Wealth Sharing
TNITY กางแผนปี66 ลุยธุรกิจวาณิชธนกิจ ตั้งเป้ามูลค่าสินทรัพย์กองทุนส่วนบุคคลเติบโต 20%
30 มีนาคม 2566
ดร.วิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด เปิดเผยในงาน Opportunity Day ของ บริษัท ทรีนีตี้ วัฒนา จำกัด (มหาชน) “TNITY” ถึงทิศทางการทำธุรกิจของกลุ่มบริษัทในปี 2566 ว่าบริษัทยังคงยึดมั่นในวิสัยทัศน์ และพันธกิจที่จะทำให้ผู้ถือหุ้นและนักลงทุนให้ได้รับผลตอบแทนที่ดีกว่าตลาด ถึงแม้ปีนี้ตลาดหุ้นยังผันผวนแต่ด้วยการที่บริษัทมี 5 จุดแกร่งที่สำคัญคือ1. การมีธรรมาภิบาล 2.การมีโครงสร้างรายได้ที่กระจายตัวไม่พึ่งพิงธุรกิจใดธุรกิจหนึ่ง 3. การมีใบอนุญาต ในการประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ครบทุกประเภท 4. การมีผู้บริหารระดับสูงที่มีประสบการณ์ในตลาดทุนที่ยาวนาน และ 5. การมีฐานลูกค้า High Net worth จะสนับสนุนให้บริษัทสามารถเติบโตได้เป็นอย่างดี
สำหรับแผนการดำเนินงานในปีนี้บริษัทตั้งเป้าเดินหน้าธุรกิจวาณิชธนกิจอย่างเต็มที่ โดยจะมีการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และ MAI จำนวน 3 บริษัท และบริษัทที่อยู่ระหว่างการดำเนินงาน 8-10 บริษัท ครอบคลุมธุรกิจหลากหลายประเภท ได้แก่ ธุรกิจการเกษตร อาหารและเครื่องดื่ม ขนส่งและโลจิสติกส์ ธุรกิจสื่อและสิ่งพิมพ์ พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ อุตสาหกรรมและเครื่องจักร
บริษัทยังมีงานที่ปรึกษาด้านการปรับโครงสร้างธุรกิจและองค์กร การปรับโครงสร้างทางการเงิน และการควบรวมกิจการทั้งในและต่างประเทศซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินงาน 3-6 บริษัท รวมถึงการเป็นที่ปรึกษาในการจำหน่ายหุ้นกู้มากกว่า 10 บริษัท ได้แก่ ธุรกิจพลังงานทดแทน AMC การเงินและหลักทรัพย์ ประกันภัย เทคโนโลยี และธุรกิจการเกษตร ในส่วนของธุรกิจการจัดการกองทุนส่วนบุคคล บริษัทตั้งเป้าเติบโตขึ้นร้อยละ 20 หรือมีมูลค่าสินทรัพย์รวมของกองทุนส่วนบุคคลอยู่ที่ 3,550 ล้านบาท
ดร.วิศิษฐ์ กล่าวเสริมว่า ในส่วนของการเข้าไปร่วมลงทุนในธุรกิจนอกตลาด ที่ผ่านมาได้เข้าลงทุนในบริษัท ทรีมันนี่ โฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นการร่วมค้า โดยลงทุนในอัตราร้อยละ 30.07 ดำเนินธุรกิจประกอบธุรกิจการให้สินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ (สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์) และธุรกิจอื่นที่เกี่ยวเนื่อง ในปี 2565 บริษัท ทรีมันนี่ โฮลดิ้ง จำกัด มีกำไรจากการดำเนินธุรกิจ 53 ล้านบาท และในอนาคตมีแผน ที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ MAI
นอกจากนี้ บริษัทมีการลงทุนในบริษัทร่วม 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท ดิจิทัล แอสเซ็ท แมเนจเมนท์ จำกัด (DAM) ลงทุนมูลค่า 12.5 ล้านบาท ดำเนินธุรกิจให้บริการแพลตฟอร์มสำหรับ Wealth and Human Resources Management ครบวงจร ขณะนี้อยู่ในระหว่างการพัฒนาแพลตฟอร์ม และในบริษัท ไทยแท็คซ์ ซีบีดี สมาร์ท ฟาร์ม จำกัด ลงทุนมูลค่า 10 ล้านบาท ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการปลูก และ/หรือสกัดและจำหน่าย ช่อดอก ใบ เปลือก ลำต้น และส่วนประกอบอื่นรวมทั้งผลิตภัณฑ์ที่ผลิตกัญชง และ/หรือกัญชาอยู่ในระหว่างการดำเนินการซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคม 2566
สำหรับแผนการดำเนินงานในปีนี้บริษัทตั้งเป้าเดินหน้าธุรกิจวาณิชธนกิจอย่างเต็มที่ โดยจะมีการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และ MAI จำนวน 3 บริษัท และบริษัทที่อยู่ระหว่างการดำเนินงาน 8-10 บริษัท ครอบคลุมธุรกิจหลากหลายประเภท ได้แก่ ธุรกิจการเกษตร อาหารและเครื่องดื่ม ขนส่งและโลจิสติกส์ ธุรกิจสื่อและสิ่งพิมพ์ พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ อุตสาหกรรมและเครื่องจักร
บริษัทยังมีงานที่ปรึกษาด้านการปรับโครงสร้างธุรกิจและองค์กร การปรับโครงสร้างทางการเงิน และการควบรวมกิจการทั้งในและต่างประเทศซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินงาน 3-6 บริษัท รวมถึงการเป็นที่ปรึกษาในการจำหน่ายหุ้นกู้มากกว่า 10 บริษัท ได้แก่ ธุรกิจพลังงานทดแทน AMC การเงินและหลักทรัพย์ ประกันภัย เทคโนโลยี และธุรกิจการเกษตร ในส่วนของธุรกิจการจัดการกองทุนส่วนบุคคล บริษัทตั้งเป้าเติบโตขึ้นร้อยละ 20 หรือมีมูลค่าสินทรัพย์รวมของกองทุนส่วนบุคคลอยู่ที่ 3,550 ล้านบาท
ดร.วิศิษฐ์ กล่าวเสริมว่า ในส่วนของการเข้าไปร่วมลงทุนในธุรกิจนอกตลาด ที่ผ่านมาได้เข้าลงทุนในบริษัท ทรีมันนี่ โฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นการร่วมค้า โดยลงทุนในอัตราร้อยละ 30.07 ดำเนินธุรกิจประกอบธุรกิจการให้สินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ (สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์) และธุรกิจอื่นที่เกี่ยวเนื่อง ในปี 2565 บริษัท ทรีมันนี่ โฮลดิ้ง จำกัด มีกำไรจากการดำเนินธุรกิจ 53 ล้านบาท และในอนาคตมีแผน ที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ MAI
นอกจากนี้ บริษัทมีการลงทุนในบริษัทร่วม 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท ดิจิทัล แอสเซ็ท แมเนจเมนท์ จำกัด (DAM) ลงทุนมูลค่า 12.5 ล้านบาท ดำเนินธุรกิจให้บริการแพลตฟอร์มสำหรับ Wealth and Human Resources Management ครบวงจร ขณะนี้อยู่ในระหว่างการพัฒนาแพลตฟอร์ม และในบริษัท ไทยแท็คซ์ ซีบีดี สมาร์ท ฟาร์ม จำกัด ลงทุนมูลค่า 10 ล้านบาท ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการปลูก และ/หรือสกัดและจำหน่าย ช่อดอก ใบ เปลือก ลำต้น และส่วนประกอบอื่นรวมทั้งผลิตภัณฑ์ที่ผลิตกัญชง และ/หรือกัญชาอยู่ในระหว่างการดำเนินการซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคม 2566