Smart Investment

สแกน 4 หุ้นขนส่งโลจิสติกส์ ค่ายไหน EPS แจ่ม-P/E ไม่แพง


24 มีนาคม 2566
Mr.Data

สถานการณ์ความผันผวนของตลาดหุ้นทั่วโลก จากความเสี่ยงสถาบันการเงินในสหรัฐและยุโรป กดดันตลาดหุ้นไทยทิ้งดิ่งแรงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หลุด 1,500 จุด ก่อนกลับมายืนเหนือระดับ 1,500 จุดอีกครั้ง 

หลังธนาคารสหรัฐ และธนาคารกลางในยุโรป เข้ามากอบกู้สถานการณ์ เรียกความเชื่อมั่นนักลงทุน ป้องกันการแห่ถอนเงินฝาก

ขณะที่ปัจจัยในประเทศความชัดเจนการประกาศยุบสภา และจัดให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 

ถือเป็นอีกหนึ่งความหวังที่ช่วยผลักดันเศรษฐกิจไทยฟื้นตัว จากเงินที่สะพัดในช่วงเลือกตั้ง การบร โภคภายในประเทศ และการท่องเที่ยวที่เริ่มฟื้นตัว

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ตลาดหุ้นในช่วงนี้ แม้ SET Index จะกลับมายืนเหนือระดับ 1,500 จุด ได้สำเร็จ แต่ตลาดหุ้นทั่วโลกก็ยังเผชิญกับความผันผวน จากความกังวลปัญหาสถานะทางการเงินของธนาคารพาณิชย์หลายแห่ง ที่ปัญหาเริ่มโผล่

ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังคงคุมเข้มนโยบายการเงิน ผ่านการ “ขึ้นอัตราดอกเบี้ย” เพื่อคุมเงินเฟ้อ

หันมามองหุ้นบ้านเรา….หลายบริษัทปรับตัวลงแรงเกินปัจจัยพื้นฐาน ทั้งๆที่แนวโน้มธุรกิจยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง แทบจะเรียกได้เลยว่า แนวโน้มผลงานนิวไฮ แต่ราคาทำไมถึงนิวโล

Mr.Data มองว่า ในวิกฤติความเชื่อมั่นสถาบันการเงินในสหรัฐและยุโรป ที่กดดันตลาดหุ้นไทยผันผวน ราคาหุ้นบริษัทจดทะเบียนหลายแห่งร่วงแรง เกินปัจจัยพื้นฐาน

หากเราสามารถคัดเลือกหุ้นเด่น…ลงทุนยาว 

โดยใช้ข้อมูลทางการเงินแบบเบสิค อย่าง P/E หรือ EPS มาใช้คัดเลือกหุ้น เชื่อว่าจะสามารถคัดเลือกหุ้นน้ำดีเข้าพอร์ต ในราคาที่เหมาะสม พร้อมลงทุนยาวได้อย่างแน่นอน

เพราะอย่างน้อยการใช้ P/E เปรียบเทียบก็ทำให้เราได้เห็นว่า ราคาหุ้นต่อกำไร ในหุ้นที่เราลงทุนอยู่ในระดับเหมาะสม เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมได้มากน้อยแค่ไหน

ส่วน EPS หรือ Earnings Per Share หรือ กำไรต่อหุ้น คือ อัตราส่วนทางการเงิน (Financial Ratio) ที่ใช้วิเคราะห์งบการเงินของบริษัทที่แสดงในงบกำไรขาดทุน (Income Statement) ที่บอกถึงผลตอบแทนที่นักลงทุน จะได้รับกี่บาทจากการ ถือ 1 หุ้นของบริษัท 

ทั้งนี้ หาก EPS > 0 หมายถึง บริษัทสามารถทำกำไรสุทธิ (Net Profit) หรือนักลงทุนได้รับผลตอบแทนจากการถือ 1 หุ้น


ในทางกลับกัน EPS < 0  หมายถึง บริษัทไม่สามารถกำไรสุทธิ (Net Profit) หรือนักลงทุนขาดทุนจากการถือ 1 หุ้น

….อย่าหลงไปมองเพียงแค่ว่าหุ้นที่เราลงทุน มีรายได้ หรือกำไรมากน้อยแค่ไหน เทียบคู่แข่งในอุตสาหกรรมเดียวกัน

เพราะสาระสำคัญจริงๆที่ควรเจาะลึกลงไปคือ หุ้นที่เราลงทุน…ให้ผลตอบแทนกลับมาเป็นกำไรต่อหุ้น หรือ EPS มากน้อยแค่ไหนเทียบคู่แข่งในอุตสาหกรรมเดียวกัน

นี่ละคือสิ่งที่วัดว่าผลการดำเนินงานใครเจ๋งกว่ากัน

III-LEO-SONIC-WICE.jpg


Mr.Data ถือโอกาสเปรียบเทียบ P/E และ EPS หุ้นกลุ่มโลจิสติกส์ มาให้ดู 

เห็นได้ชัดอย่าง บมจ.ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ (LEO) ที่แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วง 1-3 ปี ข้างหน้ามีโอกาสสร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง จากดีล M&A ร่วมกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ แต่ราคากลับมาทดสอบจุดต่ำสุดใหม่ 

บล.ดาโอ (ประเทศไทย) แนะนำ “ซื้อ” LEO
ราคาเป้าหมาย 13 บาท ราคาหุ้นปรับฐานสะท้อนผลการดำเนินงานที่ต่ำในไตรมาส 4/2565

สำหรับไตรมาส 1/2566 จะเริ่มรับรู้รายได้จากธุรกิจขนส่งทางราง (ไทย-จีน) และติดตาม JV และ M&A ใหม่ๆ ในปี 2566 

ด้านธุรกิจเดิมประเมินการขนส่งทางอากาศฟื้นตัว ส่วนค่าระวางเรือคาดจะเริ่มฟื้นในครึ่งหลังปี 2566 โดย Bloomberg Consensus ประเมินกำไรสุทธิปี 2566 ที่ 320 ล้านบาท โต 5% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน