Mr.Data
ภาพการจับมือระหว่าง บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) (CHO) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน (มทร.อีสาน) บริษัท พีพีเอส ยูทิลิตี้ จำกัด บริษัท เล็กสุวงษ์ ขนส่ง จำกัด ภาคีเครือข่าย ยกระดับมาตรฐานระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าและการเดินทางอัจฉริยะ ร่วมลงนาม “บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ พัฒนามาตรฐานระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าและการเดินทางอัจฉริยะเพื่อมุ่งสู่เมืองคาร์บอนต่ำที่น่าอยู่” นำร่องในพื้นที่เมืองโคราช
ทั้งนี้ เพื่อร่วมมือกันวิจัย พัฒนา บริการวิชาการ และพัฒนาบุคลากรคุณภาพสูง เพื่อการขับเคลื่อนนวัตกรรมการพัฒนาเมือง ตอบรับนโยบาย Thailand 4.0 กลุ่มอุตสาหกรรมใหม่ (New S-Curve) สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของประเทศไทย จังหวัดนครราชสีมา และ มทร.อีสาน
ผ่านการดำเนิน “โครงการพัฒนาต้นแบบระบบนิเวศเมืองคาร์บอนต่ำที่น่าอยู่ โดยมีกรณีศึกษาการพัฒนาระบบโครงข่ายขนส่งสาธารณะเมืองโคราช”
“CHO มีความพร้อมในการสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในทุกภาคส่วนและทุกระบบให้กับประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นด้านระบบรางและการเดินทางทุกรูปแบบ” สิ่งสำคัญสำหรับการ MOU ครั้งนี้ คือ การเห็นเจตนารมณ์ร่วมกันของทุกภาคส่วนทั้งสถาบันอุดมศึกษา (มทร.อีสาน) ภาครัฐ และกลุ่มเอกชนธุรกิจของประเทศไทย ร่วมใจกันพยายามขับเคลื่อนและยกระดับกลุ่มอุตสาหกรรมใหม่ (New S-Curve) ให้กับประเทศไทยอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น เราคาดหวังว่าหลังจากวันนี้อีก 3-6 เดือน จะเป็นย่างก้าวสำคัญของการพิสูจน์แสดงให้เห็นว่า “คนไทย เราทำได้” นายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) (CHO) ใฟ้ความเห็น
ความร่วมมือครั้งนี้ ระหว่าง CHO กับ มทร.อีสาน และเครือข่ายภาคี สอดคล้อง โรดแมป CHO Tech Riders 2030 มุ่งสู่การเป็นบริษัท Technology สนับสนุนการเติบโตมั่นคงในอนาคต
แม้ว่าในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (2563-2565) จะประสบปัญหาขาดทุนต่อเนื่อง
“แผนการดำเนินงานในปี 2566 เป้าหมายแรกจะลดอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) ให้ต่ำกว่า 1 เท่า จากสิ้นปี 2565 อยู่ที่ 2.51 เท่า เป้าหมายที่ 2 คือล้างขาดทุนสะสม 1,231 ล้านบาทให้หมด และเป้าหมายที่ 3 คือการทำผลประกอบการให้กลับมามีกำไรให้ได้ จากการเข้าลงทุนในรูปแบบของ SPAC ประเทศสหรัฐอเมริกาสำเร็จ” นายสุรเดชให้ความเห็น
ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทฯ มีรายได้ประจำจากการให้บริการซ่อมบำรุงรถเมล์ NGV489 คัน ซึ่งเป็นสัญญาระยะยาว 10 ปี และโครงการรถรับส่งพนักงาน SCG สัญญา 5 ปี
นอกจากนี้ ยังมีงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) กว่า 1,557 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าขยายศูนย์ซ่อมบำรุง “สิบล้อ 24 ชม.”
และพัฒนา London Taxi เป็นระบบไฟฟ้า (EV) และพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ซึ่งเป็นไปตามโรดแมป CHO Tech Riders 2030 มุ่งสู่การเป็นบริษัท Technology
ส่วนความคืบหน้า AROGO ได้เข้าควบรวมกิจการบริษัทธุรกิจเกี่ยวกับ Metaverse ชื่อ EON Reality Inc. ในราคา 655 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ยังเดินตามแผน คาดว่าจะมีการควบรวมแล้วเสร็จในเร็วๆ นี้ และจะมีงบเข้ามาปรากฏใน CHO ประมาณไตรมาส 3/66 เนื่องจากการลงทุนในอเมริกาจำเป็นต้องเฝ้าดูธุรกิจอีก 6 เดือน หากนับการลงทุนที่อเมริกาสำเร็จในไตรมาส 2/2566 บริษัทจะยังไม่ได้รับเงินทันที เพราะติดไซเลนต์พีเรียด แต่หากนับหลังจบไซเลนต์พีเรียด 6 เดือน คาดจะได้เงินเข้ามาในไตรมาส 3/2566
ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผน ธุรกิจของ CHO จะกลับมา “เทิร์นอะราวด์” อย่างชัดเจน หลังปรับโหมดธุรกิจเข้าสู่ธุรกิจรถยนต์ EV ที่อยู่ในเมกะเทรนด์ในห้วงเวลานี้!!!