จับประเด็นหุ้นเด่น
รายงานพิเศษ : ตลาดไอทีในประเทศปี 66 โตกว่า 4% หนุนผลงาน ITNS ทำสถิติสูงสุด
05 เมษายน 2566
ตลาดไอทีและค่าใช้จ่ายด้านไอทีปีนี้ยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ส่งผลดีต่อธุรกิจ บมจ.อินเตอร์เนชั่นแนล เน็ตเวิร์ค ซิสเต็ม (ITNS) ผู้บริหารมั่นใจผลการดำเนินงานปีนี้ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์
บล.ดาโอ วิเคราะห์หุ้น บมจ.อินเตอร์เนชั่นแนล เน็ตเวิร์ค ซิสเต็ม (ITNS) โดยระบุว่า บริษัทยังคงคำแนะนำ“ซื้อ” และราคาเป้าหมาย 5.50 บาท อิง 2023E PER ที่ 17.0 เท่า เทียบเท่าค่าเฉลี่ยของธุรกิจใกล้เคียงกันด้าน system integration(SI) เรามองเป็นบวกจากการประชุม SET Opportunity Day วานนี้ (3 เม.ย.) โดยมีประเด็นสำคัญ ได้แก่
1) ITNS ประเมินตลาด IT ปี 2023E จะเติบโตดีขึ้น โดยการ์ทเนอร์ (บริษัทที่จัดทำการวิจัยเกี่ยวกับ IT) ได้คาดการณ์มูลค่าการใช้จ่ายด้าน IT service จะเติบโต +10.4%
2) ตั้งเป้ารายได้ปี 2023E จะเติบโต +25%-30% YoY หรืออยู่ที่ราว 700 ล้านบาท
3) backlog ณ สิ้นปี 2022 อยู่ที่ 417 ล้านบาท โดยจะรับรู้รายได้ในปี 2023E ที่ 332 ล้านบาท ขณะที่ เดือน ม.ค.-ก.พ.23 ได้ backlog เพิ่ม 75 ล้านบาท และอยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญาอีก 147 ล้านบาท
4) มีแผนทำ M&A ในปี 2023E อย่างน้อง 1 ดีล เร็วๆ นี้โดยจะเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ cyber security หรือทำ software เกี่ยวกับ digital transformation หรือ ERP เป็นต้น
บริษัทยังคงประมาณการกำไรปี 2023E ทำสถิติสูงสุดใหม่ 70 ล้านบาท +26% YoY โดยประเมินรายได้จะเติบโตเป็น 704 ล้านบาท +28% YoY จาก backlog ที่ทรงตัวสูง และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากแผนเข้าประมูลงานใหม่ในปี 2023E รวมถึง 1.4 พันล้านบาท สำหรับ 1Q23E เราประเมินจะมีกำไรราว 13-16 ล้านบาท ดีขึ้น YoY, ทรงตัว QoQ (1Q22 กำไร 12 ล้านบาท, 4Q22 กำไร 16 ล้านบาท) ขณะที่กำไรส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วง 2H23E ที่จะเป็นช่วง high season ของการรับรู้รายได้
ราคาหุ้น outperform SET +6% ใน 3 เดือน จากกำไร 3Q-4Q22 ที่เติบโตโดดเด่น โดยเรายังคงแนะนำ “ซื้อ” จากกำไรปี 2023E-24E ที่จะยังคงเติบโตได้ดีเฉลี่ย 26% CAGR และกำไรยังมีโอกาส upside จากดีลใหม่ที่คาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆ นี้ ด้าน valuation ปัจจุบันยังน่าสนใจ เทรด 2023E PER ที่ 13.5 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย pee
ขณะที่ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ITNS “สมชาย อ่วมกระทุ่ม” เชื่อว่า ปี 66 ทุกกลุ่มธุรกิจจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่องจากปีก่อนจากการขยายตัวของโครงการทั้งภาคเอกชน และภาครัฐ โดยเฉพาะงานให้เช่าที่จะเติบโตโดดเด่นที่สุด เนื่องจากบริษัทฯ มีความพร้อมทางด้านเงินทุนจะที่ขยายขยายธุรกิจ ซึ่งเป็นรายได้แบบประจำ (recurring) และสามารถตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่มีข้อจำกัดทางการเงินและต้องการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีให้ทันสมัยอย่างสม่ำเสมอ
ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโตประมาณ 25-30% สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง จากธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์ และให้บริการติดตั้งประมาณ คาดการณ์เติบโตประมาณ 30% จากการขยายตัวของเศรษฐกิจ ส่วนธุรกิจให้บริการดูแลและบำรุงรักษาระบบภายหลังการขาย คาดการณ์เติบโตประมาณ 10% และธุรกิจให้เช่าอุปกรณ์ คาดการณ์เติบโตประมาณ 100% ตามแผนกลยุทธ์การขยายธุรกิจของ ITNS
นอกจากนี้บริษัทฯ มีแผนที่จะขยายฐานรายได้จากธุรกิจ System Integrator และธุรกิจ Maintenance จากทั้งฐานลูกค้าเก่าและใหม่ เนื่องจากแต่ละองค์กรจำเป็นต้องมีการพัฒนาและปรับปรุงระบบ IT เป็นประจำสม่ำเสมอ ตามเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป และขยายธุรกิจให้เช่าอุปกรณ์ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ พร้อมกับอยู่ระหว่างศึกษาข้อมูลการลงทุนในกิจการที่มีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัทฯ ที่สามารถช่วยส่งเสริมการขยายฐานตลาดของบริษัทฯได้อีกด้วย
ส่วนงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) ปัจจุบันมีมากกว่า 400 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ปีนี้ไปจนถึงปี 2570 และบริษัทฯ อยู่ระหว่างเตรียมเข้าประมูลงานใหม่รวมมูลค่าประมาณ 1,400 ล้านบาท คาดทยอยรู้ผลภายในเร็วๆ นี้ ทำให้เชื่อมั่นว่าผลการดำเนินงานปีนี้จะสามารถสร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ต่อเนื่องจากปีก่อน
บล.ดาโอ วิเคราะห์หุ้น บมจ.อินเตอร์เนชั่นแนล เน็ตเวิร์ค ซิสเต็ม (ITNS) โดยระบุว่า บริษัทยังคงคำแนะนำ“ซื้อ” และราคาเป้าหมาย 5.50 บาท อิง 2023E PER ที่ 17.0 เท่า เทียบเท่าค่าเฉลี่ยของธุรกิจใกล้เคียงกันด้าน system integration(SI) เรามองเป็นบวกจากการประชุม SET Opportunity Day วานนี้ (3 เม.ย.) โดยมีประเด็นสำคัญ ได้แก่
1) ITNS ประเมินตลาด IT ปี 2023E จะเติบโตดีขึ้น โดยการ์ทเนอร์ (บริษัทที่จัดทำการวิจัยเกี่ยวกับ IT) ได้คาดการณ์มูลค่าการใช้จ่ายด้าน IT service จะเติบโต +10.4%
2) ตั้งเป้ารายได้ปี 2023E จะเติบโต +25%-30% YoY หรืออยู่ที่ราว 700 ล้านบาท
3) backlog ณ สิ้นปี 2022 อยู่ที่ 417 ล้านบาท โดยจะรับรู้รายได้ในปี 2023E ที่ 332 ล้านบาท ขณะที่ เดือน ม.ค.-ก.พ.23 ได้ backlog เพิ่ม 75 ล้านบาท และอยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญาอีก 147 ล้านบาท
4) มีแผนทำ M&A ในปี 2023E อย่างน้อง 1 ดีล เร็วๆ นี้โดยจะเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ cyber security หรือทำ software เกี่ยวกับ digital transformation หรือ ERP เป็นต้น
บริษัทยังคงประมาณการกำไรปี 2023E ทำสถิติสูงสุดใหม่ 70 ล้านบาท +26% YoY โดยประเมินรายได้จะเติบโตเป็น 704 ล้านบาท +28% YoY จาก backlog ที่ทรงตัวสูง และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากแผนเข้าประมูลงานใหม่ในปี 2023E รวมถึง 1.4 พันล้านบาท สำหรับ 1Q23E เราประเมินจะมีกำไรราว 13-16 ล้านบาท ดีขึ้น YoY, ทรงตัว QoQ (1Q22 กำไร 12 ล้านบาท, 4Q22 กำไร 16 ล้านบาท) ขณะที่กำไรส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วง 2H23E ที่จะเป็นช่วง high season ของการรับรู้รายได้
ราคาหุ้น outperform SET +6% ใน 3 เดือน จากกำไร 3Q-4Q22 ที่เติบโตโดดเด่น โดยเรายังคงแนะนำ “ซื้อ” จากกำไรปี 2023E-24E ที่จะยังคงเติบโตได้ดีเฉลี่ย 26% CAGR และกำไรยังมีโอกาส upside จากดีลใหม่ที่คาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆ นี้ ด้าน valuation ปัจจุบันยังน่าสนใจ เทรด 2023E PER ที่ 13.5 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย pee
ขณะที่ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ITNS “สมชาย อ่วมกระทุ่ม” เชื่อว่า ปี 66 ทุกกลุ่มธุรกิจจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่องจากปีก่อนจากการขยายตัวของโครงการทั้งภาคเอกชน และภาครัฐ โดยเฉพาะงานให้เช่าที่จะเติบโตโดดเด่นที่สุด เนื่องจากบริษัทฯ มีความพร้อมทางด้านเงินทุนจะที่ขยายขยายธุรกิจ ซึ่งเป็นรายได้แบบประจำ (recurring) และสามารถตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่มีข้อจำกัดทางการเงินและต้องการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีให้ทันสมัยอย่างสม่ำเสมอ
ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโตประมาณ 25-30% สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง จากธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์ และให้บริการติดตั้งประมาณ คาดการณ์เติบโตประมาณ 30% จากการขยายตัวของเศรษฐกิจ ส่วนธุรกิจให้บริการดูแลและบำรุงรักษาระบบภายหลังการขาย คาดการณ์เติบโตประมาณ 10% และธุรกิจให้เช่าอุปกรณ์ คาดการณ์เติบโตประมาณ 100% ตามแผนกลยุทธ์การขยายธุรกิจของ ITNS
นอกจากนี้บริษัทฯ มีแผนที่จะขยายฐานรายได้จากธุรกิจ System Integrator และธุรกิจ Maintenance จากทั้งฐานลูกค้าเก่าและใหม่ เนื่องจากแต่ละองค์กรจำเป็นต้องมีการพัฒนาและปรับปรุงระบบ IT เป็นประจำสม่ำเสมอ ตามเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป และขยายธุรกิจให้เช่าอุปกรณ์ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ พร้อมกับอยู่ระหว่างศึกษาข้อมูลการลงทุนในกิจการที่มีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัทฯ ที่สามารถช่วยส่งเสริมการขยายฐานตลาดของบริษัทฯได้อีกด้วย
ส่วนงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) ปัจจุบันมีมากกว่า 400 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ปีนี้ไปจนถึงปี 2570 และบริษัทฯ อยู่ระหว่างเตรียมเข้าประมูลงานใหม่รวมมูลค่าประมาณ 1,400 ล้านบาท คาดทยอยรู้ผลภายในเร็วๆ นี้ ทำให้เชื่อมั่นว่าผลการดำเนินงานปีนี้จะสามารถสร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ต่อเนื่องจากปีก่อน