Wealth Sharing
ผถห. CIVIL ไฟเขียว แจกปันผล 0.02บ./หุ้น เดินหน้ารับงานใหม่ ดัน Backlog แตะ2 หมื่นลบ.
27 เมษายน 2566
นายปิยะดิษฐ์ อัศวศิริสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ซีวิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) หรือ CIVIL ผู้นำบริษัทก่อสร้างครบวงจรชั้นนำของไทย เปิดเผยว่า ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลเพิ่มในอัตราหุ้นละ 0.02 บาท คิดเป็นจำนวนเงิน 14 ล้านบาท หรือ คิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผลประจำปี 2565 อยู่ที่ 30.5% ของกำไรสุทธิของบริษัทหลังหักสำรองตามกฎหมาย
โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 3 พ.ค. 2566 กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date) วันที่ 8 พ.ค. 2566 และ กำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 24 พ.ค. 2566
สำหรับแนวโน้มธุรกิจ ช่วงไตรมาส 2/2566 บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถดำเนินงานได้ตามแผนที่วางไว้ โดยมีแผนการเตรียมเข้ารับงานประเภทงานก่อสร้างระบบชลประทาน, งานทาง, งานก่อสร้างทางรถไฟ และ งานก่อสร้างสนามบิน โดยยังคงพัฒนาธุรกิจให้เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างคุณภาพ ด้วยกลยุทธ์การก่อสร้างที่รวดเร็ว มีมาตรฐาน และ มีความปลอดภัย พร้อมเข้าร่วมประมูลงานโครงการภาครัฐและเพิ่มโอกาสการเข้ารับงานเอกชนต่อเนื่อง เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับบริษัท
นอกจากนี้ บริษัทมุ่งเน้นการร่วมมือกับพันธมิตรเพิ่มโอกาสการลงทุนในธุรกิจใหม่ โดยเฉพาะธุรกิจประเภทพลังงานงานทดแทน รวมไปถึงการเข้ารับงานหลากหลายมากขึ้นเพื่อสร้างการเติบโตอย่างมีคุณภาพ ซึ่งจะส่งเสริมให้มูลค่างานในมือของบริษัท (Backlog) เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ที่ระดับ 20,000 ล้านบาท
โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 3 พ.ค. 2566 กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date) วันที่ 8 พ.ค. 2566 และ กำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 24 พ.ค. 2566
สำหรับแนวโน้มธุรกิจ ช่วงไตรมาส 2/2566 บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถดำเนินงานได้ตามแผนที่วางไว้ โดยมีแผนการเตรียมเข้ารับงานประเภทงานก่อสร้างระบบชลประทาน, งานทาง, งานก่อสร้างทางรถไฟ และ งานก่อสร้างสนามบิน โดยยังคงพัฒนาธุรกิจให้เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างคุณภาพ ด้วยกลยุทธ์การก่อสร้างที่รวดเร็ว มีมาตรฐาน และ มีความปลอดภัย พร้อมเข้าร่วมประมูลงานโครงการภาครัฐและเพิ่มโอกาสการเข้ารับงานเอกชนต่อเนื่อง เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับบริษัท
นอกจากนี้ บริษัทมุ่งเน้นการร่วมมือกับพันธมิตรเพิ่มโอกาสการลงทุนในธุรกิจใหม่ โดยเฉพาะธุรกิจประเภทพลังงานงานทดแทน รวมไปถึงการเข้ารับงานหลากหลายมากขึ้นเพื่อสร้างการเติบโตอย่างมีคุณภาพ ซึ่งจะส่งเสริมให้มูลค่างานในมือของบริษัท (Backlog) เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ที่ระดับ 20,000 ล้านบาท