บล.กรุงศรี (KCSป มองแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้ (12 เม.ย.) ระยะสั้นมองภาพตลาด “Sideways” คาด SET แกว่งตัวออกข้างก่อนเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาว และระหว่างรอรายงานตัวเลขอัตราเงินเฟ้อสหรัฐ เดือน มี.ค. คืนนี้ ลุ้นเงินเฟ้อออกมาชะลอ ตอกย้ำความเชื่อวงจรดอกเบี้ยสหรัฐขาขึ้นยังเป็นปลายทาง ผสานคาดการณ์ GDP ใหม่ของ IMF ยังมองภาพ EM Asia สดใส จะช่วยประคอง SET ในช่วงก่อนหยุดยาว
ขณะที่เชิงกลยุทธ์เรามองกลุ่มหุ้นเคลื่อนไหวเด่นวันนี้ เน้นกลุ่มที่มีปัจจัยหนุนเฉพาะตัว ได้แก่ กลุ่มธนาคาร (เก็งกำไรงบ, การขึ้น XD และภาพบวกปรับเพิ่มดอกเบี้ยเงินกู้) กลุ่ม Soft Commodity โดยเฉพาะราคาน้ำตาลปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง กลุ่ม ร.พ. รับภาพบวกการปรับเพิ่มค่าหัวประกันสังคม
ทั้งนี้ หากกำไรกลุ่มธนาคารเริ่มฟื้นตัวตามคาด ผสาน ระยะถัดไปมีความคาดหวังเชิงบวกจากการนโยบายหาเสียงพรรคการเมืองที่เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ก่อนการเลือกตั้ง และภาพเดินหน้าสู่เลือกตั้งใหญ่ระยะถัดไป จะเป็นแรงหนุน SET Index เดินหน้าสู่เป้าปี 2023 ที่ 1768จุด ทั้งนี้ อิง ERP เฉลี่ย 3.35% โดยปัจจุบันยังให้ลงทุนหุ้นไทยน้ำหนัก 80% แนะนำ
1) หุ้นกลุ่มได้ประโยชน์ China Reopening ที่ลุ้น Upside เพิ่มเติมต่อเศรษฐกิจไทยจากความขัดแย้งที่เกิดขึ้นมาตรการจำกัดการเดินทางชาวจีนของบางประเทศ คาดจะนำตลาดได้ต่อ ( AOT, AMATA, WHA, ERW, CENTEL, SNNP, MC, SISB, SIRI, MC )
2) หุ้นกลุ่มเก็งกำไรมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐฯ ผสานหุ้น Consumer พื้นฐานมั่นคง (CRC, HMPRO, CPALL, BJC, ADVANC, AMATA, SAPPE, BBL, KBANK, SCB)
3) Election Play (ADVANC, INTUCH, PLANB, CPALL, MAKRO, CRC, SAWAD)
4) Summer Play (OSP, ICHI, SAPPE, HMPRO, CRC, CENTEL)
5) หุ้นกลุ่ม High Growth (BE8, BBIK)
6) หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า Anti-Commodities และกระแสผลประมูลโรงไฟฟ้าหมุนเวียน (GULF, GPSC)
7) หุ้นกลุ่มโภคภัณฑ์ที่ราคาสินค้าต่างๆยืนสูง (PTTEP, KSL) โดย PTTEP เก็งกำไรรอบสั้นตามราคาน้ำมัน
KCS Best Picks: KSL, RJH, SCB
ขณะที่เชิงกลยุทธ์เรามองกลุ่มหุ้นเคลื่อนไหวเด่นวันนี้ เน้นกลุ่มที่มีปัจจัยหนุนเฉพาะตัว ได้แก่ กลุ่มธนาคาร (เก็งกำไรงบ, การขึ้น XD และภาพบวกปรับเพิ่มดอกเบี้ยเงินกู้) กลุ่ม Soft Commodity โดยเฉพาะราคาน้ำตาลปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง กลุ่ม ร.พ. รับภาพบวกการปรับเพิ่มค่าหัวประกันสังคม
ทั้งนี้ หากกำไรกลุ่มธนาคารเริ่มฟื้นตัวตามคาด ผสาน ระยะถัดไปมีความคาดหวังเชิงบวกจากการนโยบายหาเสียงพรรคการเมืองที่เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ก่อนการเลือกตั้ง และภาพเดินหน้าสู่เลือกตั้งใหญ่ระยะถัดไป จะเป็นแรงหนุน SET Index เดินหน้าสู่เป้าปี 2023 ที่ 1768จุด ทั้งนี้ อิง ERP เฉลี่ย 3.35% โดยปัจจุบันยังให้ลงทุนหุ้นไทยน้ำหนัก 80% แนะนำ
1) หุ้นกลุ่มได้ประโยชน์ China Reopening ที่ลุ้น Upside เพิ่มเติมต่อเศรษฐกิจไทยจากความขัดแย้งที่เกิดขึ้นมาตรการจำกัดการเดินทางชาวจีนของบางประเทศ คาดจะนำตลาดได้ต่อ ( AOT, AMATA, WHA, ERW, CENTEL, SNNP, MC, SISB, SIRI, MC )
2) หุ้นกลุ่มเก็งกำไรมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐฯ ผสานหุ้น Consumer พื้นฐานมั่นคง (CRC, HMPRO, CPALL, BJC, ADVANC, AMATA, SAPPE, BBL, KBANK, SCB)
3) Election Play (ADVANC, INTUCH, PLANB, CPALL, MAKRO, CRC, SAWAD)
4) Summer Play (OSP, ICHI, SAPPE, HMPRO, CRC, CENTEL)
5) หุ้นกลุ่ม High Growth (BE8, BBIK)
6) หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า Anti-Commodities และกระแสผลประมูลโรงไฟฟ้าหมุนเวียน (GULF, GPSC)
7) หุ้นกลุ่มโภคภัณฑ์ที่ราคาสินค้าต่างๆยืนสูง (PTTEP, KSL) โดย PTTEP เก็งกำไรรอบสั้นตามราคาน้ำมัน
KCS Best Picks: KSL, RJH, SCB