PYLON ชี้ภาพรวมอุตสาหกรรมงานก่อสร้างฐานรากปี 2566 ฟื้นตัว การลงทุนของผู้ประกอบการภาคเอกชนกลับมาคึกคักมากขึ้น ส่งผลบวกต่อ PYLON ตุนแบ็กล็อกปัจจุบันที่ 1,600 ล้านบาท เตรียมรับรู้รายได้ส่วนใหญ่ภายในปีนี้
ดร.ชเนศวร์ แสงอารยะกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน) (PYLON) ผู้ประกอบการธุรกิจรับเหมาก่อสร้างงานฐานราก (เสาเข็มเจาะ) เปิดเผยว่าภาพรวมแนวโน้มธุรกิจของบริษัทโค้งแรกของปีนี้จะกลับมาดี ประเมินจากภาพรวมอัตราการใช้เครื่องจักรเฉลี่ยงวด Q1/66 จะกลับมาสูงอยู่ที่ประมาณ 18-20 ชุด/เดือน และมีความต่อเนื่องไปถึงใน Q2/66 ส่งผลบวกต่อผลงานของบริษัทในครึ่งปีแรกปีนี้ ด้วย Backlog ปัจจุบันที่มีปริมาณมากถึง 1,600 ล้านบาท โดยหากไม่รวมงาน Backlog ของ 3 สนามบิน จำนวน 400 ล้านบาท ซึ่งยังมีความไม่แน่นอนว่าจะสามารถเริ่มงานได้เมื่อไหร่ บริษัทจะมี Backlog อยู่ที่ราว 1,200 ล้านบาท ซึ่งถือว่ายังอยู่ในระดับที่ดี โดยจะมีการรับรู้รายได้ในช่วงไตรมาส 1 เป็นจำนวนมากจากงานโครงการที่เลื่อนการรับรู้รายได้มาจากไตรมาส 4/65 และการรับรู้รายได้จะต่อเนื่องมาถึงไตรมาส 2 ส่วนช่วงไตรมาส 3-4 บริษัทน่าจะได้งานโดยเฉพาะงานภาคเอกชนเข้ามาเสริมพอร์ตอย่างต่อเนื่อง
“ภาพรวมอุตสาหกรรมในปี 2566 คาดกลับมาฟื้นตัวและเติบโตได้ดีกว่าปี 2564-2565 โดยบรรยากาศการลงทุนของผู้ประกอบการภาคเอกชนเริ่มคึกคักมากขึ้น ทั้งโครงการมิกซ์ยูส และคอนโดมิเนียมแนวสูง ซึ่งเป็นผลบวกต่อธุรกิจของ PYLON โดยบริษัทยังรับงานโครงการใหม่ๆ เข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะงานภาคเอกชน PYLON ได้งานโครงการคอนโดมิเนียมมาหลายโครงการ หลังมีการเปิดประเทศนักท่องเที่ยวจีนกลับเข้ามา” ดร.ชเนศวร์ กล่าว
ส่วนปัญหาแรงงานตอนนี้จบลงแล้ว แรงงานต่างด้าวปัจจุบันมีเพียงพอต่อการทำงานของเครื่องจักร 20 ชุด นอกจากนี้เนื่องจากงานเสาเข็มเจาะใช้การทำงานในแต่ละโครงการค่อนข้างสั้น ทำให้สามารถควบคุมต้นทุนได้ดี และบริษัทมั่นใจว่าการบริหารจัดการของบริษัทดีที่สุดทั้งในเชิงคุณภาพและประสิทธิภาพ เนื่องจากบริษัทมีการนำแอปพลิเคชั่นและนำระบบ ERP มาใช้ในการบริหาร จึงทำให้บริษัทสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ดร.ชเนศวร์ แสงอารยะกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน) (PYLON) ผู้ประกอบการธุรกิจรับเหมาก่อสร้างงานฐานราก (เสาเข็มเจาะ) เปิดเผยว่าภาพรวมแนวโน้มธุรกิจของบริษัทโค้งแรกของปีนี้จะกลับมาดี ประเมินจากภาพรวมอัตราการใช้เครื่องจักรเฉลี่ยงวด Q1/66 จะกลับมาสูงอยู่ที่ประมาณ 18-20 ชุด/เดือน และมีความต่อเนื่องไปถึงใน Q2/66 ส่งผลบวกต่อผลงานของบริษัทในครึ่งปีแรกปีนี้ ด้วย Backlog ปัจจุบันที่มีปริมาณมากถึง 1,600 ล้านบาท โดยหากไม่รวมงาน Backlog ของ 3 สนามบิน จำนวน 400 ล้านบาท ซึ่งยังมีความไม่แน่นอนว่าจะสามารถเริ่มงานได้เมื่อไหร่ บริษัทจะมี Backlog อยู่ที่ราว 1,200 ล้านบาท ซึ่งถือว่ายังอยู่ในระดับที่ดี โดยจะมีการรับรู้รายได้ในช่วงไตรมาส 1 เป็นจำนวนมากจากงานโครงการที่เลื่อนการรับรู้รายได้มาจากไตรมาส 4/65 และการรับรู้รายได้จะต่อเนื่องมาถึงไตรมาส 2 ส่วนช่วงไตรมาส 3-4 บริษัทน่าจะได้งานโดยเฉพาะงานภาคเอกชนเข้ามาเสริมพอร์ตอย่างต่อเนื่อง
“ภาพรวมอุตสาหกรรมในปี 2566 คาดกลับมาฟื้นตัวและเติบโตได้ดีกว่าปี 2564-2565 โดยบรรยากาศการลงทุนของผู้ประกอบการภาคเอกชนเริ่มคึกคักมากขึ้น ทั้งโครงการมิกซ์ยูส และคอนโดมิเนียมแนวสูง ซึ่งเป็นผลบวกต่อธุรกิจของ PYLON โดยบริษัทยังรับงานโครงการใหม่ๆ เข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะงานภาคเอกชน PYLON ได้งานโครงการคอนโดมิเนียมมาหลายโครงการ หลังมีการเปิดประเทศนักท่องเที่ยวจีนกลับเข้ามา” ดร.ชเนศวร์ กล่าว
ส่วนปัญหาแรงงานตอนนี้จบลงแล้ว แรงงานต่างด้าวปัจจุบันมีเพียงพอต่อการทำงานของเครื่องจักร 20 ชุด นอกจากนี้เนื่องจากงานเสาเข็มเจาะใช้การทำงานในแต่ละโครงการค่อนข้างสั้น ทำให้สามารถควบคุมต้นทุนได้ดี และบริษัทมั่นใจว่าการบริหารจัดการของบริษัทดีที่สุดทั้งในเชิงคุณภาพและประสิทธิภาพ เนื่องจากบริษัทมีการนำแอปพลิเคชั่นและนำระบบ ERP มาใช้ในการบริหาร จึงทำให้บริษัทสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ