จับประเด็นหุ้นเด่น
รายงานพิเศษ : WP ผลงานไตรมาส1/66 รับผลดี“ท่องเที่ยว-บริโภคในประเทศ” โต
03 เมษายน 2566
การใช้พลังงานโดยเฉพาะก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ยังปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตามการเติบโตของเศรษฐกิจ การอุปโภคบริโภคในประเทศ และการเดินทางท่องเที่ยวของคนไทยและต่างประเทศ สนับสนุนธุรกิจ บมจ.ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ (WP) ไตรมาสแรกเติบโตต่อเนื่องตามแผน
โดยภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง น.ส.นันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน ระบุว่า เดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ 2566 การใช้เฉลี่ยอยู่ที่ 161.78 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้น 5.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวภาย หลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายไปในทิศทางที่ดี ส่งผลให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทย รวมถึงคนไทยมีการเดินทางในประเทศเพิ่มมากขึ้น
โดยภาพรวมการใช้เชื้อเพลิง เดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ 2566 เฉลี่ยอยู่ที่ 17.13 ล้านกก./วัน ลดลง 0.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนเ เป็นการลดลงของภาคปิโตรเคมีลดลงมาอยู่ที่ 6.63 ล้านกก./วัน ลดลง 11.0% ขณะที่การใช้ในภาคขนส่ง อยู่ที่ 2.32 ล้านกก./วัน เพิ่มขึ้น20.3% ภาคครัวเรือนอยู่ที่ 6.11 ล้านกก./วัน เพิ่มขึ้น 5.0% และภาคอุตสาหกรรม อยู่ที่ 2.08 ล้านกก./วัน เพิ่มขึ้น 1.9%
นอกจากนี้ราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้น ก็มีส่วนสนับสนุนการเติบโตของก๊าซ LPG ในกลุ่มผู้ใช้รถยนต์ โดยเมื่อวันที่ 2 เม.ย. 2566 ที่ผ่านมากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ประกาศปรับลดการผลิตน้ำมันลงอีก 1.16 ล้านบาร์เรล/วัน ทำให้ราคาน้ำมันปรับเพิ่มขึ้นและ โกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) สำหรับการส่งมอบในเดือนธันวาคม 2566 จะเพิ่มขึ้น 5 ดอลลาร์ แตะระดับ 95 ดอลลาร์/บาร์เรล และคาดว่าสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งมอบในเดือนธันวาคม 2566 จะเพิ่มขึ้น 3 ดอลลาร์ แตะระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรล
ขณะที่ บมจ.ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ (WP) ประกอบธุรกิจจัดหา จำหน่ายและขนส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลว (Liquefied Petroleum Gas : LPG) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร “ชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง” มั่นใจแนวโน้มธุรกิจ ในไตรมาส 1/2566 ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง
โดยได้รับปัจจัยบวกจากความต้องการใช้ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ปรับตัวเพิ่มขึ้นทั้งในและต่างประเทศโดยเฉพาะกลุ่ม Auto gas รวมถึงแนวโน้มราคาก๊าซ LPG ที่ปรับตัวสูงขึ้นตามราคาตลาดโลก โดยเฉพาะภาคครัวเรือนที่มีทิศทางฟื้นตัวอย่างชัดเจนตามความต้องการใช้มากขึ้น แม้กบง.จะมีมติให้คงราคาก๊าซหุงต้ม ส่งผลให้ราคาก๊าซหุงต้มขนาดถังละ 15 กิโลกรัม ยังอยู่ที่ 423 บาทต่อถัง
ขณะเดียวกันบริษัทฯ ยังมีจุดกระจายสินค้าภาคครัวเรือนที่ครอบคลุมถึง 165 แห่งทั่วประเทศ ทำให้สามารถกระจายสินค้าได้ครอบคลุมทุกพื้นที่มากขึ้น ขณะที่การลงทุนในธุรกิจติดตั้งระบบผลิตพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (โซลาร์รูฟท็อป) ทำให้สามารถรับรู้รายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันธุรกิจโซลาร์รูฟท็อปเซ็นสัญญาลูกค้าไปแล้ว 8 เมกะวัตต์ โดยบริษัทฯ ยังคงเป้ากำลังการผลิตรวมทั้งหมดอยู่ที่ 20 เมกะวัตต์ ภายในปี 2566
ทั้งนี้ บริษัทฯ มั่นใจในศักยภาพการเติบโตของธุรกิจและผลการดำเนินงานในปี 2566 จะเติบโตอย่างต่อเนื่องจากปีก่อน ซึ่งปัจจัยผลักดันการเติบโตมาจากธุรกิจก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) โดยตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 800,000 ตัน แบ่งเป็นยอดขายภายในประเทศจำนวน 775,000 ตัน และส่งออก จำนวน 25,000 ตันซึ่งจะทำให้รายได้รวมไม่ต่ำกว่า 17,000 ล้านบาท
"บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งงบลงทุนไว้กว่า 1,000 ล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนในธุรกิขก๊าซปิโตรเลียมเหลว LPG 300 ล้านบาท การลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทน 500 ล้านบาท และ 200 ล้านบาท เป็นการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ เพื่อผลักดันการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว โดยจะรุกขยายธุรกิจและสร้างผลตอบแทนให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง" นางสาวชมกมล กล่าว
โดยภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง น.ส.นันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน ระบุว่า เดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ 2566 การใช้เฉลี่ยอยู่ที่ 161.78 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้น 5.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวภาย หลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายไปในทิศทางที่ดี ส่งผลให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทย รวมถึงคนไทยมีการเดินทางในประเทศเพิ่มมากขึ้น
โดยภาพรวมการใช้เชื้อเพลิง เดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ 2566 เฉลี่ยอยู่ที่ 17.13 ล้านกก./วัน ลดลง 0.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนเ เป็นการลดลงของภาคปิโตรเคมีลดลงมาอยู่ที่ 6.63 ล้านกก./วัน ลดลง 11.0% ขณะที่การใช้ในภาคขนส่ง อยู่ที่ 2.32 ล้านกก./วัน เพิ่มขึ้น20.3% ภาคครัวเรือนอยู่ที่ 6.11 ล้านกก./วัน เพิ่มขึ้น 5.0% และภาคอุตสาหกรรม อยู่ที่ 2.08 ล้านกก./วัน เพิ่มขึ้น 1.9%
นอกจากนี้ราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้น ก็มีส่วนสนับสนุนการเติบโตของก๊าซ LPG ในกลุ่มผู้ใช้รถยนต์ โดยเมื่อวันที่ 2 เม.ย. 2566 ที่ผ่านมากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ประกาศปรับลดการผลิตน้ำมันลงอีก 1.16 ล้านบาร์เรล/วัน ทำให้ราคาน้ำมันปรับเพิ่มขึ้นและ โกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) สำหรับการส่งมอบในเดือนธันวาคม 2566 จะเพิ่มขึ้น 5 ดอลลาร์ แตะระดับ 95 ดอลลาร์/บาร์เรล และคาดว่าสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งมอบในเดือนธันวาคม 2566 จะเพิ่มขึ้น 3 ดอลลาร์ แตะระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรล
ขณะที่ บมจ.ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ (WP) ประกอบธุรกิจจัดหา จำหน่ายและขนส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลว (Liquefied Petroleum Gas : LPG) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร “ชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง” มั่นใจแนวโน้มธุรกิจ ในไตรมาส 1/2566 ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง
โดยได้รับปัจจัยบวกจากความต้องการใช้ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ปรับตัวเพิ่มขึ้นทั้งในและต่างประเทศโดยเฉพาะกลุ่ม Auto gas รวมถึงแนวโน้มราคาก๊าซ LPG ที่ปรับตัวสูงขึ้นตามราคาตลาดโลก โดยเฉพาะภาคครัวเรือนที่มีทิศทางฟื้นตัวอย่างชัดเจนตามความต้องการใช้มากขึ้น แม้กบง.จะมีมติให้คงราคาก๊าซหุงต้ม ส่งผลให้ราคาก๊าซหุงต้มขนาดถังละ 15 กิโลกรัม ยังอยู่ที่ 423 บาทต่อถัง
ขณะเดียวกันบริษัทฯ ยังมีจุดกระจายสินค้าภาคครัวเรือนที่ครอบคลุมถึง 165 แห่งทั่วประเทศ ทำให้สามารถกระจายสินค้าได้ครอบคลุมทุกพื้นที่มากขึ้น ขณะที่การลงทุนในธุรกิจติดตั้งระบบผลิตพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (โซลาร์รูฟท็อป) ทำให้สามารถรับรู้รายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันธุรกิจโซลาร์รูฟท็อปเซ็นสัญญาลูกค้าไปแล้ว 8 เมกะวัตต์ โดยบริษัทฯ ยังคงเป้ากำลังการผลิตรวมทั้งหมดอยู่ที่ 20 เมกะวัตต์ ภายในปี 2566
ทั้งนี้ บริษัทฯ มั่นใจในศักยภาพการเติบโตของธุรกิจและผลการดำเนินงานในปี 2566 จะเติบโตอย่างต่อเนื่องจากปีก่อน ซึ่งปัจจัยผลักดันการเติบโตมาจากธุรกิจก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) โดยตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 800,000 ตัน แบ่งเป็นยอดขายภายในประเทศจำนวน 775,000 ตัน และส่งออก จำนวน 25,000 ตันซึ่งจะทำให้รายได้รวมไม่ต่ำกว่า 17,000 ล้านบาท
"บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งงบลงทุนไว้กว่า 1,000 ล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนในธุรกิขก๊าซปิโตรเลียมเหลว LPG 300 ล้านบาท การลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทน 500 ล้านบาท และ 200 ล้านบาท เป็นการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ เพื่อผลักดันการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว โดยจะรุกขยายธุรกิจและสร้างผลตอบแทนให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง" นางสาวชมกมล กล่าว