บล.กรุงศรี พัฒนสิน (KCS) มองแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้ (2 พ.ค.) คาดอ่อนตัว แนวรับ 1,523/1,518 จุด แนวต้าน 1,540/1,545 จุด สัญญาณเทคนิคยังคงอยู่ในทิศทางขาลง ตามรูปแบบ Rounding Top โดยมีเป้าหมายที่ 1,518 จุด ขณะที่ผลกระทบจาก XD Effect วันนี้ มีผลต่อดัชนีฯ -1.42 จุด (CPALL ปันผล 0.75 บาท SAWAD 1.80 บาท BAM 0.55 บาท ESSO 0.30 บาท SCAP 0.80 บาท ฯลฯ)
ประเด็นวันนี้ เราคาดว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯและตลาดหุ้นโลกอาจมีข่าวดีจากผลประชุมเฟด 3 พค.นี้ ที่เฟดอาจมีมติคงอัตราดอกเบี้ย (สวนทางกับ มุมมองของตลาด ที่คาดว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 1 ครั้ง) โดยมีปัจจัยสนับสนุนจาก รายงานเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่สะท้อนภาคแรงงานเริ่มผ่อนคลายการตึงตัว และภาพรวมเศรษฐกิจ เข้าสู่การชะลอตัว
เราคาดว่า JOLTs Job Openings ประจำเดือน มี.ค. (ประกาศวันนี้) คาดลดลงเป็น 9.7 ล้านคน ชะลอตัวลงจาก 9.9 ล้านคน ในเดือน ก.พ. หากพิจารณาร่วมกับอัตราการเลิกจ้าง (Challenger Job Cuts) จะทำให้อัตราส่วนแรงงานที่ถูกปรับลดลง ต่อ ตำแหน่งงานที่เปิดรับใหม่ (Job Cuts / Job Openings ratio) เร่งตัวขึ้น ส่งผลต่อ ค่าจ้าง (Wages) อยู่ในทิศทางชะลอตัว (คาด Wages เดือน เม.ย. ทรงตัวที่ +0.3% MoM) สะท้อนถึง แรงตึงตัวของภาคการจ้างงานสหรัฐฯ ชะลอลงแล้ว
ประกอบกับตัวเลขคาดการณ์ด้านแรงงานสหรัฐฯ ประจำเดือน เม.ย. ที่จะประกาศสุดสัปดาห์นี้ มีแนวโน้มอ่อนแอลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อน อาทิ Unemployment rate คาดเร่งตัวขึ้นเป็น 3.6% (Vs 3.5%) Non-farm payrolls คาดลดลงสู่ระดับ 1.80 แสนตำแหน่ง (Vs 2.36 แสนตำแหน่ง) ฯลฯ
ขณะที่กิจกรรมเศรษฐกิจในภาคบริการดูจะกลับมาฟื้นตัวขึ้นเป็น 51.8 (Vs 51.2) และ แต่ในภาคผลิต สะท้อนจาก ISM Manufacturing แม้ฟื้นตัวเป็น 47.1 (Vs 46.3) แต่ยังอยู่ในระดับต่ำกว่า 50 ซึ่งเป็นโซนหดตัว หนุนมุมมองของเรา ที่คาดว่าเฟดมีโอกาสยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 3 พค.นี้
Investment Strategy:
KTX Big Cap Portfolio: CRC, BGRIM, CENTEL, BH, AOT, BBL, AMATA, HANA, CPN, MINT, TTB, THG , KTB, SAWAD, WHA , LH (ORI เข้า CPN, KTB, BDMS ออก)
Strategic daily picks:
AP ปิด 12.60 บาท/แนวรับ 12.20 บาท แนวต้าน 13.50 บาท
Consensus คาดกำไรสุทธิ 1Q23 ที่ 1.3 พันล้านบาท +12.3% QoQ, -25% YoY และรายได้รวม 9.2 พันล้านบาท +4% QoQ, -15.2% YoY ทั้งนี้ AP รายงาน 1Q23 Presales ที่ 1.1 หมื่นล้านบาท ลดลง 15% ทั้ง QoQ, YoY โดยใน 1Q23 มีเปิดตัว 4 โครงการใหม่ เป็นแนวราบทั้งหมด มูลค่า 4.18 พันล้านบาท ส่วนแนวโน้มกำไรปี 2023-24 คาดอยู่ที่ 6.05 พันล้านบาท และ 6.04 พันล้านบาท ตามลำดับ จาก Backlog กลุ่มแนวราบที่แข็งแกร่งและแผนการเปิดตัวโครงการใหม่ปี 2023 สูงกว่าปี 2022 พร้อมให้ราคาเป้าหมายที่ 14.40 บาท อิงค่าเฉลี่ย PE 7.5 เท่า
QH ปิด 2.36 บาท/แนวรับ 2.28 บาท แนวต้าน 2.48 บาท
Consensus คาดกำไรสุทธิ 1Q23 ยังคงเติบโต YoY และขยับขึ้นเล็กน้อย QoQ ส่วนหนึ่งจากการฟื้นตัวของส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทในเครือและธุรกิจให้เช่า และทั้งปี 2023 คาดรายได้และกำไรสุทธิที่ 1.04 หมื่นล้านบาท และ 2.69 พันล้านบาท ตามลำดับ หนุนจาก 1) อุปสงค์ที่แข็งแกร่งในกลุ่มแนวราบระดับกลางถึงบนและระดับบน และ 2) รายได้ธุรกิจให้เช่าและยอดขายโครงการเดิมที่สูงขึ้น เพราะเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ดีขึ้น ส่วนมูลค่าโครงการใหม่ปี 2023 ที่ 1.06 หมื่นล้านบาท (+40% YoY) ทั้งนี้ Consensus ให้ราคาเป้าหมายที่ 2.90 บาท
AEONTS ปิด 193 บาท/แนวรับ 186 บาท แนวต้าน 206 บาท
Consensus คาดผลการดำเนินงานปกติ 1QFY23 จะหดตัว YoY จากฐานสูง แต่ขยายตัว QoQ จากค่าใช้จ่ายการดำเนินงานลดลงเป็นปกติฤดูกาล พร้อมปรับประมาณการกำไรปกติ FY2024 ลง 18% เป็น 3.6 พันล้านบาท (+5% YoY) จาก 1) cost of fund เพิ่มขึ้นเป็น 3.2% 2) credit cost +64bps เป็น 790bps และ 3) คาดสินเชื่อจะยังขยายตัวต่อเนื่องที่ 5% YoY ทั้งนี้ Consensus ให้ราคาเป้าหมายที่ 210.00 บาท อิง FY2024 PBV 2.1 เท่า
ประเด็นวันนี้ เราคาดว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯและตลาดหุ้นโลกอาจมีข่าวดีจากผลประชุมเฟด 3 พค.นี้ ที่เฟดอาจมีมติคงอัตราดอกเบี้ย (สวนทางกับ มุมมองของตลาด ที่คาดว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 1 ครั้ง) โดยมีปัจจัยสนับสนุนจาก รายงานเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่สะท้อนภาคแรงงานเริ่มผ่อนคลายการตึงตัว และภาพรวมเศรษฐกิจ เข้าสู่การชะลอตัว
เราคาดว่า JOLTs Job Openings ประจำเดือน มี.ค. (ประกาศวันนี้) คาดลดลงเป็น 9.7 ล้านคน ชะลอตัวลงจาก 9.9 ล้านคน ในเดือน ก.พ. หากพิจารณาร่วมกับอัตราการเลิกจ้าง (Challenger Job Cuts) จะทำให้อัตราส่วนแรงงานที่ถูกปรับลดลง ต่อ ตำแหน่งงานที่เปิดรับใหม่ (Job Cuts / Job Openings ratio) เร่งตัวขึ้น ส่งผลต่อ ค่าจ้าง (Wages) อยู่ในทิศทางชะลอตัว (คาด Wages เดือน เม.ย. ทรงตัวที่ +0.3% MoM) สะท้อนถึง แรงตึงตัวของภาคการจ้างงานสหรัฐฯ ชะลอลงแล้ว
ประกอบกับตัวเลขคาดการณ์ด้านแรงงานสหรัฐฯ ประจำเดือน เม.ย. ที่จะประกาศสุดสัปดาห์นี้ มีแนวโน้มอ่อนแอลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อน อาทิ Unemployment rate คาดเร่งตัวขึ้นเป็น 3.6% (Vs 3.5%) Non-farm payrolls คาดลดลงสู่ระดับ 1.80 แสนตำแหน่ง (Vs 2.36 แสนตำแหน่ง) ฯลฯ
ขณะที่กิจกรรมเศรษฐกิจในภาคบริการดูจะกลับมาฟื้นตัวขึ้นเป็น 51.8 (Vs 51.2) และ แต่ในภาคผลิต สะท้อนจาก ISM Manufacturing แม้ฟื้นตัวเป็น 47.1 (Vs 46.3) แต่ยังอยู่ในระดับต่ำกว่า 50 ซึ่งเป็นโซนหดตัว หนุนมุมมองของเรา ที่คาดว่าเฟดมีโอกาสยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 3 พค.นี้
Investment Strategy:
KTX Big Cap Portfolio: CRC, BGRIM, CENTEL, BH, AOT, BBL, AMATA, HANA, CPN, MINT, TTB, THG , KTB, SAWAD, WHA , LH (ORI เข้า CPN, KTB, BDMS ออก)
Strategic daily picks:
AP ปิด 12.60 บาท/แนวรับ 12.20 บาท แนวต้าน 13.50 บาท
Consensus คาดกำไรสุทธิ 1Q23 ที่ 1.3 พันล้านบาท +12.3% QoQ, -25% YoY และรายได้รวม 9.2 พันล้านบาท +4% QoQ, -15.2% YoY ทั้งนี้ AP รายงาน 1Q23 Presales ที่ 1.1 หมื่นล้านบาท ลดลง 15% ทั้ง QoQ, YoY โดยใน 1Q23 มีเปิดตัว 4 โครงการใหม่ เป็นแนวราบทั้งหมด มูลค่า 4.18 พันล้านบาท ส่วนแนวโน้มกำไรปี 2023-24 คาดอยู่ที่ 6.05 พันล้านบาท และ 6.04 พันล้านบาท ตามลำดับ จาก Backlog กลุ่มแนวราบที่แข็งแกร่งและแผนการเปิดตัวโครงการใหม่ปี 2023 สูงกว่าปี 2022 พร้อมให้ราคาเป้าหมายที่ 14.40 บาท อิงค่าเฉลี่ย PE 7.5 เท่า
QH ปิด 2.36 บาท/แนวรับ 2.28 บาท แนวต้าน 2.48 บาท
Consensus คาดกำไรสุทธิ 1Q23 ยังคงเติบโต YoY และขยับขึ้นเล็กน้อย QoQ ส่วนหนึ่งจากการฟื้นตัวของส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทในเครือและธุรกิจให้เช่า และทั้งปี 2023 คาดรายได้และกำไรสุทธิที่ 1.04 หมื่นล้านบาท และ 2.69 พันล้านบาท ตามลำดับ หนุนจาก 1) อุปสงค์ที่แข็งแกร่งในกลุ่มแนวราบระดับกลางถึงบนและระดับบน และ 2) รายได้ธุรกิจให้เช่าและยอดขายโครงการเดิมที่สูงขึ้น เพราะเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ดีขึ้น ส่วนมูลค่าโครงการใหม่ปี 2023 ที่ 1.06 หมื่นล้านบาท (+40% YoY) ทั้งนี้ Consensus ให้ราคาเป้าหมายที่ 2.90 บาท
AEONTS ปิด 193 บาท/แนวรับ 186 บาท แนวต้าน 206 บาท
Consensus คาดผลการดำเนินงานปกติ 1QFY23 จะหดตัว YoY จากฐานสูง แต่ขยายตัว QoQ จากค่าใช้จ่ายการดำเนินงานลดลงเป็นปกติฤดูกาล พร้อมปรับประมาณการกำไรปกติ FY2024 ลง 18% เป็น 3.6 พันล้านบาท (+5% YoY) จาก 1) cost of fund เพิ่มขึ้นเป็น 3.2% 2) credit cost +64bps เป็น 790bps และ 3) คาดสินเชื่อจะยังขยายตัวต่อเนื่องที่ 5% YoY ทั้งนี้ Consensus ให้ราคาเป้าหมายที่ 210.00 บาท อิง FY2024 PBV 2.1 เท่า