Smart Investment

"เสี่ยป๋อง" ลุยซื้อหุ้น FSS-KGEN-THCOM


12 เมษายน 2566

by.พูเมซ่า

ภาพรวมตลาดหุ้นไทยในเดือนเมษายน 2566 ดัชนียังไม่สามารถยืนเหนือระดับ 1,600 จุดได้ และเป็นเดือนที่มีเทศกาลวันหยุดส่งผลให้วอลุ่มการซื้อขายลดลง โดยบล.เอเซียพลัส ระบุว่า ฝ่ายวิจัยฯ ทำการศึกษาข้อมูลในอดีตช่วงวันที่ 10 – 12 เม.ย. ย้อนหลัง 5 ปี พบว่ามูลค่าซื้อขายจะลดลงเฉลี่ยราว 19.6% เมื่อเทียบกับช่วงต้นเดือน เม.ย. แต่มูลค่าซื้อขายจะกลับมาสูงขึ้นเฉลี่ยราว 25% หรือกลับมาอยู่ในระดับปกติช่วงหลังสงกรานต์ และหากลงลึกข้อมูลเป็นรายวัน พบว่า ยิ่งใกล้วันหยุดสงกรานต์มากเท่าไหร่ มูลค่าซื้อขายยิ่งเบาบางลงตามไปด้วยสรุปมูลค่าซื้อขายมีโอกาสเบาบางลงช่วงก่อนสงกรานต์ ส่งผลให้ SET มีโอกาสเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ 1580 – 1600 จุด

smart invest เสี่ยป๋อง โผล่ถือ 3 หุ้นใหญ่-เล็ก.jpg
จากการรวบรวมข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในส่วนของพอร์ตลงทุนของ "วัชระ แก้วสว่าง" หรือเสี่ยป๋อง ซึ่งเป็นนักลงทุนรายใหญ่ที่เป็นที่รู้จักและคุ้นเคยกันดีในวงการตลาดหุ้นไทย ล่าสุด ณ เดือนมีนาคม 2566 พอร์ตลงทุนของเสี่ยป๋อง โดยมีชื่อปรากฎในโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ 10 อันดับแรก จำนวน 4 บริษัท ประกอบด้วย 

หุ้น จำนวน(หุ้น) %การถือครอง 
FSS 6,800,000 1.17
KCC     4,000,000 0.65    
KGEN 22,000,000 1.96
THCOM 10,000,000 0.91

ทั้งนี้ จากข้อมูลดังกล่าวได้นำมาเปรียบเทียบกับการปิดสมุดทะเบียนรายชื่อผู้ถือหุ้นในปี2565 พบว่า "เสี่ยป๋อง" ได้เพิ่มสัดส่วนการถือครองในหุ้นขนาดใหญ่และเล็ก ประกอบด้วยหุ้น  FSS-KGEN-THCOM จากเดิมไม่ปรากฎชื่อในโครงสร้างผู้ถือหุ้น ดังนั้นสะท้อนได้ว่าในช่วงต้นปีที่ผ่านมาเสี่ยป๋องได้ทยอยเข้ามาซื้อหุ้นดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง 

หุ้น จำนวน(หุ้น)ปี66 จำนวน(หุ้น)ปี65
FSS 6,800,000 ไม่ปรากฏการถือหุ้น
KCC     4,000,000 4,000,000
KGEN 22,000,000 ไม่ปรากฏการถือหุ้น
THCOM 10,000,000 ไม่ปรากฏการถือหุ้น

สำหรับการเคลื่อนไหวราคาหุ้นในช่วงไตรมาส1/2566 หุ้นFSS ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.81% จากราคา 3.44 บาทปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 3.64 บาท โดยราคาเคยปรับตัวขึ้นไปสูงสุดที่ 4.76 บาท ขณะที่หุ้น KGEN ปรับลดลง 44.55% จากราคา 2.02 บาทปรับลดลงมาอยู่ที่ 1.12 บาท และราคาเคยปรับลดลงต่ำสุดที่ 1.03บาท ส่วนหุ้น THCOM ราคาไม่เปลี่ยนแปลง จากราคา 14.40 บาท มาอยู่ที่ 14.40 บาท และราคาเคยปรับตัวขึ้นไปสูงสุดที่ 17.50 บาท

บทวิเคราะห์ บล.บัวหลวง ระบุว่าประเด็นสำคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์ประจำปี 2022 โดยมีประเด็นหลัก : ในจำนวน 2 แพ็กเก็จที่ประมูลมาได้ THCOM จะสร้างดาวเทียมเฉพาะวงโคจร 119.5 และ 78.5 องศาตะวันออกเท่านั้น สำหรับวงโคจร 119.5 องศาตะวันออก จะพิจารณาสร้างดาวเทียมก่อนและยิงภายใน 3 ปี ในขณะที่จะพิจารณายิงดาวเทียมสำหรับวงโคจร 78.5 องศาตะวันออกหลังจากยิงที่วงโคจร 119.5 องศาไปแล้วไม่เกิน 1 ปี แหล่งเงินทุนสำหรับงบลงทุนรวมที่ 1.5 หมื่นล้านบาท 65-85% มาจากเงินกู้ และที่เหลือ 15-35% จะมาจากเพิ่มทุนของบริษัทย่อยของ THCOM ทันทีที่ยิง 2 ดวงเล็กขึ้นสู่วงโคจร จะทำการย้ายลูกค้าไทยและอินเดียจากดาวเทียมไทยคม 4 มาที่ 2 ดวงเล็กทันที

 ผู้บริหารมั่นใจว่าต้นทุน/Mbps ของดวงใหญ่ถูกกว่าต้นทุนไทยคม 4 (ไอพีสตาร์) และในระยะยาวอัตรากำไรของดวงใหญ่และดวงเล็กจะสูงกว่าดาวเทียมดวงเดิมอย่างแน่นอน หลังชนะประมูล 2 แพ็กเก็จเห็นดีมานด์จากลูกค้ากลับเข้ามาเยอะมาก ปัจจุบันอยู่ระหว่างการ presales ดวงใหม่ซึ่งเป็นลูกค้ารายใหญ่ ผู้บริหารมั่นใจรายได้ปี 2023-24 ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจากดวงเทียมดวงเดิมและแผนที่จะสร้างรายได้จากดาวเทียม LEO ในปี 2023 วัตถุประสงค์ของการขึ้นดาวเทียมที่วงโคจร 78.5 องศาตะวันออกเพื่อตลาด broadcast เดิม ไม่ให้คู่แข่งได้วงโคจรนี้ไป และมองเป็นโอกาสสำหรับตลาด broadband เพราะอยู่เหนืออินเดีย ตะวันออกกลางและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

คำแนะนำพื้นฐาน มองว่าวงโคจรที่ 119.5 และ 78.5 องศาตะวันออกถือว่าเป็นตำแหน่งทอง (hot bird) ที่ THCOM ประมูลได้มาในระยะยาว จะทำการรวมมูลค่าเพิ่มจากดาวเทียมดวงเล็กอีก 2 ดวงเข้าไปในประมาณการซึ่งเป็น upside ต่อราคาเป้าหมาย ณ ปัจจุบันที่ 18.24 บาท และยังคงคำแนะนำ "ซื้อเก็งกำไร"