จับประเด็นหุ้นเด่น

รายงานพิเศษ : TEGH ร่วมลดโลกร้อนใช้คาร์บอนฟุตพริ้นท์ เพิ่มความสามารถการแข่งขันในตลาดโลก


26 มกราคม 2566
การมีส่วนร่วมในการลดภาวะโลกร้อน เป็นความรับผิดชอบของทุกองค์กรและทุกคนบนโลกนี้  ล่าสุด TEGH ได้รับฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์  ตอกย้ำการทำธุรกิจอย่างยั่งยืน หนุนเป้าหมายภายในปี 2573 ก้าวสู่องค์กรที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์
TEGH ร่วมลดโลกร้อน260123.jpg

แนวทางการช่วยลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก ที่ทำได้ไม่ยากสำหรับผู้บริโภค ได้แก่ การเลือกซื้อสินค้าหรือบริการ ที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อย  และยังเป็นกลไกทางการตลาด ในการกระตุ้นให้ผู้ผลิตพัฒนาสินค้าที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตามความต้องการของผู้บริโภค

ซึ่งเครื่องหมายคาร์บอนฟุตพริ้นท์ ที่ติดบนสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ต่างๆนั้น  เป็นการแสดงข้อมูลให้ผู้บริโภคได้ทราบว่า ตลอดวัฏจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์เหล่านั้นมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกมาปริมาณเท่าไหร่ ตั้งแต่ขั้นตอนการได้มาซึ่งวัตถุดิบ กระบวนการผลิต การกระจายสินค้า การใช้งาน และการจัดการของเสียหลังหมดอายุการใช้งาน ซึ่งจะช่วยในการตัดสินใจชื้อของผู้บริโภค และกระตุ้นให้ผู้ประกอบการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีในการผลิตให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น 

การใช้คาร์บอนฟุตพริ้นท์ ยังช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก เพราะปัจจุบันหลายประเทศเริ่มมีการนำคาร์บอนฟุตพริ้นท์มาใช้ เช่น ประเทศอังกฤษ ,ฝรั่งเศส, สวิสเซอร์แลนด์ ,แคนาดา, ญี่ปุ่น และเกาหลี เป็นต้น และมีการเรียกร้องให้สินค้าที่นำเข้าจากประเทศไทยต้องติดเครื่องหมายคาร์บอนฟุตพริ้นท์ด้วย 

นอกจากนั้น หากประเทศไทยมีการดำเนินโครงการและเก็บข้อมูลการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ชัดเจน จะช่วยให้เรามีอำนาจในการต่อรองมากขึ้นในการประชุมระดับโลก   เพื่อกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อน

บริษัท อี.คิว.รับเบอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือบมจ. ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (TEGH)  ให้ความสำคัญกับการลดภาวะโลกร้อน และได้รับการรับรองฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์หรือ ฉลากลดโลกร้อน (Carbon Footprint Reduction : CFR) จากองค์การบริหารการจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ TGO

โดยกรรมการผู้จัดการ TEGH “สินีนุช โกกนุทาภรณ์”  ระบุว่า สินค้ายางแท่ง STR 10 และ STR 20 ของ บริษัท อี.คิว.รับเบอร์ จำกัด ได้รับการรับรองฉลากลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์จาก TGO  ซึ่งเป็นการประเมินการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตลอดวัฏจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่ การได้มาซึ่งวัตถุดิบ การขนส่ง กระบวนการผลิต การใช้งาน และการจัดการซากผลิตภัณฑ์หลังใช้ ซึ่งเป็นตัวชี้วัดว่า ตลอดกระบวนการผลิตสินค้ายางแท่งของกลุ่มบริษัทฯ สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากกว่าร้อยละ 2 เมื่อเทียบกับปีฐาน (ปี 2561)

นอกจากนี้ สินค้ายางแท่งของกลุ่มบริษัทฯ ยังมีค่าคาร์บอนฟุตพริ้นต์ของผลิตภัณฑ์ต่ำกว่าเกณฑ์เปรียบเทียบสมรรถนะ (Benchmark) ในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน เป็นการตอกย้ำว่ากลุ่มบริษัทฯ มีการดำเนินการที่สอดคล้องกับแนวทางการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ทำให้สินค้าของกลุ่มบริษัทฯ เป็นสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Eco Product) ที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้า คู่ค้า และผู้บริโภค ที่มีความห่วงใยในสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลกในปัจจุบัน

ปัจจุบัน TEGH โดยบริษัทในเครืออีก 4 บริษัท ได้แก่ บริษัท อี.คิว.รับเบอร์ จำกัด, บริษัท ไทยอีสเทิร์น อินโนเวชั่น จำกัด, บริษัท อีสเทิร์น ปาล์ม ออยล์ จำกัด และ บริษัท ไทยอีสเทิร์น ไบโอ พาวเวอร์ จำกัด ได้รับการรับรองคาร์บอนฟุตพริ้นท์ จาก TGO แล้ว ซึ่งจะแสดงปริมาณการปล่อยและดูดกลับก๊าซเรือนกระจก (Greenhouse Gas Emissions and Removals) ที่เกิดขึ้นจากกิจกรรมการดำเนินงาน และกิจกรรมขององค์กร อันจะนำไปสู่การกำหนดแนวทางการบริหารจัดการเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นการเตรียมความพร้อมในกรณีที่ภาครัฐกำหนดให้มีการรายงานข้อมูลก๊าซเรือนกระจก (Greenhouse Gas Reporting) เพื่อใช้เป็นแนวทางบริหารจัดการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศไทย ตามแผนปฏิบัติการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศ ปี 2564-2573
    
ทั้งนี้ TEGH ได้เริ่มดำเนินการตามแผนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขององค์กร ภายใต้การบริหารจัดการแบบ Thai Eastern Symbiosis ที่มีการบูรณาการใช้ทรัพยากรร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด มีการบริหารจัดการด้านพลังงาน น้ำ และของเสีย รวมถึงมีการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในกระบวนการ ควบคู่ไปกับกิจกรรมการชดเชยคาร์บอน (Carbon Offset) และมีแผนที่จะทำการกักเก็บคาร์บอน (Carbon sequestration) ภายในองค์กร  โดยตั้งเป้าเป็นองค์กรที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality Organization) ภายในปี 2573 เพื่อก้าวสู่องค์กรที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Green House Gas Organization)