จับประเด็นหุ้นเด่น

รายงานพิเศษ : SUPER ขายไฟผลิตจากแสงอาทิตย์ ได้ตลอด 24 ชม. – ประเดิม “SPP HYBRID”


26 มกราคม 2566
SUPER  ขายไฟจากโรงไฟฟ้า SPP HYBRID โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ติดตั้งร่วมกับแบตเตอรี่ โดยสามารถผลิต และขายไฟฟ้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง แม้ไม่มีแสงแดด  สนับสนุนรายได้ปีนี้โต 15-20%
รายงานพิเศษ SUPER260123.jpg


การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน  ตามข้อมูลของกระทรวงพลังงาน ในปี 2563  จะพบว่า การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ครองแชมป์อันดับ 1 โดยมีผู้ผลิต 567 แห่ง  กำลังผลิตติดตั้ง  2,936 MW  รองลงมาเป็นการผลิตไฟฟ้าจากชีวมวล  217 แห่ง กำลังผลิตติดตั้ง 33,22  MW  และอันดับ 3 การผลิตไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพ กำลังการผลิตติดตั้ง  379 MW 

ในอดีตการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์จะทำได้เฉพาะช่วงที่มีแสงแดดเท่านั้น แต่ปัจจุบันจุดอ่อนดังกล่าวได้ถูกกำจัด โดย บมจ.ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น (SUPER)  ซึ่ง “จอมทรัพย์ โลจายะ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า บริษัท ซุปเปอร์ โซล่าร์ ไฮบริด จำกัด 

ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน ได้เดินเครื่องจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) โครงการ SPP HYBRID ขนาดกำลังการผลิต 16 เมกะวัตต์ ในจังหวัดสระแก้ว ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการสร้างรายได้ ส่งผลให้กำลังการผลิตไฟฟ้าที่จ่ายไฟเข้าระบบเชิงพาณิชย์เพิ่มจาก 1,592.32 เมกะวัตต์ เป็น 1,608.32 เมกะวัตต์
          
โครงการ SPP HYBRID ในจังหวัดสระแก้ว  เป็นโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ติดตั้งร่วมกับแบตเตอรี่ โดยสามารถผลิต และขายไฟฟ้าได้ 24 ชั่วโมง จากค่าเฉลี่ยในผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ประมาณ 4 ชั่วโมง/วัน ส่งผลต่อความสามารถในเพิ่มรายได้จากการขายไฟฟ้าในปริมาณเพิ่มขึ้นได้  ทั้งนี้โครงการดังกล่าวให้อัตราผลตอบแทน (IRR) เฉลี่ย 13-15%  
           
สำหรับโครงการ SPP HYBRID ในจังหวัดสระแก้ว ได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)(BAY) ในการปล่อยวงเงินสินเชื่อ (Project Financing) เพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาโครงการ ก่อสร้าง และยังเป็นการเสริมความเชื่อมั่นจากการรับสนับสนุนจากสถาบันการเงินอีกด้วย
          
"โครงการ SPP HYBRID ถือเป็นโครงการโรงไฟฟ้าแห่งแรกของปีนี้ที่ COD และความโดดเด่นของ SPP HYBRID คือสามารถจำหน่ายไฟ 24 ชั่วโมง เท่ากับว่าจะสนับสนุนต่อการสร้างมาร์จิ้นเพิ่มขึ้น ทำให้ผลประกอบการเพิ่มขึ้นและโครงการนี้เป็นโครงการที่ดี และจะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับกลุ่มบริษัทฯ" นายจอมทรัพย์กล่าว
           
นอกจากนี้ยังมีโครงการต่างๆ ในมือที่จะทยอย COD ต่อเนื่อง เช่น โครงการโรงไฟฟ้าจากขยะ โซลาร์รูฟท็อป โครงการการขยายงานสัญญาซื้อขายไฟฟ้าภาคเอกชน( Private PPA ) ฯลฯ รวมทั้งโครงการ PDP ในประเทศ และแผนพัฒนาพลังงานกำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศเวียดนาม (PDP8) โดยปี 66 ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 15-20% จากปีก่อน