เลขาธิการ คปภ. บูรณาการเต็มพิกัดเปิดตัว “ประกันภัยสวนยางพารา” นำร่องให้เกษตรกรสวนยางจังหวัดชุมพร
ดร. สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เป็นประธานเปิดโครงการ 1 ภาค 1 ผลิตภัณฑ์ (ประกันภัยสวนยางพารา) โดยระบุว่า สำนักงาน คปภ. ให้ความสำคัญอย่างยิ่งในการเติมเต็มองค์ความรู้ด้านประกันภัยให้กับภาคเกษตรกรรมของประเทศเพื่อช่วยในเรื่องการบริหารความเสี่ยง โดยได้ดำเนินการส่งเสริมการพัฒนากรมธรรม์ประกันภัยเพื่อการเกษตรในเชิงรุก
ด้วยการจัดทำโครงการ 1 ภาค 1 ผลิตภัณฑ์ เพื่อส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่เหมาะสมและสอดคล้องกับความต้องการและความเสี่ยงของประชาชนในท้องถิ่นทั่วประเทศ และเพื่อส่งเสริมความรู้ความเข้าใจด้านการประกันภัยให้กลุ่มเป้าหมายและประชาชนในท้องถิ่นให้เข้าถึงระบบประกันภัย
รวมทั้งช่วยพัฒนาและส่งเสริมให้มีผลิตภัณฑ์ประกันภัยด้านการเกษตรในแต่ละพื้นที่ เช่น ประกันภัยทุเรียนภูเขาไฟ ของจังหวัดศรีสะเกษ การประกันภัยอ้อย จังหวัดอุทัยธานี และประกันภัยยางพาราในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี และได้มีการขยายผลต่อในพื้นที่จังหวัดชุมพร เนื่องจากยางพาราเป็นพืชเศรษฐกิจหลักที่สำคัญเป็นอันดับหนึ่งของภาคใต้ และเป็นพืชเศรษฐกิจอันดับ 2 ของประเทศ โดยจังหวัดชุมพร มีพื้นที่ปลูกยางพารามากกว่า 781,004 ไร่
ดังนั้นสำนักงาน คปภ. จึงได้ร่วมบูรณาการกับการยางแห่งประเทศไทยจังหวัดชุมพร ในการจัดกิจกรรมเกี่ยวกับการประกันภัยสวนยางพารา เพื่อให้เกษตรกรชาวสวนยางพารามีความรู้ความเข้าใจ และใช้ระบบประกันภัยในการบริหารความเสี่ยง อันจะสร้างความมั่นคงในการประกอบอาชีพและส่งผลทำให้เกษรตรกรชาวสวนยางพารามีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นต่อไป
สำหรับกรมธรรม์ประกันภัยสวนยางพารา ที่นายทะเบียนได้ให้ความเห็นชอบแบบและข้อความกรมธรรม์ประกันภัยไปแล้ว มีเงื่อนไขการรับประกันภัยต้นยางช่วงอายุ 7-26 ปี โดยจะให้ความคุ้มครองภัยธรรมชาติหลัก สำหรับความเสียหายของต้นยางพาราที่ปลูกในพื้นที่เพาะปลูกที่เอาประกันภัย ซึ่งได้รับความเสียหายโดยสิ้นเชิง อันเป็นผลเนื่องจาก 1) ไฟไหม้ รวมถึงไฟไหม้ที่เกิดจากหรือเป็นผลมาจากฟ้าผ่า 2) ภัยน้ำท่วม 3) ภัยลมพายุ ซึ่งความคุ้มครองดังกล่าวจะช่วยให้เกษตรกรผู้ปลูกยางพารามีเครื่องมือประกันภัยเพื่อบริหารความเสี่ยงต่อภัยธรรมชาติ เบี้ยประกันภัยรายปี (รวมอากรแสตมป์และภาษีมูลค่าเพิ่ม) 99 บาทต่อไร่ จำนวนเงินเอาประกันภัย 1,600 บาทต่อไร่
ด้านนายวิสาห์ พูลศิริรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร กล่าวขอบคุณสำนักงาน คปภ. ที่ได้คัดเลือกให้จังหวัดชุมพร เป็นจังหวัดเป้าหมายของการจัดอบรมเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจตามโครงการ 1 ภาค 1 ผลิตภัณฑ์ (ประกันภัยสวนยางพารา) ซึ่งมีความเหมาะสมและจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับพี่น้องเกษตรกรชาวจังหวัดชุมพร เพื่อให้การประกันภัยเข้ามาเติมเต็มและเป็นเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติให้กับเกษตรกรชาวสวนยางจังหวัดชุมพร ดังนั้นประกันภัยสวนยางพารา จึงมีความสำคัญและเป็นประโยชน์อันจะสร้างความมั่นคงในการประกอบอาชีพ และส่งผลให้เกษตรกรชาวสวนยางมีคุณภาพชีวิตดีขึ้นต่อไป
ดร. สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เป็นประธานเปิดโครงการ 1 ภาค 1 ผลิตภัณฑ์ (ประกันภัยสวนยางพารา) โดยระบุว่า สำนักงาน คปภ. ให้ความสำคัญอย่างยิ่งในการเติมเต็มองค์ความรู้ด้านประกันภัยให้กับภาคเกษตรกรรมของประเทศเพื่อช่วยในเรื่องการบริหารความเสี่ยง โดยได้ดำเนินการส่งเสริมการพัฒนากรมธรรม์ประกันภัยเพื่อการเกษตรในเชิงรุก
ด้วยการจัดทำโครงการ 1 ภาค 1 ผลิตภัณฑ์ เพื่อส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่เหมาะสมและสอดคล้องกับความต้องการและความเสี่ยงของประชาชนในท้องถิ่นทั่วประเทศ และเพื่อส่งเสริมความรู้ความเข้าใจด้านการประกันภัยให้กลุ่มเป้าหมายและประชาชนในท้องถิ่นให้เข้าถึงระบบประกันภัย
รวมทั้งช่วยพัฒนาและส่งเสริมให้มีผลิตภัณฑ์ประกันภัยด้านการเกษตรในแต่ละพื้นที่ เช่น ประกันภัยทุเรียนภูเขาไฟ ของจังหวัดศรีสะเกษ การประกันภัยอ้อย จังหวัดอุทัยธานี และประกันภัยยางพาราในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี และได้มีการขยายผลต่อในพื้นที่จังหวัดชุมพร เนื่องจากยางพาราเป็นพืชเศรษฐกิจหลักที่สำคัญเป็นอันดับหนึ่งของภาคใต้ และเป็นพืชเศรษฐกิจอันดับ 2 ของประเทศ โดยจังหวัดชุมพร มีพื้นที่ปลูกยางพารามากกว่า 781,004 ไร่
ดังนั้นสำนักงาน คปภ. จึงได้ร่วมบูรณาการกับการยางแห่งประเทศไทยจังหวัดชุมพร ในการจัดกิจกรรมเกี่ยวกับการประกันภัยสวนยางพารา เพื่อให้เกษตรกรชาวสวนยางพารามีความรู้ความเข้าใจ และใช้ระบบประกันภัยในการบริหารความเสี่ยง อันจะสร้างความมั่นคงในการประกอบอาชีพและส่งผลทำให้เกษรตรกรชาวสวนยางพารามีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นต่อไป
สำหรับกรมธรรม์ประกันภัยสวนยางพารา ที่นายทะเบียนได้ให้ความเห็นชอบแบบและข้อความกรมธรรม์ประกันภัยไปแล้ว มีเงื่อนไขการรับประกันภัยต้นยางช่วงอายุ 7-26 ปี โดยจะให้ความคุ้มครองภัยธรรมชาติหลัก สำหรับความเสียหายของต้นยางพาราที่ปลูกในพื้นที่เพาะปลูกที่เอาประกันภัย ซึ่งได้รับความเสียหายโดยสิ้นเชิง อันเป็นผลเนื่องจาก 1) ไฟไหม้ รวมถึงไฟไหม้ที่เกิดจากหรือเป็นผลมาจากฟ้าผ่า 2) ภัยน้ำท่วม 3) ภัยลมพายุ ซึ่งความคุ้มครองดังกล่าวจะช่วยให้เกษตรกรผู้ปลูกยางพารามีเครื่องมือประกันภัยเพื่อบริหารความเสี่ยงต่อภัยธรรมชาติ เบี้ยประกันภัยรายปี (รวมอากรแสตมป์และภาษีมูลค่าเพิ่ม) 99 บาทต่อไร่ จำนวนเงินเอาประกันภัย 1,600 บาทต่อไร่
ด้านนายวิสาห์ พูลศิริรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร กล่าวขอบคุณสำนักงาน คปภ. ที่ได้คัดเลือกให้จังหวัดชุมพร เป็นจังหวัดเป้าหมายของการจัดอบรมเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจตามโครงการ 1 ภาค 1 ผลิตภัณฑ์ (ประกันภัยสวนยางพารา) ซึ่งมีความเหมาะสมและจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับพี่น้องเกษตรกรชาวจังหวัดชุมพร เพื่อให้การประกันภัยเข้ามาเติมเต็มและเป็นเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติให้กับเกษตรกรชาวสวนยางจังหวัดชุมพร ดังนั้นประกันภัยสวนยางพารา จึงมีความสำคัญและเป็นประโยชน์อันจะสร้างความมั่นคงในการประกอบอาชีพ และส่งผลให้เกษตรกรชาวสวนยางมีคุณภาพชีวิตดีขึ้นต่อไป