จับประเด็นหุ้นเด่น
รายงานพิเศษ : MEB แกร่งขยายฐาน e-Book จับมือ กทม. พัฒนา “ห้องสมุดออนไลน์”
17 เมษายน 2566
โลกของการอ่านหนังสือออนไลน์ยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง สะท้อนจากการร่วมมือระหว่าง บมจ.เมพ คอร์ปอเรชั่น (MEB) กับ กทม. ผ่านโครงการ "BKK X Hibrary อีบุ๊คฟรีอยู่เขตไหนอ่านได้ทุกที่" ซึ่งเป็นการสร้างการเรียนรู้ใหม่ และขยายฐานลูกค้าใหม่
หนังสืออิเล็กทรอนิกส์หรือ e-Book เป็นการย่อโลกกว้างให้เล็กลง และยังเป็นการปฏิวัติการอ่านจากหนังสือหรือกระดาษมาอยู่ในสื่ออิเล็กทรอนิกส์ บมจ.เมพ คอร์ปอเรชั่น (MEB) ผู้นำในตลาด เดินหน้าขยายฐานลูกค้าเปิดโลกทัศน์ สร้างการเรียนรู้ใหม่ โดยไฮเท็คซ์ อินเตอร์แอคทีฟ หนึ่งในกลุ่ม บมจ.เมพ คอร์ปอเรชั่น (MEB) ผู้พัฒนาแพลตฟอร์ม ไฮบรารี่ (Hibrary) ระบบห้องสมุดออนไลน์ (E-library)ได้จับมือ กรุงเทพมหานคร (กทม.) ที่ต้องการต่อยอดสร้างระบบนิเวศการเรียนรู้ให้แก่เมือง
ผ่านโครงการ "BKK X Hibrary อีบุ๊คฟรีอยู่เขตไหนอ่านได้ทุกที่" เปิดให้คน กทม. อ่านอีบุ๊คฟรี วางเป้าปีแรกมีผู้ใช้งานอย่างน้อย 1 แสนบัญชี พร้อมเปิดให้เอกชนอื่นร่วมสนับสนุนอีบุ๊คแก่โครงการฯ ด้วย
ซึ่งนายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการ กทม.กล่าวว่า โครงการ BKK X Hibrary อีบุ๊คฟรีอยู่เขตไหนอ่านได้ทุกที่ เป็นโครงการที่ดี เพิ่มโอกาสการเข้าถึงอีบุ๊คได้สะดวก ช่วยขยายกลุ่มผู้ใช้งานเดิมที่ใช้งานห้องสมุดของ กทม. และโครงการฯ นี้ จะทำให้การเข้าถึงแหล่งความรู้ง่ายขึ้น
ส่วนระบบห้องสมุดออนไลน์ ไฮบรารี่ ที่นำมาใช้ก็มีความเหมาะสมมาก เพราะเป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมและได้รับความเชื่อถือจากหลายองค์กร มีอีบุ๊คและสื่ออิเล็กทรอนิกส์ต่างให้เลือกหลากหลาย ทันสมัย ครบทุกหมวด และถูกลิขสิทธิ์
ปัจจุบันห้องสมุด กทม. มีทั้งหมด 40 แห่ง ประกอบด้วย หอสมุดเมืองกรุงเทพมหานคร 1 แห่ง ห้องสมุดเพื่อการเรียนรู้กรุงเทพมหานคร 34 แห่ง รถห้องสมุดประชาชนเคลื่อนที่ 3 คัน และอีก 3 คันอยู่ระหว่างดำเนินการจัดซื้อและพิพิธภัณฑ์เด็กกรุงเทพมหานครอีก 2 แห่ง ตั้งแต่ตุลาคม 2565 จนถึงปัจจุบัน มีผู้ใช้บริการถึง 420,523 คน โดยห้องสมุดที่มีผู้เข้ามาใช้บริการมากที่สุด คือ ห้องสมุดเมืองกรุงเทพมหานคร เขตพระนคร ในปีงบประมาณ 2566 มีผู้ใช้บริการถึง 105,239 คน เฉลี่ยเดือนละ 25,000 คน เป็นไปตามเป้าหมายในการให้บริการ ที่ต้องการให้ประชาชนทุกเขตเข้าถึงแหล่งการเรียนรู้ได้ โดยจะมีการพัฒนาบริการใหม่ๆ ให้แก่ประชาชนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องต่อไป
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MEB และ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไฮเท็คซ์ อินเตอร์แอคทีฟ จำกัด “รวิวร มะหะสิทธิ์” กล่าวว่า การใช้งานห้องสมุดออนไลน์ในประเทศไทยเริ่มประมาณ 8 ปีที่แล้ว ก่อนสถานการณ์โควิด-19 มีองค์กรใช้งานอยู่ไม่ถึง 200 แห่ง การเติบโตไม่มาก เนื่องจากคอนเทนต์ที่ให้บริการมีน้อยและไม่ตรงกับผู้ใช้งาน งบในการพัฒนาระบบสูง ใช้งานได้ยาก ฟีเจอร์ไม่ตอบโจทย์การใช้งาน แต่หลังสถานการณ์โควิด-19 ความต้องการใช้งานห้องสมุดออนไลน์องค์กรสูงขึ้นแบบก้าวกระโดด โดยในปี 2022 มีองค์กรในประเทศไทยใช้งานห้องสมุดออนไลน์แล้วประมาณ 400 องค์กร
ไฮบรารี่ เป็นผู้นำในตลาดระบบห้องสมุดออนไลน์องค์กร โดยเริ่มให้บริการตั้งแต่กลางปี 2020 ที่เป็นช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ห้องสมุดโรงเรียน มหาวิทยาลัย ห้องสมุดองค์กร และห้องสมุดประชาชนไม่สามารถให้บริการได้ ทำให้มีการปรับตัวสู่การให้บริการแบบดิจิทัลมากขึ้น ไฮบรารี่ ซึ่งมีประสบการณ์ในการพัฒนาระบบหนังสืออิเล็กทรอนิกส์อยู่แล้ว จึงศึกษาความต้องการขององค์กรและผู้ใช้งานจนได้ระบบบริการห้องสมุดออนไลน์ที่มีค่าใช้จ่ายไม่สูง เหมาะกับงบประมาณต่อจำนวนผู้ใช้งาน มีคอนเทนต์คุณภาพให้บริการจากหลายสำนักพิมพ์และถูกลิขสิทธิ์ ใช้งานสะดวก มีฟีเจอร์การอ่านครบทั้งรูปแบบ PDF และ E-PUB และมีการเก็บสถิติการอ่าน รองรับได้หลายอุปกรณ์ รวมถึง E-reader
ปัจจุบัน ไฮบรารี่ ให้บริการกลุ่มลูกค้าห้องสมุดประชาชนกว่า 41 แห่ง โรงเรียนและมหาวิทยาลัย 50 แห่ง หน่วยงานรัฐและเอกชน 22 แห่ง รวมมากกว่า 100 องค์กร พร้อมทั้งเป็นพันธมิตรกับศูนย์หนังสือแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยร่วมพัฒนาระบบห้องสมุดออนไลน์ CU-elibrary ที่เน้นตลาดการศึกษา โดยขยายฐานลูกค้าได้ถึง 100 องค์กร รวมแล้วมีลูกค้าใช้งานแพลตฟอร์มไฮบรารี่อยู่มากกว่า 200 องค์กร ทั้งหมดใช้เวลาเพียง 2 ปีครึ่งเท่านั้น
ส่วนที่มาของโครงการ "BKK X Hibrary อีบุ๊กฟรีอยู่เขตไหนอ่านได้ทุกที่" นั้น นายพัฒนา พิลึกฤาเดช ผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ ไฮเท็คซ์ อินเตอร์แอคทีฟ กล่าวว่า เป้าหมายผู้ใช้บริการคาดว่าปีแรกจะมีผู้ใช้งานประมาณ 100,000 บัญชี และตลอดระยะเวลาโครงการฯ คาดว่าจะมีผู้ใช้บริการมากกว่า 200,000 บัญชี โดยหลังจากเปิดให้บริการเมื่อ 1 มีนาคม ที่ผ่านมา มีจำนวนการอ่านไปแล้วมากกว่า 121,000 นาที อีบุ๊คหมวดนวนิยายได้รับความนิยมมากถึง 40% หมวดพัฒนาตนเอง 20% หมวดบริหาร การจัดการ และ ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม 6% ส่วนอีบุ๊คที่มีการอ่านสูงสุด คืนมายา โดย ฮิงาชิโนะ เคโงะ
นอกจาก ไฮเท็คซ์ อินเตอร์แอคทีฟ จะสนับสนุนระบบห้องสมุดออนไลน์ผ่านระบบ ไฮบรารี่ แล้ว ยังสนับสนุนอีบุ๊คลิขสิทธิ์จากสำนักพิมพ์ต่างๆ ตลอดระยะเวลา 3 ปี ทั้งหมด 1,500 รายการ พร้อมระบบจัดการและเผยแพร่สื่ออิเล็กทรอนิกส์พื้นที่ใช้งาน 50 GB รวมถึงประสานภาคเอกชนและองค์กรที่สนใจร่วมสนับสนุนอีบุ๊คเพิ่มเติมในโครงการฯ ซึ่งผู้ร่วมสนับสนุนจะได้รับการแสดงโลโก้และรายละเอียดผู้สนับสนุนผ่านสื่อประชาสัมพันธ์และในแอปพลิเคชั่น ไฮบรารี่
ผู้สนใจสมัครอ่านอีบุ๊คฟรีกับโครงการ "BKK X Hibrary อีบุ๊คฟรีอยู่เขตไหนอ่านได้ทุกที่" สามารถดาวน์โหลด แอปพลิเคชัน Hibary ทาง App store หรือ Play Store กดสมัครสมาชิก เลือกห้องสมุด BKK X Hibrary หรือที่เว็บไซต์ bkk.hibrary.me
หนังสืออิเล็กทรอนิกส์หรือ e-Book เป็นการย่อโลกกว้างให้เล็กลง และยังเป็นการปฏิวัติการอ่านจากหนังสือหรือกระดาษมาอยู่ในสื่ออิเล็กทรอนิกส์ บมจ.เมพ คอร์ปอเรชั่น (MEB) ผู้นำในตลาด เดินหน้าขยายฐานลูกค้าเปิดโลกทัศน์ สร้างการเรียนรู้ใหม่ โดยไฮเท็คซ์ อินเตอร์แอคทีฟ หนึ่งในกลุ่ม บมจ.เมพ คอร์ปอเรชั่น (MEB) ผู้พัฒนาแพลตฟอร์ม ไฮบรารี่ (Hibrary) ระบบห้องสมุดออนไลน์ (E-library)ได้จับมือ กรุงเทพมหานคร (กทม.) ที่ต้องการต่อยอดสร้างระบบนิเวศการเรียนรู้ให้แก่เมือง
ผ่านโครงการ "BKK X Hibrary อีบุ๊คฟรีอยู่เขตไหนอ่านได้ทุกที่" เปิดให้คน กทม. อ่านอีบุ๊คฟรี วางเป้าปีแรกมีผู้ใช้งานอย่างน้อย 1 แสนบัญชี พร้อมเปิดให้เอกชนอื่นร่วมสนับสนุนอีบุ๊คแก่โครงการฯ ด้วย
ซึ่งนายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการ กทม.กล่าวว่า โครงการ BKK X Hibrary อีบุ๊คฟรีอยู่เขตไหนอ่านได้ทุกที่ เป็นโครงการที่ดี เพิ่มโอกาสการเข้าถึงอีบุ๊คได้สะดวก ช่วยขยายกลุ่มผู้ใช้งานเดิมที่ใช้งานห้องสมุดของ กทม. และโครงการฯ นี้ จะทำให้การเข้าถึงแหล่งความรู้ง่ายขึ้น
ส่วนระบบห้องสมุดออนไลน์ ไฮบรารี่ ที่นำมาใช้ก็มีความเหมาะสมมาก เพราะเป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมและได้รับความเชื่อถือจากหลายองค์กร มีอีบุ๊คและสื่ออิเล็กทรอนิกส์ต่างให้เลือกหลากหลาย ทันสมัย ครบทุกหมวด และถูกลิขสิทธิ์
ปัจจุบันห้องสมุด กทม. มีทั้งหมด 40 แห่ง ประกอบด้วย หอสมุดเมืองกรุงเทพมหานคร 1 แห่ง ห้องสมุดเพื่อการเรียนรู้กรุงเทพมหานคร 34 แห่ง รถห้องสมุดประชาชนเคลื่อนที่ 3 คัน และอีก 3 คันอยู่ระหว่างดำเนินการจัดซื้อและพิพิธภัณฑ์เด็กกรุงเทพมหานครอีก 2 แห่ง ตั้งแต่ตุลาคม 2565 จนถึงปัจจุบัน มีผู้ใช้บริการถึง 420,523 คน โดยห้องสมุดที่มีผู้เข้ามาใช้บริการมากที่สุด คือ ห้องสมุดเมืองกรุงเทพมหานคร เขตพระนคร ในปีงบประมาณ 2566 มีผู้ใช้บริการถึง 105,239 คน เฉลี่ยเดือนละ 25,000 คน เป็นไปตามเป้าหมายในการให้บริการ ที่ต้องการให้ประชาชนทุกเขตเข้าถึงแหล่งการเรียนรู้ได้ โดยจะมีการพัฒนาบริการใหม่ๆ ให้แก่ประชาชนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องต่อไป
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MEB และ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไฮเท็คซ์ อินเตอร์แอคทีฟ จำกัด “รวิวร มะหะสิทธิ์” กล่าวว่า การใช้งานห้องสมุดออนไลน์ในประเทศไทยเริ่มประมาณ 8 ปีที่แล้ว ก่อนสถานการณ์โควิด-19 มีองค์กรใช้งานอยู่ไม่ถึง 200 แห่ง การเติบโตไม่มาก เนื่องจากคอนเทนต์ที่ให้บริการมีน้อยและไม่ตรงกับผู้ใช้งาน งบในการพัฒนาระบบสูง ใช้งานได้ยาก ฟีเจอร์ไม่ตอบโจทย์การใช้งาน แต่หลังสถานการณ์โควิด-19 ความต้องการใช้งานห้องสมุดออนไลน์องค์กรสูงขึ้นแบบก้าวกระโดด โดยในปี 2022 มีองค์กรในประเทศไทยใช้งานห้องสมุดออนไลน์แล้วประมาณ 400 องค์กร
ไฮบรารี่ เป็นผู้นำในตลาดระบบห้องสมุดออนไลน์องค์กร โดยเริ่มให้บริการตั้งแต่กลางปี 2020 ที่เป็นช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ห้องสมุดโรงเรียน มหาวิทยาลัย ห้องสมุดองค์กร และห้องสมุดประชาชนไม่สามารถให้บริการได้ ทำให้มีการปรับตัวสู่การให้บริการแบบดิจิทัลมากขึ้น ไฮบรารี่ ซึ่งมีประสบการณ์ในการพัฒนาระบบหนังสืออิเล็กทรอนิกส์อยู่แล้ว จึงศึกษาความต้องการขององค์กรและผู้ใช้งานจนได้ระบบบริการห้องสมุดออนไลน์ที่มีค่าใช้จ่ายไม่สูง เหมาะกับงบประมาณต่อจำนวนผู้ใช้งาน มีคอนเทนต์คุณภาพให้บริการจากหลายสำนักพิมพ์และถูกลิขสิทธิ์ ใช้งานสะดวก มีฟีเจอร์การอ่านครบทั้งรูปแบบ PDF และ E-PUB และมีการเก็บสถิติการอ่าน รองรับได้หลายอุปกรณ์ รวมถึง E-reader
ปัจจุบัน ไฮบรารี่ ให้บริการกลุ่มลูกค้าห้องสมุดประชาชนกว่า 41 แห่ง โรงเรียนและมหาวิทยาลัย 50 แห่ง หน่วยงานรัฐและเอกชน 22 แห่ง รวมมากกว่า 100 องค์กร พร้อมทั้งเป็นพันธมิตรกับศูนย์หนังสือแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยร่วมพัฒนาระบบห้องสมุดออนไลน์ CU-elibrary ที่เน้นตลาดการศึกษา โดยขยายฐานลูกค้าได้ถึง 100 องค์กร รวมแล้วมีลูกค้าใช้งานแพลตฟอร์มไฮบรารี่อยู่มากกว่า 200 องค์กร ทั้งหมดใช้เวลาเพียง 2 ปีครึ่งเท่านั้น
ส่วนที่มาของโครงการ "BKK X Hibrary อีบุ๊กฟรีอยู่เขตไหนอ่านได้ทุกที่" นั้น นายพัฒนา พิลึกฤาเดช ผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ ไฮเท็คซ์ อินเตอร์แอคทีฟ กล่าวว่า เป้าหมายผู้ใช้บริการคาดว่าปีแรกจะมีผู้ใช้งานประมาณ 100,000 บัญชี และตลอดระยะเวลาโครงการฯ คาดว่าจะมีผู้ใช้บริการมากกว่า 200,000 บัญชี โดยหลังจากเปิดให้บริการเมื่อ 1 มีนาคม ที่ผ่านมา มีจำนวนการอ่านไปแล้วมากกว่า 121,000 นาที อีบุ๊คหมวดนวนิยายได้รับความนิยมมากถึง 40% หมวดพัฒนาตนเอง 20% หมวดบริหาร การจัดการ และ ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม 6% ส่วนอีบุ๊คที่มีการอ่านสูงสุด คืนมายา โดย ฮิงาชิโนะ เคโงะ
นอกจาก ไฮเท็คซ์ อินเตอร์แอคทีฟ จะสนับสนุนระบบห้องสมุดออนไลน์ผ่านระบบ ไฮบรารี่ แล้ว ยังสนับสนุนอีบุ๊คลิขสิทธิ์จากสำนักพิมพ์ต่างๆ ตลอดระยะเวลา 3 ปี ทั้งหมด 1,500 รายการ พร้อมระบบจัดการและเผยแพร่สื่ออิเล็กทรอนิกส์พื้นที่ใช้งาน 50 GB รวมถึงประสานภาคเอกชนและองค์กรที่สนใจร่วมสนับสนุนอีบุ๊คเพิ่มเติมในโครงการฯ ซึ่งผู้ร่วมสนับสนุนจะได้รับการแสดงโลโก้และรายละเอียดผู้สนับสนุนผ่านสื่อประชาสัมพันธ์และในแอปพลิเคชั่น ไฮบรารี่
ผู้สนใจสมัครอ่านอีบุ๊คฟรีกับโครงการ "BKK X Hibrary อีบุ๊คฟรีอยู่เขตไหนอ่านได้ทุกที่" สามารถดาวน์โหลด แอปพลิเคชัน Hibary ทาง App store หรือ Play Store กดสมัครสมาชิก เลือกห้องสมุด BKK X Hibrary หรือที่เว็บไซต์ bkk.hibrary.me