Fund / Insurance
TQMalphaจ่ายปันผลอีก 0.50 บ./หุ้น เดินหน้า IPO 3 บริษัทในเครือตามแผน
28 เมษายน 2566
TQMalpha ประชุมผู้ถือหุ้น เคาะจ่ายปันผลอีก 0.50 บ./หุ้น รวมทั้งปี 1.20 บ./หุ้น เผยแนวโน้มธุรกิจปี 2566 จะกลับมาเป็นปกติ คาดว่าแนวโน้มการเติบโตของรถยนต์ไฟฟ้า (EV) จะมีส่วนช่วยหนุนยอดเบี้ยประกันรถยนต์ใน เดินหน้า IPO 3 บริษัทในเครือตามแผน
ดร.อัญชลิน พรรณนิภา ประธานบริษัท ทีคิวเอ็ม อัลฟา จำกัด (มหาชน) แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถึงการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 เมื่อวันอังคารที่ 25 เมษายน 2566 มีมติเป็นเอกฉันท์อนุมัติการจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานปี 2565 เป็นเงินสดอีก 0.50 บาท/หุ้น และกำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น ในวันศุกร์ที่ 12 พฤษภาคม 2566 โดยก่อนหน้านี้บริษัทได้จ่ายปันผลระหว่างกาลไปแล้วที่ 0.70 บาท/หุ้น รวมจ่ายปันผลประจำปี 2565 ทั้งหมดที่ 1.20 บาท/หุ้น รวมจำนวนเงิน 720 ล้านบาท
สำหรับผลการดำเนินงานปี 2565 บริษัทฯ มีรายได้รวม 3,727 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากยอดขายและค่าบริการที่เพิ่มในทุกผลิตภัณฑ์ประกันภัย กำไรสุทธิ 885 ล้านบาท แต่ในปี 2564 มีรายการพิเศษเช่นการซื้อบริษัทย่อยในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่ายุติธรรม และการกลับรายการประมาณการหนี้สินของบริษัทย่อย หากไม่รวมรายการดังกล่าว ในปี 2565 บริษัทยังคงมีกำไรสุทธิใกล้เคียงกับปีก่อน
ดร.นภัสนันท์ พรรณนิภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัท ทีคิวเอ็ม อัลฟา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าในปี 2565 TQM สามารถขายประกันใหม่ได้ค่อนข้างดี แต่สำหรับงานขายประเภทต่ออายุกรมธรรม์ เช่นประกันโควิด ที่บริษัทประกันยุติการขาย รวมถึงการปิดตัวลงของบริษัทประกันบางแห่งจากผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้ไม่สามารถต่ออายุกรมธรรม์ของบริษัทประกันดังกล่าวได้เต็มที่ อย่างไรก็ตาม คาดว่าในปี 2566 แนวโน้มการประกอบธุรกิจของ TQM จะกลับมาเป็นปกติ โดยการขายสำหรับกลุ่มลูกค้าต่ออายุประกันภัยสามารถดำเนินได้ตามปกติ รวมถึงสถานะทางการเงินของบริษัทประกันต่างๆ ที่มั่นคงขึ้น TQMalpha ยังคงดำเนินกลยุทธ์สร้าง synergy เพื่อเติบโต ผ่านกลุ่มธุรกิจประกัน การเงิน และเทคโนโลยีแพลตฟอร์ม
“ในปีนี้เราได้เห็นกระแสการเข้ามาของรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่มีความต้องการสูงและมีแนวโน้มเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งรถยนต์ไฟฟ้ามีค่าเบี้ยประกันภัยสูงกว่ารถยนต์แบบธรรมดา และค่านายหน้าจะสูงขึ้นตามยอดเบี้ยไปด้วย สำหรับยอดขายประกันอุบัติเหตุและสุขภาพภายหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ก็ได้รับความสนใจ สามารถ upsell และ cross sell ได้ดี เช่นเดียวกับการเติบโตของประกันบ้านและประกัน non-motor อื่นๆ นอกจากนี้ ในช่วงไตรมาส 1 ปี 2566 บริษัทฯ ได้ลงทุนด้านบุคลากรเพื่อรองรับความต้องการซื้อประกันภัย เช่นการเพิ่มทีมขายและการฝึกอบรมที่จะช่วยสร้างยอดขายให้เติบโตมากขึ้น โดยที่ผ่านมายอดขายยังคงเป็นไปตามกลยุทธ์ของบริษัทฯ ที่วางไว้ และเพื่อเพิ่มศักยภาพสูงสุด TQM มีแผนนำ 3 บริษัทในเครือ เตรียมเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ประกอบด้วยบริษัทด้านธุรกิจประกัน ในปี 2567 บริษัทด้านธุรกิจการเงินในปี 2568 และบริษัทด้านธุรกิจเทคโนโลยีแพลตฟอร์มในปี 2569 ทั้งนี้ตามกลยุทธ์ของบริษัทฯ ในปี 2570 ทาง TQM มีเป้าหมายที่จะสร้างยอดเบี้ยประกันกว่า 50,000 ล้านบาท” ดร.นภัสนันท์กล่าว
ดร.อัญชลิน พรรณนิภา ประธานบริษัท ทีคิวเอ็ม อัลฟา จำกัด (มหาชน) แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถึงการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 เมื่อวันอังคารที่ 25 เมษายน 2566 มีมติเป็นเอกฉันท์อนุมัติการจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานปี 2565 เป็นเงินสดอีก 0.50 บาท/หุ้น และกำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น ในวันศุกร์ที่ 12 พฤษภาคม 2566 โดยก่อนหน้านี้บริษัทได้จ่ายปันผลระหว่างกาลไปแล้วที่ 0.70 บาท/หุ้น รวมจ่ายปันผลประจำปี 2565 ทั้งหมดที่ 1.20 บาท/หุ้น รวมจำนวนเงิน 720 ล้านบาท
สำหรับผลการดำเนินงานปี 2565 บริษัทฯ มีรายได้รวม 3,727 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากยอดขายและค่าบริการที่เพิ่มในทุกผลิตภัณฑ์ประกันภัย กำไรสุทธิ 885 ล้านบาท แต่ในปี 2564 มีรายการพิเศษเช่นการซื้อบริษัทย่อยในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่ายุติธรรม และการกลับรายการประมาณการหนี้สินของบริษัทย่อย หากไม่รวมรายการดังกล่าว ในปี 2565 บริษัทยังคงมีกำไรสุทธิใกล้เคียงกับปีก่อน
ดร.นภัสนันท์ พรรณนิภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัท ทีคิวเอ็ม อัลฟา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าในปี 2565 TQM สามารถขายประกันใหม่ได้ค่อนข้างดี แต่สำหรับงานขายประเภทต่ออายุกรมธรรม์ เช่นประกันโควิด ที่บริษัทประกันยุติการขาย รวมถึงการปิดตัวลงของบริษัทประกันบางแห่งจากผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้ไม่สามารถต่ออายุกรมธรรม์ของบริษัทประกันดังกล่าวได้เต็มที่ อย่างไรก็ตาม คาดว่าในปี 2566 แนวโน้มการประกอบธุรกิจของ TQM จะกลับมาเป็นปกติ โดยการขายสำหรับกลุ่มลูกค้าต่ออายุประกันภัยสามารถดำเนินได้ตามปกติ รวมถึงสถานะทางการเงินของบริษัทประกันต่างๆ ที่มั่นคงขึ้น TQMalpha ยังคงดำเนินกลยุทธ์สร้าง synergy เพื่อเติบโต ผ่านกลุ่มธุรกิจประกัน การเงิน และเทคโนโลยีแพลตฟอร์ม
“ในปีนี้เราได้เห็นกระแสการเข้ามาของรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่มีความต้องการสูงและมีแนวโน้มเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งรถยนต์ไฟฟ้ามีค่าเบี้ยประกันภัยสูงกว่ารถยนต์แบบธรรมดา และค่านายหน้าจะสูงขึ้นตามยอดเบี้ยไปด้วย สำหรับยอดขายประกันอุบัติเหตุและสุขภาพภายหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ก็ได้รับความสนใจ สามารถ upsell และ cross sell ได้ดี เช่นเดียวกับการเติบโตของประกันบ้านและประกัน non-motor อื่นๆ นอกจากนี้ ในช่วงไตรมาส 1 ปี 2566 บริษัทฯ ได้ลงทุนด้านบุคลากรเพื่อรองรับความต้องการซื้อประกันภัย เช่นการเพิ่มทีมขายและการฝึกอบรมที่จะช่วยสร้างยอดขายให้เติบโตมากขึ้น โดยที่ผ่านมายอดขายยังคงเป็นไปตามกลยุทธ์ของบริษัทฯ ที่วางไว้ และเพื่อเพิ่มศักยภาพสูงสุด TQM มีแผนนำ 3 บริษัทในเครือ เตรียมเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ประกอบด้วยบริษัทด้านธุรกิจประกัน ในปี 2567 บริษัทด้านธุรกิจการเงินในปี 2568 และบริษัทด้านธุรกิจเทคโนโลยีแพลตฟอร์มในปี 2569 ทั้งนี้ตามกลยุทธ์ของบริษัทฯ ในปี 2570 ทาง TQM มีเป้าหมายที่จะสร้างยอดเบี้ยประกันกว่า 50,000 ล้านบาท” ดร.นภัสนันท์กล่าว