จับประเด็นหุ้นเด่น
รายงานพิเศษ : W เทิร์นอะราวด์ หลัง “นักท่องเที่ยว-ดัชนีความเชื่อมั่น” พุ่ง
24 เมษายน 2566
ธุรกิจอาหารรับข่าวดีนักท่องเที่ยวต่างชาติ และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคพุ่งทำสถิติ หนุนยอดขายและรายได้บริษัท วาว แฟคเตอร์ (W) ที่ประกอบธุรกิจอาหาร ซึ่งผู้บริหารมั่นใจผลงานเติบโตอย่างยั่งยืน
สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) คาดการณ์นักท่องเที่ยวต่างชาติปี 66 จำนวน 30 ล้านคน หรือกลับมาที่ราว 75% ของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 62 ก่อนเกิดสถานการณ์โควิด และในไตรมาส 1/66 ประมาณการณ์นักท่องเที่ยวราว 6.47 ล้านคน หรือ 60% ของปี 62 ส่วนในปี 70 ตั้งเป้านักท่องเที่ยวไว้ที่ 80 ล้านคน
สอดคล้องกับมุมมองของศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ที่ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค เดือนมี.ค.66 อยู่ที่ระดับ 53.8 ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 10 และอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 37 เดือนนับตั้งแต่เดือนมี.ค.63
ซึ่งดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากผู้บริโภครู้สึกว่าเศรษฐกิจเริ่มปรับตัวดีขึ้นหลังจากที่การท่องเที่ยวฟื้นตัวขึ้นอย่างชัดเจน ทั้งการท่องเที่ยวของคนไทย และนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนที่เริ่มเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้นเป็นลำดับ ส่งผลให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในประเทศมากขึ้น และกิจกรรมทางเศรษฐกิจในภูมิภาคต่างๆ ปรับตัวดีขึ้น ประกอบกับราคาน้ำมันปรับตัวลดลง ทำให้ประชาชนรู้สึกผ่อนคลายเรื่องค่าครองชีพลง ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคทุกรายการปรับตัวดีขึ้นทุกรายการอย่างมีนัยสำคัญ
แนวโน้มนักท่องเที่ยวและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ปรับตัวดีขึ้น ส่งผลดีความมั่นใจของประชาชนในการใช้จ่าย และยังผลส่งผลดีต่อผู้ประกอบการธุรกิจอาหาร รวมทั้งบริษัท วาว แฟคเตอร์ จำกัด (มหาชน) (W) ในฐานะบริษัทฯที่ลงทุนในธุรกิจอาหาร
โดย “ธนวัฒน์ เอื้อศิริพันธ์” รองประธานกรรมการ W เปิดเผยว่า หลังจากบริษัทปรับโครงสร้างธุรกิจและขายธุรกิจที่ไม่มีกำไรออกไปเพื่อแก้ปัญหาขาดทุนสะสม โดยมุ่งขยายสาขาร้านอาหารชาบูญี่ปุ่นพรีเมี่ยม Kagonaya เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่ชื่นชอบในรสชาติความอร่อยของร้านบุฟเฟ่ต์ชาบูสไตล์ญี่ปุ่น ทำให้จากรายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยในปี 65 บริษัทมีรายได้รวม 344 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35% เทียบปี 64 อยู่ที่ 254 ล้านบาท
ส่วนแผนการดำเนินงานในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า บริษัทเตรียมขยายสาขา ร้านอาหารชาบูญี่ปุ่น พรีเมี่ยม Kagonaya เพิ่มจาก 18 สาขา เป็น 30 สาขา เพื่อรองรับความต้องการผู้บริโภคทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่ชื่นชอบชาบูสไตล์ญี่ปุ่นรสชาติแบบเมืองโอซาก้า ที่มีจุดเด่นในเรื่องของน้ำซุป น้ำจิ้ม ที่ไม่เหมือนใคร และเมนูอาหารต่างๆ ที่มาแบบจัดหนัก จัดเต็ม ซึ่งมั่นใจว่าจะทำให้ยอดขายเติบโตอย่างก้าวกระโดดตามการขยายสาขา
และเพื่อเป็นการกระตุ้นยอดขายในช่วงไตรมาส 1/66 บริษัทฯได้ร่วมกับพันธมิตร บมจ.เบทาโกร (BTG), บัตรกรุงไทย), บริษัท ไทยน้ำทิพย์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด และ XERXIA : อีสปอร์ตทีม จัดโปรโมชั่นเอาใจสายบุฟเฟ่ต์ ซึ่งจะทำให้ยอดขายของบริษัทเติบโตอย่างต่อเนื่อง
สำหรับเงินทุนในการขยายธุรกิจของบริษัท รองประธานกรรมการ W กล่าวว่า หลังการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับนักลงทุนแบบเฉพาะเจาะจง (PP) จำนวน 774 ล้านบาท ทำให้ฐานะทางการเงินของบริษัทมีความแข็งแกร่งมากขึ้น ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญในการปลดล็อกเครื่องหมาย C พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจอาหารตามแผนงานได้วางเอาไว้ โดยบริษัทฯยังคงมองหาโอกาสการขยายการลงทุนในธุรกิจอาหาร เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตอย่างมีเสถียรภาพในอนาคต
ทั้งนี้ปัจจุบัน W มีธุรกิจ food and beverage ที่ดำเนินกิจการได้แก่
1.) ธุรกิจของบริษัท เบค ชีส ทาร์ต (ไทยแลนด์) จำกัด หรือ BCT ประกอบธุรกิจร้านขนมนำเข้าจากญี่ปุ่นแบรนด์ Bake (เบค), Zaku Zaku (ซากุ ซากุ) และ Rapl (แรปเปิ้ล)
2.) ธุรกิจของบริษัท เครปส์ แอนด์ โค. ดีเวล๊อปเม้นท์ จำกัด หรือ CND ประกอบธุรกิจร้านอาหารสเต๊กสไตล์ฝรั่งเศส Le Boeuf (เลอ เบิฟ)
3.) ธุรกิจของบริษัท อีสเทิร์น ควีซีน (ประเทศไทย) จำกัด ประกอบธุรกิจร้านอาหารชาบู Kagonoya (คาโกะโนยะ) ร้านอาหารชาบูระดับพรีเมี่ยม มีต้นกำเนิดมาจากเมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น
สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) คาดการณ์นักท่องเที่ยวต่างชาติปี 66 จำนวน 30 ล้านคน หรือกลับมาที่ราว 75% ของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 62 ก่อนเกิดสถานการณ์โควิด และในไตรมาส 1/66 ประมาณการณ์นักท่องเที่ยวราว 6.47 ล้านคน หรือ 60% ของปี 62 ส่วนในปี 70 ตั้งเป้านักท่องเที่ยวไว้ที่ 80 ล้านคน
สอดคล้องกับมุมมองของศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ที่ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค เดือนมี.ค.66 อยู่ที่ระดับ 53.8 ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 10 และอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 37 เดือนนับตั้งแต่เดือนมี.ค.63
ซึ่งดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากผู้บริโภครู้สึกว่าเศรษฐกิจเริ่มปรับตัวดีขึ้นหลังจากที่การท่องเที่ยวฟื้นตัวขึ้นอย่างชัดเจน ทั้งการท่องเที่ยวของคนไทย และนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนที่เริ่มเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้นเป็นลำดับ ส่งผลให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในประเทศมากขึ้น และกิจกรรมทางเศรษฐกิจในภูมิภาคต่างๆ ปรับตัวดีขึ้น ประกอบกับราคาน้ำมันปรับตัวลดลง ทำให้ประชาชนรู้สึกผ่อนคลายเรื่องค่าครองชีพลง ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคทุกรายการปรับตัวดีขึ้นทุกรายการอย่างมีนัยสำคัญ
แนวโน้มนักท่องเที่ยวและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ปรับตัวดีขึ้น ส่งผลดีความมั่นใจของประชาชนในการใช้จ่าย และยังผลส่งผลดีต่อผู้ประกอบการธุรกิจอาหาร รวมทั้งบริษัท วาว แฟคเตอร์ จำกัด (มหาชน) (W) ในฐานะบริษัทฯที่ลงทุนในธุรกิจอาหาร
โดย “ธนวัฒน์ เอื้อศิริพันธ์” รองประธานกรรมการ W เปิดเผยว่า หลังจากบริษัทปรับโครงสร้างธุรกิจและขายธุรกิจที่ไม่มีกำไรออกไปเพื่อแก้ปัญหาขาดทุนสะสม โดยมุ่งขยายสาขาร้านอาหารชาบูญี่ปุ่นพรีเมี่ยม Kagonaya เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่ชื่นชอบในรสชาติความอร่อยของร้านบุฟเฟ่ต์ชาบูสไตล์ญี่ปุ่น ทำให้จากรายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยในปี 65 บริษัทมีรายได้รวม 344 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35% เทียบปี 64 อยู่ที่ 254 ล้านบาท
ส่วนแผนการดำเนินงานในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า บริษัทเตรียมขยายสาขา ร้านอาหารชาบูญี่ปุ่น พรีเมี่ยม Kagonaya เพิ่มจาก 18 สาขา เป็น 30 สาขา เพื่อรองรับความต้องการผู้บริโภคทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่ชื่นชอบชาบูสไตล์ญี่ปุ่นรสชาติแบบเมืองโอซาก้า ที่มีจุดเด่นในเรื่องของน้ำซุป น้ำจิ้ม ที่ไม่เหมือนใคร และเมนูอาหารต่างๆ ที่มาแบบจัดหนัก จัดเต็ม ซึ่งมั่นใจว่าจะทำให้ยอดขายเติบโตอย่างก้าวกระโดดตามการขยายสาขา
และเพื่อเป็นการกระตุ้นยอดขายในช่วงไตรมาส 1/66 บริษัทฯได้ร่วมกับพันธมิตร บมจ.เบทาโกร (BTG), บัตรกรุงไทย), บริษัท ไทยน้ำทิพย์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด และ XERXIA : อีสปอร์ตทีม จัดโปรโมชั่นเอาใจสายบุฟเฟ่ต์ ซึ่งจะทำให้ยอดขายของบริษัทเติบโตอย่างต่อเนื่อง
สำหรับเงินทุนในการขยายธุรกิจของบริษัท รองประธานกรรมการ W กล่าวว่า หลังการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับนักลงทุนแบบเฉพาะเจาะจง (PP) จำนวน 774 ล้านบาท ทำให้ฐานะทางการเงินของบริษัทมีความแข็งแกร่งมากขึ้น ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญในการปลดล็อกเครื่องหมาย C พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจอาหารตามแผนงานได้วางเอาไว้ โดยบริษัทฯยังคงมองหาโอกาสการขยายการลงทุนในธุรกิจอาหาร เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตอย่างมีเสถียรภาพในอนาคต
ทั้งนี้ปัจจุบัน W มีธุรกิจ food and beverage ที่ดำเนินกิจการได้แก่
1.) ธุรกิจของบริษัท เบค ชีส ทาร์ต (ไทยแลนด์) จำกัด หรือ BCT ประกอบธุรกิจร้านขนมนำเข้าจากญี่ปุ่นแบรนด์ Bake (เบค), Zaku Zaku (ซากุ ซากุ) และ Rapl (แรปเปิ้ล)
2.) ธุรกิจของบริษัท เครปส์ แอนด์ โค. ดีเวล๊อปเม้นท์ จำกัด หรือ CND ประกอบธุรกิจร้านอาหารสเต๊กสไตล์ฝรั่งเศส Le Boeuf (เลอ เบิฟ)
3.) ธุรกิจของบริษัท อีสเทิร์น ควีซีน (ประเทศไทย) จำกัด ประกอบธุรกิจร้านอาหารชาบู Kagonoya (คาโกะโนยะ) ร้านอาหารชาบูระดับพรีเมี่ยม มีต้นกำเนิดมาจากเมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น