Talk of The Town

ผถห. SFLEX ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.03 บ./หุ้น ปักหมุดรายได้ปีนี้ทะยานแตะ 1,850 ลบ.


24 เมษายน 2566
ผู้ถือหุ้น บมจ.สตาร์เฟล็กซ์ (SFLEX) ไฟเขียวลงมติจ่ายเงินปันผลงวดปี 65 ในอัตราหุ้นละ 0.03 บาท เตรียมรับทรัพย์ 22 พ.ค.นี้ ฟากซีอีโอ “สมโภชน์ วัลยะเสวี” ปักหมุดรายได้ปี 66 ไม่น้อยกว่า 1,850 ล้านบาท วางกลยุทธ์ขยายตลาดเชิงรุกในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ให้มาร์จิ้นสูง เน้นกลุ่มที่มีศักยภาพ เช่น ผลิตภัณท์ทางการแพทย์ (Medical) มุ่งสร้างความยั่งยืนของอัตรากำไรขั้นต้นให้สามารถเติบโตอย่างแข็งแกร่ง 

ข่าวลูกค้า ผผถห. SFLEX ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.03 บ.หุ้.jpg

ดร.สมโภชน์ วัลยะเสวี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตาร์เฟล็กซ์ จำกัด (มหาชน) (SFLEX) ผู้ผลิต และจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนชั้นนำในประเทศ เปิดเผยว่า ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2566 มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลงวดปี 2565 ให้กับผู้ถือหุ้นเป็นเงินสด ในอัตราหุ้นละ 0.03 บาท โดยจ่ายจากกำไรสุทธิส่วนที่ไม่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน 0.013 บาท และจ่ายจากกำไรสุทธิส่วนที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน (BOI) 0.017 บาท รวมเป็นเงินปันผลทั้งสิ้น 24,300,000 บาท โดยกำหนดให้ผู้ถือหุ้นที่จะมีชื่อปรากฎ ณ วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น (Record Date) ในวันที่ 28 เมษายน 2566 ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 27 เมษายน 2566 และกำหนดวันจ่ายเงินปันผลในวันที่ 22 พฤษภาคม 2566 นี้

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2566 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้โตแบบ Organic growth จากธุรกิจหลักเพิ่มขึ้นจากปีก่อนอยู่ที่ประมาณ 1,850 ล้านบาท จากกลยุทธ์การขยายตลาดเชิงรุกในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ให้มาร์จิ้นสูง ประกอบกับการมุ่งเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะผลิตภัณท์ทางการแพทย์ (Medical) ให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งเชื่อมั่นว่าช่วยผลักดันการเติบโตได้เพิ่มขึ้นในอนาคต เพื่อมุ่งสร้างความยั่งยืนของอัตรากำไรขั้นต้นให้มั่นคงในระยะยาว

ขณะที่ปัจจุบัน บริษัทฯ ใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ 200 ล้านเมตรต่อปี จากเดิมที่ใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ 180 ล้านเมตรต่อปี ทั้งนี้ กำลังการผลิตสามารถขยับได้ถึง 280 ล้านเมตรต่อปี ซึ่งแสดงให้เห็นว่าสามารถรับงานเพิ่มได้อีกจำนวนมาก หากได้รับคำสั่งซื้อเพิ่มเติมหรือได้รับลูกค้าใหม่ๆ เข้ามา

“แนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทฯ คาดว่าจะสามารถเติบโตได้ต่อเนื่องจากปีก่อน เนื่องจากต้นทุนราคาวัตถุดิบปรับตัวลดลง พร้อมกับการทยอยปรับราคาขายให้เหมาะสมกับต้นทุน และจากนโยบายจัดหาวัตถุดิบด้วยต้นทุนคงที่ในระยะยาวเพิ่มขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงกับการผันผวนของราคาในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นเข้ามาเพื่อทดแทนวัตถุดิบที่มีราคาสูง ประกอบกับแผนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจมุ่งเน้นขายสินค้าที่ให้มาร์จิ้นสูง ซึ่งบริษัทมีความพร้อมทั้งทางด้านเครื่องจักร ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ ทำให้ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามาโดยตลอด”ดร.สมโภชน์ กล่าวในที่สุด