Wealth Sharing
D ส่งซิกผลงานQ1/66 สดใส เผยลูกค้าต่างชาติพุ่งเท่าตัว มั่นใจปีนี้โตทะลุเป้า 20%
24 เมษายน 2566
นายพรศักดิ์ ตันตาปกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดนทัล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับทันตกรรมแบบครบวงจร ประเมินผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกของปี 2566 ว่า ธุรกิจการบริการด้านทันตกรรมให้มีแนวโน้มที่สดใส หลังจากเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว จึงทำให้มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการด้านทันตกรรมเพิ่มสูงขึ้น ในไตรมาสแรกปีนี้มีจำนวนลูกค้าต่างชาติเพิ่มขึ้นกว่า 10% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2565 และเพิ่มขึ้นเท่าตัว เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า
นอกจากนี้ตั้งแต่ต้นปี 2566 ได้มีการปรับเพิ่มค่ารับบริการด้านทันตกรรม 10% จึงคาดว่าแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาสแรก และตลอดทั้งปี จะมีอัตรากำไรที่เติบโตในทิศทางดีขึ้น ซึ่งในปีนี้บริษัทได้วางเป้าหมายการเติบโตของรายได้ที่ 20% และคาดว่ากำไรสุทธิเติบโตในไม่ต่ำกว่า 10%
“หลังจากมีการเปิดรับนักท่องเที่ยว ธุรกิจดีขึ้นมาตลอด จำนวนลูกค้าชาวต่างชาติเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เรามั่นใจผลประกอบการทั้งปี 2566 จะเติบโตในทิศทางที่ดี ส่วนการปรับเพิ่มค่ารับบริการด้านทันตกรรม 10% ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบกับการเข้ามาใช้บริการ ส่วนนี้ลูกค้ารับได้ จึงมั่นใจปีนี้ผลประกอบการโตตามเป้าหมาย” นายพรศักดิ์ กล่าว
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด ได้ออกบทวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ผลประกอบการไตรมาสแรก ของ D ที่จะรายงานต่อตลาดหลักทรัพย์ราววันที่ 11 พ.ค. นี้ จะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ด้วยตัวเลขกำไรสุทธิ 20 ล้านบาท เติบโตสูงถึง 145.7% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อน และเติบโต 11.9%เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา ซึ่งเป็นรายได้ที่แข็งแกร่ง ที่มาจากการบริการด้านทันตกรรมที่เพิ่มขึ้น ของทั้งในส่วนของลูกค้าต่างชาติและคนไทย และจากการปรับขึ้นค่ารักษาเพิ่มขึ้น 10% ซึ่งคาดการณ์กำไรสุทธิไตรมาส 1/66 คิดเป็น 28.8% ของประมาณการณ์กำไรสุทธิทั้งปี 2566 ที่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 68 ล้านบาท
ส่วนมุมมองด้านราคาหุ้น บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย ยังคงแนะนำให้ลงทุน โดยให้ราคาเป้าหมายปี 2566 ไว้ที่ 8.93 บาท โดยอิงกับประมาณการกำไรต่อหุ้นปี 2567 ที่ 0.20 บาท และ PER ล่วงหน้าที่ 44.6 เท่า ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 4 ปี
ทั้งนี้ ราคาหุ้น D ที่เคลื่อนไหวในปัจจุบันที่ระดับ 5.90 บาท ซึ่งถือว่าค่อนข้างต่ำ ยังมี upside กว่า 50% จากราคาเป้าหมาย ที่ให้ไว้ 8.93 บาท จึงเป็นหุ้นที่น่าลงทุน ด้วยแนวโน้มผลประกอบการที่ดีอย่างต่อเนื่อง และจากกระแสคนไข้ต่างชาติที่มาทำใช้บริการด้านทันตกรรมในไทย เนื่องจากประเทศไทยเป็นพื้นที่เป้าหมายสำหรับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ มีการบริการที่อยู่ในระดับสากล และทันตแพทย์ไทยมีความรู้ความสามารถ จากการผลักดันให้ไทยเป็น Dental Hub ของโลก
นอกจากนี้ตั้งแต่ต้นปี 2566 ได้มีการปรับเพิ่มค่ารับบริการด้านทันตกรรม 10% จึงคาดว่าแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาสแรก และตลอดทั้งปี จะมีอัตรากำไรที่เติบโตในทิศทางดีขึ้น ซึ่งในปีนี้บริษัทได้วางเป้าหมายการเติบโตของรายได้ที่ 20% และคาดว่ากำไรสุทธิเติบโตในไม่ต่ำกว่า 10%
“หลังจากมีการเปิดรับนักท่องเที่ยว ธุรกิจดีขึ้นมาตลอด จำนวนลูกค้าชาวต่างชาติเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เรามั่นใจผลประกอบการทั้งปี 2566 จะเติบโตในทิศทางที่ดี ส่วนการปรับเพิ่มค่ารับบริการด้านทันตกรรม 10% ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบกับการเข้ามาใช้บริการ ส่วนนี้ลูกค้ารับได้ จึงมั่นใจปีนี้ผลประกอบการโตตามเป้าหมาย” นายพรศักดิ์ กล่าว
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด ได้ออกบทวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ผลประกอบการไตรมาสแรก ของ D ที่จะรายงานต่อตลาดหลักทรัพย์ราววันที่ 11 พ.ค. นี้ จะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ด้วยตัวเลขกำไรสุทธิ 20 ล้านบาท เติบโตสูงถึง 145.7% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อน และเติบโต 11.9%เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา ซึ่งเป็นรายได้ที่แข็งแกร่ง ที่มาจากการบริการด้านทันตกรรมที่เพิ่มขึ้น ของทั้งในส่วนของลูกค้าต่างชาติและคนไทย และจากการปรับขึ้นค่ารักษาเพิ่มขึ้น 10% ซึ่งคาดการณ์กำไรสุทธิไตรมาส 1/66 คิดเป็น 28.8% ของประมาณการณ์กำไรสุทธิทั้งปี 2566 ที่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 68 ล้านบาท
ส่วนมุมมองด้านราคาหุ้น บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย ยังคงแนะนำให้ลงทุน โดยให้ราคาเป้าหมายปี 2566 ไว้ที่ 8.93 บาท โดยอิงกับประมาณการกำไรต่อหุ้นปี 2567 ที่ 0.20 บาท และ PER ล่วงหน้าที่ 44.6 เท่า ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 4 ปี
ทั้งนี้ ราคาหุ้น D ที่เคลื่อนไหวในปัจจุบันที่ระดับ 5.90 บาท ซึ่งถือว่าค่อนข้างต่ำ ยังมี upside กว่า 50% จากราคาเป้าหมาย ที่ให้ไว้ 8.93 บาท จึงเป็นหุ้นที่น่าลงทุน ด้วยแนวโน้มผลประกอบการที่ดีอย่างต่อเนื่อง และจากกระแสคนไข้ต่างชาติที่มาทำใช้บริการด้านทันตกรรมในไทย เนื่องจากประเทศไทยเป็นพื้นที่เป้าหมายสำหรับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ มีการบริการที่อยู่ในระดับสากล และทันตแพทย์ไทยมีความรู้ความสามารถ จากการผลักดันให้ไทยเป็น Dental Hub ของโลก