Talk of The Town
ผถห. LEO ลงมติจ่ายปันผลปี 65 เพิ่ม 0.20 บ./หุ้น ลุยขยายธุรกิจทุกมิติ มั่นใจผลงานปี66 โตติดปีก
28 เมษายน 2566
![ข่าวลูกค้า ผถห. LEO ลงมติจ่ายปันผลปี 65 เพิ่ม 0.20 .jpg](https://www.share2trade.com/storage/PressIOS/2023/April/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%84%E0%B9%89%E0%B8%B2%20%E0%B8%9C%E0%B8%96%E0%B8%AB.%20LEO%20%E0%B8%A5%E0%B8%87%E0%B8%A1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%9B%E0%B8%B5%2065%20%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%A1%200.20%20.jpg)
ผู้ถือหุ้น LEO โหวตผ่านมติจ่ายเงินปันผลงวดปี 65 เป็นเงินสดเพิ่มอีก 0.20 บาท/หุ้น เตรียมรับทรัพย์ในวันที่ 26 พ.ค. 66 นี้ รวมทั้งปีจ่ายเงินปันผล 0.40 บ./หุ้น รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 127,012,400 บาท ฟากซีอีโอ "เกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์ " มั่นใจผลงานปีนี้เติบโตต่อเนื่อง เดินหน้าปิดดีล JV และ M&A ทั้งในและต่างประเทศ ลุยขยายธุรกิจทุกมิติ ปักหมุด Gross Profit Margin เพิ่มขึ้น 15-20% เน้นลงทุนธุรกิจใหม่ที่เป็น Non Freight มีกำไรขั้นต้นสูงถึง 40-45% ผลักดันอนาคตโตก้าวกระโดด
นายเกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LEO เปิดเผยว่าที่ประชุมสามัญประจำปี 2566 ในวันที่ 27 เมษายน 2566 ที่ผ่านมา มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลงวดสุดท้ายประจำปี 2565 ให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัท ในอัตราหุ้นละ 0.20 บาท โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น (Record Date) ที่มีสิทธิรับเงินปันผล ณ วันที่ 10 พฤษภาคม 2566 และกำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 26 พฤษภาคม 2566
ทั้งนี้ บริษัทได้แจ้งให้ทราบการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล จากผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2565 - 30 มิถุนายน 2565 ซึ่งได้จ่ายไปแล้วเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2565 ในอัตราหุ้นละ 0.20 บาท โดยสรุปจำนวนเงินปันผลรวมซึ่งจ่ายจากผลประกอบการของปี 2565 รวมคิดเป็นอัตราหุ้นละ 0.40 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 127,012,400 บาท
"การจ่ายเงินปันผลในส่วนที่เหลือเพื่อเป็นการตอบแทนให้ผู้ถือหุ้นที่ไว้วางใจและเชื่อมั่นต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทอย่างต่อเนื่อง สำหรับในปี 2566 บริษัทฯยังมั่นใจว่าจะสามารถรักษาการเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากปีก่อน" นายเกตติวิทย์ กล่าว
สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2566 บริษัทฯ เชื่อมั่นว่า จะยังคงรักษาระดับการเติบโตของกำไรขั้นต้นและผลประกอบการอย่างต่อเนื่อง โดยจะเริ่มรับรู้รายได้และกำไร จากโครงการ JV และ M&A ใหม่ๆ ที่เป็นทั้งการให้บริการ Freight , Non Freight และ New Business ในหลายๆ โครงการ เช่น การให้บริการขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนโดยรถบรรทุกและรถไฟผ่านเส้นทางรถไฟ ลาว – จีน , การให้บริการตู้คอนเทนเนอร์ควบคุมอุณหภูมิสำหรับขนส่งผลไม้ไปยังประเทศจีน ซึ่งในขณะนี้มี volume การใช้บริการจำนวนมาก , การให้บริการลานเก็บตู้คอนเทนเนอร์ (Container Depot) แห่งที่ 2 ซึ่งได้เปิดดำเนินการเรียบร้อยแล้ว , การพัฒนาธุรกิจ Cold Chain Logistics ที่บริษัท สหไทย เทอร์มินัล จำกัด (มหาชน) หรือ PORT , การพัฒนาโครงการ Warehouse & Logistics Center ร่วมกับ บริษัท เอชเค แอสเซท แมเนจเมนท์ จำกัด ในเครือ บริษัท เสนา ดีเวลอบเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA, การเปิดบริการ Self Storage แห่งที่ 3 และ 4 , การพัฒนาธุรกิจตัวแทนในการซื้อสินค้าจากประเทศไทยเพื่อส่งให้กับผู้ซื้อในประเทศจีน ภายใต้ชื่อ บริษัท LEO Sourcing & Supply Chain ที่ปัจจุบันมีคำสั่งซื้อสินค้าที่เป็นทุเรียนและผลไม้อื่นๆ เข้ามาเป็นจำนวนมาก
รวมถึง โครงการ JV กับ บริษัท เบาไทย อินเด็กซ์ แอสโซซิเอท จำกัด และ บริษัท ศรีตรังโลจิสติกส์ จำกัด ที่เป็นตัวแทนอย่างเป็นทางการของทางการรถไฟจีนในการทำการตลาดการขนส่งทางรางไทย-จีนภายใต้ บริษัท LaneXang Express Company Limited และธุรกิจอื่นๆ ที่จะทยอยเกิดขึ้นในปี 2566 นี้ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการเติบโตทั้งในด้านธุรกิจและรายได้อย่างก้าวกระโดดในอีก 2-3 ปีข้างหน้า