รายงานพิเศษ : SA บุกตลาดโรงแรมจับมือ “เชนชั้นนำ” สร้างการยอมรับ-ผลตอบแทน

กลยุทธ์การบริหารโรงแรมในเครือของ บมจ.ไซมิส แอสเสท (SA)  เน้นการร่วมมือกับโรงแรมชั้นนำระดับโลกที่ได้รับการยอมรับจากนักลงทุนและนักท่องเที่ยว มั่นใจสร้างผลตอบแทนที่สูงขึ้นให้กับนักลงทุน

“การร่วมมือกับโรงแรมชั้นนำระดับโลกเหมือนกับการลงทุนในสินค้าแบรนด์เนม ซึ่งเป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับจากนักลงทุน” แนวคิด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไซมิส แอสเสท (SA) “ขจรศิษฐ์  สิ่งสรรเสริญ” ที่ยอมรับว่า  การร่วมมือกับโรงแรมชั้นนำในการบริหารโครงการต่างๆของบริษัท จะช่วยทำให้โรงแรมเป็นที่รู้จัก และขายสินค้าได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะกับนักลงทุนชาวต่างชาติที่มีความคุ้นเคยกับโรงแรมในต่างประเทศ   และยังทำให้ผู้ซื้อได้ค่าเช่า และผลตอบแทนที่ดีขึ้น  

และล่าสุด บริษัทได้ร่วมมือกับ HILTON FRANCHISE HOLDING LLC, ซึ่ง นางสุนันทา สิ่งสรรเสริญ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ SA  ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร ภายใต้แนวคิด "Asset of Life สร้างกำไรให้กับทุกการใช้ชีวิต"  ระบุว่า  บริษัทฯได้ร่วมลงนามในสัญญาข้อตกลงในการพัฒนาและบริหารโรงแรมร่วมกับ HILTON FRANCHISE HOLDING LLC, เพื่อขยายธุรกิจโรงแรมของบริษัทฯ ให้ดำเนินการภายใต้การบริหารงานโดยโรงแรมฮิลตัน  เชนโรงแรมชั้นนำชื่อดังจากต่างประเทศในโครงการ "โรงแรมฮิลตัน การ์เด้น อินน์ กรุงเทพ รามอินทรา" (Hilton Garden Inn Bangkok Ram Inthra) ซึ่งจะตั้งอยู่ในบนถนนรามอินทรา ใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพู และห้างแฟชั่นไอส์แลนด์ กำหนดแผนเปิดให้บริการภายในไตรมาส 4 ปี 2568

"การขยายแบรนด์โรงแรมนี้ นอกจากจะให้ผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวแล้ว ยังช่วยสร้างการรับรู้ของผู้บริโภคที่มีต่อกลุ่ม Siamese Asset ทั้งในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจโรงแรม อีกทั้งโครงการตั้งอยู่ในพื้นที่ย่านศูนย์กลางธุรกิจใหม่ (New CBD) ประกอบกับแปลนการก่อสร้างภายในโครงการได้เตรียมอำนวยความสะดวกต่างๆ มากมาย เพื่อสามารถรองรับการขยายตัวของเขตเมือง การขยายตัวของธุรกิจท่องเที่ยว และธุรกิจ MICE (Meetings, Incentives, Conventions (หรือ Conferencing), และ Exhibitions) ทำให้บริษัทฯ มั่นใจว่าจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวแก่บริษัทฯ และผู้ถือหุ้น"

สำหรับธุรกิจโรงแรมถือเป็นอีกหนึ่ง segment ใหม่ของงานบริการของบริษัทฯ ซึ่งนอกจากจะเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับพื้นที่ที่มีอยู่แล้ว ยังเป็นการสร้างความแตกต่าง รวมถึงเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันเมื่อเทียบกับนักพัฒนาอสังหาฯอื่นๆ ผ่านแบรนด์โรงแรมที่มีชื่อเสียงและมีคุณภาพ

ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ SA  กล่าวอีกว่า บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายความร่วมมือด้านธุรกิจการให้บริการ โดยที่ผ่านมาได้ร่วมลงนามข้อตกลงในการพัฒนาและบริหารโรงแรมกับ International Hotel Chain ต่างๆ เช่น IHG Banyan Tree และ Accor ล่าสุดกับเครือ Hilton เพื่ออำนวยความสะดวกและตอบสนองความต้องการของกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ (Foreign Independent Tour - FIT) รองรับตลาดนักท่องเที่ยวที่กำลังกลับมา ทั้งเพื่อการพักผ่อนและธุรกิจ ด้วยเป้าประสงค์ในการส่งมอบการบริหารให้ลูกค้าผู้เข้าพักสามารถเลือกรับบริการได้ตามความต้องการและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าสูงสุด

ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าแผนการดำเนินธุรกิจในปี 3 ปีข้างหน้า (2566-2568) โดยในปี 2568 คาดการณ์ว่าจะมีรายได้จากการขายโครงการอสังหาริมทรัพย์ไม่น้อยกว่า 10,000 ล้านบาท  มาจากโครงการแนวราบ และโครงการแนวสูงในสัดส่วนที่เท่าๆกัน (50:50) และรายได้จากธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องอีกประมาณ 1,700 ล้านบาท