Gossip Station..by เจ๊จิ๋ม

เจ๊จิ๋ม..สายเถื่อน 19-04-23


19 เมษายน 2566
เจ๊จิ๋ม..สายเถื่อน 19-04-23

19-04-23  สวัสดีพี่น้องชาวไทย "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิม www.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยเวลา 7.30 น.มีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ

***ฮอตกว่าสภาพอากาศนาทีนี้ต้องยกให้กับ PCC ค่ะคู๊นนนนนน คว้างานใหม่อีกแล้ว....งานเข้าแบบรัวๆ ไม่เกรงใจใคร ล่าสุดบริษัทย่อย "พรีไซซ ซิสเท็ม แอนด์ โปรเจ็ค" คว้างานจ้างก่อสร้างติดตั้ง Load Break Switch 115KV จำนวน 28 ชุด ตามโครงการพัฒนาระบบส่งและจำหน่าย ระยะที่ 2 แผนงานที่ 2 มูลค่า 149.63 ล้านบาท ย้างงงงงงง-ยังไม่พอเท่านี้ ..ยังคว้างานปรับปรุงระบบป้องกันและควบคุมในสถานีไฟฟ้าและจ้างเปลี่ยนตู้ Switchgear 22 kV ปี 2565 รายการที่ 2  มูลค่า 191 ล้านบาทของ กฟภ. งานเข้ารัวๆ แบบนี้ ผู้ถือหุ้นสบายใจหายห่วง

***มีรีเสิร์ชจาก KCS ออกมาน่าสนใจเจ๊เลยหยิบมาเล่าสู่กันฟังเป็นเรื่องของการประมูลโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนรอบ 1 (ที่ กกพ.ประกาศออกมาวันที่ 6 เม.ย.) กลุ่มโรงไฟฟ้าที่ KCS ศึกษาซึ่งเป็นผู้ผ่านการคัดเลือก มีรายละเอียดดังนี้

***โรงไฟฟ้าที่จะเริ่มขายไฟเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD)เร็วสุด 
-ปี2024 คือ GULF รวม 295 MW และ ACE รวม 35 MW
-ปี2025 คือ GULF รวม 479 MW, ACE รวม 57 MW และ EAรวม 90 MW
-ปี2026 คือ GULF รวม 194 MW, GUNKUL รวม177 MW, SUPER รวม 40 MW และ BGRIM รวม 4 MW เป็นต้น

*** ส่วนโรงไฟฟ้าที่มีสัดส่วนที่ได้มาใหม่เทียบกำลังการผลิตที่มีในปัจจุบัน (% to MW on hand) หลักๆคือ GUNKUL ราว 165%, SSP 57%, TSE 35%, PRIME 29%, ACE 26%, GULF 14%

***กูรูหุ้นบอกว่าเรื่องนี้เป็นต่อบวกกลุ่มโรงไฟฟ้า โดยมีปัจจัยบวกระยะกลาง-ยาว จากประเด็นดังกล่าว และยังมีปัจจัยบวกจาก
1.)แนวโน้มกำไรปกติ 2023Fกลุ่มโรงไฟฟ้าที่ฟื้นตัวตั้งแต่ 1Q23F
2.) Bond Yields ที่ปรับลง 
3.)เงินบาท/ดอลลาร์ที่มีแนวโน้มแข็งค่า 
4.) ต้นทุนพลังงาน ต้นทุนก๊าซฯที่ลดลง y-y 
5.) Catalystหนุนราคาหุ้นถัดไปคือการเปิดประมูลโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนรอบที่ 2 (ยังไม่กำหนดวันชัดเจน) แต่คาดจะอยู่ในช่วง 2H23F
หลังเลือกตั้ง โดยคำแนะนำกลุ่มโรงไฟฟ้าเน้น GULF (trading buy TP 55.0) ต้าน 56.25/57.25 รับ 53.75/53.0 , Cut loss <52.25 และ GUNKUL(trading buy TP 5.0)

***เข้าฤดูกาลจ่ายเงินปันผลแล้ว เจ๊ก้อไม่อยากให้แฟนคลับตกขบวนรับเงิน เลยจัดหาตัวเด็ดมาฝากกัน เริ่มจาก MENA จัดได้ว่าเป็นหุ้นเด่นจ่ายปันผลได้ไม่น้อยหน้าใคร ล่าสุดเอาใจผู้ถือหุ้นจ่ายปันผลเป็นเงินสดงวดปี 2565 ในอัตราหุ้นละ 0.03 บาท ใครที่ยังไม่มีหุ้นพื้นฐานแข็งแกร่งแบบนี้ติดพอร์ต..อย่าช้า!!! เพราะวันที่ 28 เมษายน2566 กำหนดให้เป็นวันขึ้นเครื่องหมาย XD  และวันที่ 19 พฤษภาคม เป็นวันรับทรัพย์….ขอย้ำ! รีบจัดด่วน!

***ผู้ถือหุ้น บมจ.สาลี่ คัลเล่อร์ หรือ COLOR  ทราบแล้วเปลี่ยน!!! เตรียมตัวให้พร้อมกับการยกมือโหวตการจ่ายปันผลเป็นเงินสดในอัตรา 0.08 บาท/หุ้น ในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 วันที่ 25 เม.ย.นี้  ผู้บริหารหนุ่ม ไฟแรง  "พีรพันธ์ จิวะพรทิพย์" ฝากมาบอกว่าปี 66 นี้ธุรกิจยังสดใส วางเป้าการเติบโต 20% แถมเร็วๆนี้ จะได้รับงานใหม่สะสมรายได้ อุ๊ปส์ส์ส์ส์ม่ายเอา-ม่ายพูด!!!  ปล.อย่าลืมรีบเก็บสะสมหุ้น COLOR ก่อนขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 8 พฤษภาคมนี้  หุ้นพื้นฐานดี..ปลอดภัย ยกนิ้วกดไลค์ให้ COLOR เลยคร้า

***ส่วนรายนี้ประชุมผู้ถือหุ้นเรียบร้อย "ปิยะศักดิ์ อุกฤษฎ์นุกูล" บิ๊กบอส TIDLOR บอกว่าได้รับอนุมัติจ่ายเงินปันผลเป็นหุ้นในอัตรา 8 หุ้นสามัญต่อ 1 หุ้นปันผล จำนวนไม่เกิน 312,167,077 หุ้น หรือคิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผล 0.4625 บาทต่อหุ้น และอนุมัติจ่ายปันผลเป็นเงินสดหุ้นละ 0.2920  บาท รวมเป็นจำนวนเงินไม่เกินประมาณ 729 ล้านบาท กำหนดวันขึ้น XD  คือ 19  เม.ย. 2566  และกำหนดจ่ายเงินปันผล 8 พ.ค.นี้

***ส่วนแผนธุรกิจของ TIDLOR ปีนี้ ได้ตั้งเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่ออยู่ที่ระดับ 10-20% และเบี้ยประกันวินาศภัยโตราว 20-25% โดยเน้นกลยุทธ์ปรับปรุงประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังคงมุ่งขับเคลื่อนองค์กรด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรม ทั้ง ‘บัตรติดล้อ’ (TIDLOR Card)  รวมถึงพัฒนาการให้บริการแก่ลูกค้าผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล เพื่อยกระดับการบริการทั้งด้านสินเชื่อทะเบียนรถและนายหน้าประกันภัย เพื่อคงความเป็นผู้นำและสร้างการเติบโตให้ธุรกิจอย่างต่อเนื่อง

***เพิ่มเติม..สำหรับผู้สนใจสามารถอ่านข้อมูลการประชุมผู้ถือหุ้นเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือติดตามเรื่องราวหุ้น TIDLOR ที่ได้ที่เว็บไซต์ www.tidlorinvestor.com เยี่ยมชมข้อมูลเงินติดล้อเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.tidlor.com/th และ Facebook Fan page เงินติดล้อ TIDLOR 

***ปิดท้ายกันที่ HL ผู้ถือหุ้นพร้อมใจโหวตจ่ายปันผลงวดปี 2565 ในอัตรา 0.18 บาทต่อหุ้น รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 48,960,000 บาท โดยมีกำหนดจ่ายเงินในวันที่ 11 พ.ค. 2566  เปิดกระเป๋ารอรับตังค์ได้เลย

***ทางด้านซีอีโอคนเก่ง “ภก.ธัชพล ชลวัฒนสกุล” ปักหมุดรายได้ปี 66 คาดว่าจะเติบโตกว่า 20% ส่วนแผนธุรกิจของ HL ปีนี้จะเปิดสาขาใหม่อีก 14 แห่ง ซึ่งเน้นในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลทำให้ภายในสิ้นปีนี้จะมีสาขารวมทั้งสิ้น 50 สาขา จากปีก่อนที่มีสาขารวม 36 สาขา ควบคู่ไปกับการเร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง (ภายใต้บริษัท เฮลทิเนส จำกัด ที่ HL ถือหุ้นในสัดส่วน 100%) คาดว่าปีนี้ได้เห็น 5-10 รายการใหม่