บอร์ด SABUY เห็นโอกาสเหมาะสมอนุมัติ แผนซื้อหุ้นคืนจำนวน 5% หรือจำนวน 87.2 ล้านหุ้น ในวงเงิน 1,090 ล้านบาท เป็นการบริหารสถานะทางการเงินที่มีกำไรสะสมกว่า 2,000 ล้านบาท เริ่มซื้อหลังประกาศงบไตรมาส 1 ช่วงกลางเดือนพ.ค. เผยใช้งบคนละส่วนกับงบซื้อหุ้น SINGER และ AS ที่เตรียมแยกไว้แล้ว
นายชูเกียรติ รุจนพรพจี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) SABUY เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 2 พ.ค. 66 มีมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืน (Treasury Stock) เพื่อบริหารสถานะทางการเงิน วงเงินโครงการซื้อหุ้นคืนไม่เกิน 5.00 % ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด หรือไม่เกิน 1,090,000,000 บาท หรือไม่เกิน 87,200,000 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท กำหนดระยะเวลาที่จะซื้อหุ้นคืนตั้งแต่วันที่ 8 พ.ค.-14 ก.ค.66 โดยบริษัทฯ มีสภาพคล่องสูง และ มีกำไรสะสมสูงถึง 2,040,000,000 บาท
โดยเหตุผลในการซื้อหุ้นคืน
1.เพื่อเป็นการเพิ่มมูลค่าราคาหุ้น (Share Holder Value)
2.เพื่อเพิ่มอัตราผลตอบแทนให้แก่ส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) อัตรากำไรสุทธิ (EPS) และเพิ่มมูลค่าทางบัญชีต่อหุ้น (Book Value Per Share) ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้น โดยหุ้นที่บริษัทได้ทำการซื้อคืนจะนำมาหักลด จากจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว ในการคำณวนผลประกอบการในอนาคตของบริษัท ซึ่งจะสร้างเพิ่มผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทโดยรวม
3.เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ถือหุ้น โดยที่บริษัทได้นำความเห็นของนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ (Consensus) ที่ได้ประเมินมูลค่าบริษัทได้ไว้ มาประกอบการพิจารณาแบบระมัดระวังที่สุด ซึ่งเงินทุนที่นำมาใช้ในการซื้อหุ้น เรามี Cash Flow อยู่แล้ว ซึ่งเป็นเงินคนละส่วนกับ การลงทุนใน AS และ Singer ซึ่งบริษัทฯ ได้คำนึงถึงการบริหารสภาพคล่อง ช่วงเวลาในการซื้อคืนที่เหมาะสมแล้ว
ทั้งนี้ภายหลังซื้อหุ้นคืน ผู้ถือหุ้นที่ถือหุ้นอยู่จะได้รับผลตอบแทนเพิ่มขึ้นในอนาคต เนื่องจากหุ้นที่บริษัทซื้อคืนกลับไปจะไม่มีสิทธิได้รับเงินปันผล รวมถึงอัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (Return on Equity) และกำไรสุทธิต่อหุ้น (Earnings per Share) จะสูงขึ้น เนื่องจากจำนวนหุ้นที่จะนำมาคำนวณลดลง จึงทำให้ผลประโยชน์ที่ผู้ถือหุ้นแต่ละรายจะได้รับเพิ่มขึ้น
นอกจากนั้นแล้วสำหรับผลต่อภาพรวมบริษัทคือ จะทำให้บริษัทจะมีสินทรัพย์สภาพคล่อง และมูลค่าทางบัญชีของส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ในระดับที่เหมาะสม อย่างไรก็ตามบริษัทยังคงมีสภาพคล่องอย่างเพียงพอ และสำหรับการลงทุนอื่นๆที่ได้วางแผนไว้ ไม่ว่าจะเป็น AS หรือ Singer ทางบริษัทได้มีการจัดการบริหารเงินทุนไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว การซื้อหุ้นคืนในครั้งนี้ จึงไม่ได้ส่งผลกระทบต่อแผนธุรกิจ การลงทุน และการดำเนินงานของบริษัทแต่อย่างใด
นายชูเกียรติ รุจนพรพจี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) SABUY เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 2 พ.ค. 66 มีมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืน (Treasury Stock) เพื่อบริหารสถานะทางการเงิน วงเงินโครงการซื้อหุ้นคืนไม่เกิน 5.00 % ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด หรือไม่เกิน 1,090,000,000 บาท หรือไม่เกิน 87,200,000 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท กำหนดระยะเวลาที่จะซื้อหุ้นคืนตั้งแต่วันที่ 8 พ.ค.-14 ก.ค.66 โดยบริษัทฯ มีสภาพคล่องสูง และ มีกำไรสะสมสูงถึง 2,040,000,000 บาท
โดยเหตุผลในการซื้อหุ้นคืน
1.เพื่อเป็นการเพิ่มมูลค่าราคาหุ้น (Share Holder Value)
2.เพื่อเพิ่มอัตราผลตอบแทนให้แก่ส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) อัตรากำไรสุทธิ (EPS) และเพิ่มมูลค่าทางบัญชีต่อหุ้น (Book Value Per Share) ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้น โดยหุ้นที่บริษัทได้ทำการซื้อคืนจะนำมาหักลด จากจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว ในการคำณวนผลประกอบการในอนาคตของบริษัท ซึ่งจะสร้างเพิ่มผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทโดยรวม
3.เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ถือหุ้น โดยที่บริษัทได้นำความเห็นของนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ (Consensus) ที่ได้ประเมินมูลค่าบริษัทได้ไว้ มาประกอบการพิจารณาแบบระมัดระวังที่สุด ซึ่งเงินทุนที่นำมาใช้ในการซื้อหุ้น เรามี Cash Flow อยู่แล้ว ซึ่งเป็นเงินคนละส่วนกับ การลงทุนใน AS และ Singer ซึ่งบริษัทฯ ได้คำนึงถึงการบริหารสภาพคล่อง ช่วงเวลาในการซื้อคืนที่เหมาะสมแล้ว
ทั้งนี้ภายหลังซื้อหุ้นคืน ผู้ถือหุ้นที่ถือหุ้นอยู่จะได้รับผลตอบแทนเพิ่มขึ้นในอนาคต เนื่องจากหุ้นที่บริษัทซื้อคืนกลับไปจะไม่มีสิทธิได้รับเงินปันผล รวมถึงอัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (Return on Equity) และกำไรสุทธิต่อหุ้น (Earnings per Share) จะสูงขึ้น เนื่องจากจำนวนหุ้นที่จะนำมาคำนวณลดลง จึงทำให้ผลประโยชน์ที่ผู้ถือหุ้นแต่ละรายจะได้รับเพิ่มขึ้น
นอกจากนั้นแล้วสำหรับผลต่อภาพรวมบริษัทคือ จะทำให้บริษัทจะมีสินทรัพย์สภาพคล่อง และมูลค่าทางบัญชีของส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ในระดับที่เหมาะสม อย่างไรก็ตามบริษัทยังคงมีสภาพคล่องอย่างเพียงพอ และสำหรับการลงทุนอื่นๆที่ได้วางแผนไว้ ไม่ว่าจะเป็น AS หรือ Singer ทางบริษัทได้มีการจัดการบริหารเงินทุนไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว การซื้อหุ้นคืนในครั้งนี้ จึงไม่ได้ส่งผลกระทบต่อแผนธุรกิจ การลงทุน และการดำเนินงานของบริษัทแต่อย่างใด