผล ซึ่งสมาชิกที่แนะนำเพื่อนเข้าร่วมในสังคมวัฒนชีวา 3 ราย ตามเงื่อนไขของบริษัทจะสามารถใช้นวัตกรรมฟรีไปได้ตลอดทุกเดือน ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้ามีสมาชิกครบ 20,000 คน ภายในเดือนกันยายนนี้ ผลักดันยอดขายประมาณ 200 ล้านบาท
ขณะที่ นวัตกรรมภูมิคุ้มกันบำบัดมะเร็ง และ HIV ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ประสบความสำเร็จในการช่วยผู้ประสบปัญหาได้อย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะโครงการ Bye Bye HIV ที่ประสบความสำเร็จในการจัดการกับปัญหา HIV ส่งเสริมให้ผู้ติดเชื้อมีคุณภาพชีวิตเป็นปกติ ไม่ต้องพึ่งพายาต้านไวรัสที่มีผลข้างเคียงต่อไป โดยบริษัทตั้งเป้ารายได้เฉพาะนวัตกรรมภูมิคุ้มกันบำบัดเพิ่มขึ้น 20%
สำหรับผลิตภัณฑ์เพื่อสัตว์เลี้ยงยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตั้งเป้ายอดจำหน่ายในประเทศไทยเพิ่มขึ้น 20% โดยบริษัทวางแผนการส่งออกไปต่างประเทศเพิ่มเติมภายในปี 2566 นี้
ด้านพันธมิตรในประเทศจีนที่นำนวัตกรรมวัฒนชีวาและนวัตกรรมภูมิคุ้มกันบำบัดเข้าไปจำหน่าย คาดว่า ยอดขายจะเพิ่มขึ้นเมื่อมีการปลดล็อคโควิด-19 ประมาณเดือนมีนาคมนี้ เชื่อว่าจะเพิ่มรายได้ให้กับ APCO อย่างมีนัยสำคัญ
“จากกลยุทธ์และแผนการดำเนินงานของบริษัทในปีนี้ รวมถึงความเชื่อมั่นและการยอมรับของผู้บริโภคที่มีต่อผลิตภัณฑ์มีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้สามารถรักษาฐานลูกค้าและยอดจำหน่ายไว้ได้ ประกอบกับการสื่อสารให้ความรู้เรื่องสุขภาพและข้อมูลผลิตภัณฑ์ได้ตรงกลุ่มเป้าหมาย จึงเชื่อว่าผลประกอบการปีนี้จะสามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ 30-50% รักษาอัตรากำไรขั้นต้นไม่ต่ำกว่า 80% และสามารถให้ผลตอบแทนสูงสุดให้กับผู้ถือหุ้นได้เช่นเดิม” ศ.ดร.พิเชษฐ์
ศ.ดร.พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ APCO เจ้าของธุรกิจนวัตกรรมธรรมชาติเพื่อสุขภาพและความงาม ยกระดับคุณภาพชีวิตด้วยการวิจัย พัฒนา ผลิตและจำหน่ายครบวงจร เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจปี 2566 มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง จากภาพรวมตลาดผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ รวมถึงกำลังซื้อผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้น
โดยแผนการดำเนินธุรกิจปีนี้ บริษัทมุ่งเน้นขยายตลาดนวัตกรรมวัฒนชีวาย้อนวัย ชะลอวัย เพื่อสร้างสังคมชีวี 100 ปีมีสุข โดยทำการตลาดเพื่อเพิ่มจำนวนสมาชิกอย่างต่อเนื่อง จากการบอกต่อจากสมาชิกที่ใช้ผลิตภัณฑ์แล้วได้ผล ซึ่งสมาชิกที่แนะนำเพื่อนเข้าร่วมในสังคมวัฒนชีวา 3 ราย ตามเงื่อนไขของบริษัทจะสามารถใช้นวัตกรรมฟรีไปได้ตลอดทุกเดือน ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้ามีสมาชิกครบ 20,000 คน ภายในเดือนกันยายนนี้ ผลักดันยอดขายประมาณ 200 ล้านบาท
ขณะที่ นวัตกรรมภูมิคุ้มกันบำบัดมะเร็ง และ HIV ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ประสบความสำเร็จในการช่วยผู้ประสบปัญหาได้อย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะโครงการ Bye Bye HIV ที่ประสบความสำเร็จในการจัดการกับปัญหา HIV ส่งเสริมให้ผู้ติดเชื้อมีคุณภาพชีวิตเป็นปกติ ไม่ต้องพึ่งพายาต้านไวรัสที่มีผลข้างเคียงต่อไป โดยบริษัทตั้งเป้ารายได้เฉพาะนวัตกรรมภูมิคุ้มกันบำบัดเพิ่มขึ้น 20%
สำหรับผลิตภัณฑ์เพื่อสัตว์เลี้ยงยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตั้งเป้ายอดจำหน่ายในประเทศไทยเพิ่มขึ้น 20% โดยบริษัทวางแผนการส่งออกไปต่างประเทศเพิ่มเติมภายในปี 2566 นี้
ด้านพันธมิตรในประเทศจีนที่นำนวัตกรรมวัฒนชีวาและนวัตกรรมภูมิคุ้มกันบำบัดเข้าไปจำหน่าย คาดว่า ยอดขายจะเพิ่มขึ้นเมื่อมีการปลดล็อคโควิด-19 ประมาณเดือนมีนาคมนี้ เชื่อว่าจะเพิ่มรายได้ให้กับ APCO อย่างมีนัยสำคัญ
“จากกลยุทธ์และแผนการดำเนินงานของบริษัทในปีนี้ รวมถึงความเชื่อมั่นและการยอมรับของผู้บริโภคที่มีต่อผลิตภัณฑ์มีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้สามารถรักษาฐานลูกค้าและยอดจำหน่ายไว้ได้ ประกอบกับการสื่อสารให้ความรู้เรื่องสุขภาพและข้อมูลผลิตภัณฑ์ได้ตรงกลุ่มเป้าหมาย จึงเชื่อว่าผลประกอบการปีนี้จะสามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ 30-50% รักษาอัตรากำไรขั้นต้นไม่ต่ำกว่า 80% และสามารถให้ผลตอบแทนสูงสุดให้กับผู้ถือหุ้นได้เช่นเดิม” ศ.ดร.พิเชษฐ์