จับประเด็นหุ้นเด่น

รายงานพิเศษ : MENA โดดเด่นหลังผนึกกลุ่มตะวันแดง หนุนปี 2566 กำไร “New High”


31 มีนาคม 2566
ความร่วมมือทางธุรกิจโดยเป็นพันธมิตรกับกลุ่มตะวันแดง หนุนการเติบโตของ บริษัท มีนาทรานสปอร์ต (MENA) แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น บล.ทรีนีตี้ คาดปี 2566 บริษัททำกำไร New high 

รายงานพิเศษ MENA.jpg

บล.ทรีนีตี้ วิเคราะห์หุ้น บริษัท มีนาทรานสปอร์ต (MENA) หลังจากตั้งบริษัทร่วมทุนกับกลุ่มตะวันแดง  โดยระบุว่า เป็นโอกาสเติบโตครั้งใหญ่กับกลุ่มตะวันแดง  โดยบริษัทได้ร่วมลงทุนกับ บริษัทตะวันแดง โลจีสติกส์ จำกัด ในการจัดตั้งบริษัท ทีดี เอ็ม ลอจิสติกส์ จำกัด (“TDM”) ซึ่งให้บริการขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภคให้กับบริษัท ซี.เจ. เอ็กซ์เพรส (“CJ”)โดย MENA ถือหุ้น 35% 

การร่วมทุนในครั้งนี้เกิดจากบริษัทตะวันแดง โลจีสติกส์ จำกัด  ได้เห็นถึงความสามารถของบริษัทในการบริหารจัดการกองรถที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งบริษัทร่วมทุน TDM จะมีกองรถที่บริษัทจะเข้าไปร่วมบริหารกว่า 200 คันเพื่อขนส่งสินค้าให้กับกลุ่มร้านค้า CJ MORE, CJ EXPRESS และ ร้านถูกดี มีมาตรฐาน 

โอกาสการเติบโตของบริษัทไปพร้อมกับการขยายจำนวนสาขาของ CJ MORE, CJ EXPRESS และ ถูกดี มีมาตรฐาน ในปัจจุบันกลุ่ม CJ มีจำนวนร้านค้าประมาณ 1 พันสาขา ครอบคลุม 42 จังหวัด ซึ่งทาง CJ มีเป้าจะสาขาทั้งสิ้น 2 พนั สาขาภายในปี 2569 และ ร้านถูกดี มีมาตรฐาน มีจำนวนสาขากว่า 5 พันสาขา และมีเป้าที่จะขยายเป็น 1 หมื่นสาขาในอีก3 ปี  ดังนั้นการเพิ่มขึ้นของสาขาจะทำให้ปริมาณการขนส่งสินค้าและจำนวนเที่ยวเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย

หลังจากที่บริษัทได้IPO เข้ามา ทำให้ฐานทุนของบริษัทมีขนาดที่ใหญ่ขึ้น และบริษัทมีD/E ที่ต่ำเพียง 0.36 เท่า ทำให้บริษัทสามารถหาแหล่งเงินกู้เพื่อมาขยายธุรกิจได้  ซึ่งปัจจุบันบริษัทกำลังอยู่ในระหว่างการศึกษาหา M&A ในการขยายกิจการโดยอาศัยจุดแข็งความชำนาญที่การบริหารจัดกการกองรถขนาดใหญ่ที่มีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ประเมินกำไรในปี 2566-2567 จะอยู่ที่ 74 และ 99 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 37% YoY และ 34% YoY ตามลำดับ โดยเป็นผลมาจากทั้งการเติบโตของกองรถโม่ที่เพิ่มขึ้นกว่า 100 คัน และส่วนแบ่งรายได้จาก TMD ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ หนุนปี 2566 บริษัททำกำไร New high 

แนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมาย 3 บาทต่อหุ้น (อิง PE 30 เท่า หรือ PEG ที่ 0.85 เท่า ) ประเมินการเติบโตของกำไรในปี 2566-67 จะมี CAGR กว่า 35% และมีโอกาสในการทำ M&A  แต่ความเสี่ยงที่ต้องติดตามได้แก่  ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น, ภาวะถดถอยของเศรษฐกิจ
          
ขณะที่นางสุวรรณา ขจรวุฒิเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MENA กล่าวว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนการขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภคในตลาดเฉพาะทางที่มีความเติบโตอย่างต่อเนื่องให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นแผนสร้างการเติบโตในส่วนของธุรกิจ MENA ยังไม่รวมถึงการเติบโตจากการร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจรายใหญ่โดยผ่านบริษัทร่วมทุน คือ ทีดี เอ็ม ลอจิสติกส์ จำกัด (TDM) ที่คาดว่าช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจในอนาคต
           
ณ วันที่ 31 ธ.ค.65  MENA มีรถขนส่งให้บริการ 728 คัน แบ่งเป็น รถมิกเซอร์ 472 คัน รถเทรลเลอร์ 68 คัน  หางพ่วงชนิดต่างๆ 105 หาง รถบรรทุก 4-10 ล้อและรถขนส่งควบคุมอุณหภูมิรวมอีก 83 คัน มีพนักงานรวมกว่า 780 คนโดยมีแผนขยายฟลีทรถอย่างต่อเนื่อง มุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในด้านการขนส่งทั้งในส่วนของรถมิกเซอร์ รถเทลเลอร์ รถควบคุมอุณหภูมิ และรถขนส่งสินค้าเฉพาะทางเพื่อต่อยอดห่วงโซ่คุณค่า ซึ่งตั้งเป้ามีรถพร้อมให้บริการอยู่ที่ 820 คันภายในสิ้นปีนี้
           
"MENA มุ่งมั่นในการบริหารงานเพื่อตอบโจทย์ความต้องการลูกค้า รวมถึงการควบคุมคุณภาพบริการขนส่ง ควบคู่กับการคำนึงถึงสังคม สิ่งแวดล้อมและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่างๆ ทำให้เป็นผู้ให้บริการด้านงานขนส่งเบอร์ต้นๆ ของประเทศที่มีฐานลูกค้า ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำไว้วางใจใช้บริการ และวันนี้ เราไม่ใช่แค่ผู้ให้บริการขนส่งด้วยรถมิกซ์เซอร์ แต่กำลังขยายไปยังตลาดที่มีศักยภาพ และมีขนาดที่ใหญ่ขึ้น เพื่อผลักดันการเติบโตอย่างก้าวกระโดดและมีความแข็งแกร่ง" นางสุวรรณา กล่าว