Wealth Sharing

กลุ่มมิลล์คอนเดินหน้าพลิกโฉมธุรกิจ โฟกัสธุรกิจรีไซเคิล-สร้างมูลค่าจากขยะอุตสาหกรรม


20 มีนาคม 2566
"มิลล์คอน สตีล"  เดินหน้าพลิกโฉมธุรกิจ  ปักหมุดเสริมความแกร่ง ยกระดับธุรกิจให้เติบโตภายใต้หลัก ESG  มุ่งเน้นกลุ่มธุรกิจรีไซเคิลและธุรกิจที่สร้างมูลค่าเพิ่มจากขยะอุตสาหกรรม รุกคืบศึกษาการลงทุนโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม เพื่อสร้างโอกาสในการแข่งขันและเติบโตอย่างยั่งยืน ส่วนธุรกิจเหล็กพร้อมเปิดทางเจรจาหาพันธมิตร เพิ่มช่องทางในการเติบโต
กลุ่มมิลล์คอนเดินหน้าพลิกโฉมธุรกิจ.jpg
นายประวิทย์ หอรุ่งเรือง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิลล์คอน สตีล จำกัด (มหาชน)  หรือ MILL เปิดเผยว่า  ภาพรวมกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจของกลุ่มมิลล์คอน  บริษัทยังคงเดินหน้าปรับโครงสร้างธุรกิจในกลุ่ม ให้สอดคล้องกับนโยบายหลักที่ต้องการยกระดับสู่ธุรกิจ  ESG ที่ให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และ ธรรมาภิบาล โดยปีนี้บริษัทให้ความสำคัญในการขยายธุรกิจใหม่ มุ่งเน้นกลุ่มธุรกิจรีไซเคิลและธุรกิจที่สร้างมูลค่าเพิ่มจากขยะอุตสาหกรรม  ซึ่งดำเนินธุรกิจโดยบริษัทลูก คือบริษัทเวสท์เทค  เอ็กโพเนนเชียล จำกัด (เดิมชื่อบริษัท ซันเทค รีไซเคิล แอนด์ ดีคาร์บอน จำกัด ปัจจุบันอยู่ระหว่างเปลี่ยนชื่อใหม่)  การขยายฐานธุรกิจครั้งนี้ นับเป็นก้าวใหม่ในการยกระดับธุรกิจในกลุ่มอุตสาหกรรมไปอีกขั้น โดยส่งเสริมการลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและสร้างมูลค่าเพิ่มจากของเหลือใช้ (Waste-to-Value) 

ขณะที่กลุ่มมิลล์คอนฯ ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายเหล็กจากการรีไซเคิล 100% วัสดุมีค่าอื่นที่ไม่ใช่เหล็ก เช่น พลาสติก ฟองน้ำ ยาง สามารถนำไปเป็น "ผลิตภัณฑ์ทดแทนเชื้อเพลิง" (Solid Recovered Fuel หรือ SRF) ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงขยะคุณภาพสูง นำไปผลิตไฟฟ้าจากพลังงานความร้อนได้ 

นายประวิทย์ กล่าวต่อว่า จากการสร้างมูลค่าจากขยะอุตสาหกรรม (Waste-to-Value) ทำให้กลุ่มมิลล์คอนฯ มีแผนจะต่อยอดธุรกิจ โดยอยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อลงทุนในโรงไฟฟ้าจากขยะอุตสาหกรรมและขยะประเภทอื่นๆ สร้างโอกาสเติบโตทางธุรกิจ (New S-Curve) ให้กับบริษัท จากแผนที่ศึกษาไว้ตั้งเป้าจะสามารถก่อตั้งโรงผลิตไฟฟ้าจากขยะรวมได้ประมาณ 30 เมกะวัตต์ 

“กลุ่มบริษัทมิลล์คอนฯ เรามุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจโดยให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมควบคู่กับการดูแลสังคม เป้าหมายคือการต่อยอดธุรกิจจากอุตสาหกรรมเหล็กเดิม สู่ธุรกิจรีไซเคิลอย่างครบวงจร เน้นการใช้ประโยชน์จากวัสดุเหลือใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด (Zero waste)  โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างมูลค่าเพิ่มจากขยะอุตสาหกรรม (Waste-to-Value) ทำให้กลุ่มบริษัทฯ มองเห็นโอกาสในการต่อยอดธุรกิจสู่อุตสาหกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน” นายประวิทย์กล่าว

นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทมิลล์คอนฯ มีแผนที่จะส่งเสริมการสร้างคาร์บอนเครดิตให้กับกลุ่มบริษัทฯ พัฒนาธุรกิจสู่ธุรกิจคาร์บอนต่ำ และเพื่อให้บรรลุเป้าหมายขององค์กรจากอุตสากรรมเหล็กสีเขียว (Green Steel) สู่อุตสาหกรรมรักษ์โลก บริษัทฯ ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 89,250 ตัน/ปี เตรียมพร้อมสู่การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Net-Zero) ในปี 2050

สำหรับธุรกิจเหล็กซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัทนั้น  งมีแผนที่จะปรับโครงสร้างของกลุ่มให้สอดคล้องกับนโยบายหลักที่ต้องการเติบโตอย่างยั่งยืน  โดยอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรทางธุรกิจ (Partner) ในการศึกษาและร่วมลงทุน รวมทั้งขยายธุรกิจด้านอื่นๆ เพื่อสร้างโอกาสการในการแข่งขันอย่างยั่งยืน