Wealth Sharing
บล.พาย ประเมินสถิติก่อนเลือกตั้งฯ ดัชนีมีโอกาสปรับขึ้น 1.8% - คาดอยู่ในกรอบ 1520 – 1560 จุด
08 พฤษภาคม 2566
บล.พาย ระบุว่า ตลาดหุ้น Dow Jones คืนวันศุกร์ปิดบวก 1.65% ได้แรงหนุนจากหุ้น Apple รวมถึงคลายกังวลหุ้นในกลุ่มธนาคารหลังจากนักวิเคราะห์เริ่มปรับเพิ่มคำแนะนำเป็นซื้อ ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 3.9% ได้แรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่แข็งแรง
วันศุกร์ที่ผ่านมาสหรัฐฯ รายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ 2.53 แสนตำแหน่ง สูงกว่านักวิเคราะห์ประเมินไว้ที่ 1.8 แสนตำแหน่งพร้อมกับอัตราการว่างงานลดลงทดสอบ 3.4% สวนทางกับนักวิเคราะห์ประเมินไว้ที่ 3.6% ขณะที่ค่าจ้างรายชั่วโมงขยายตัว 0.5%MoM สูงกว่านักวิเคราะห์ประเมินไว้ที่ 0.3%MoM ตัวเลขข้างต้นคล้ายว่าจะเป็นปัจจัยกดดันด้านเงินเฟ้อ แต่ถึงกระนั้นนักลงทุนก็เหมือนจะมิได้กังวลมากนักสะท้อนผ่านตลาดหุ้น Dow Jones ยังปรับขึ้นได้และ CME FED Watch ก็ยังให้น้ำหนักประชุมเดือน มิ.ย. คงดอกเบี้ยที่ระดับเดิมและ US Bond Yield ก็ปรับขึ้นเพียงเล็กน้อย สำหรับผลประชุม FED ในช่วงเช้าวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาตามเวลาประเทศไทยพบว่าปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ตามนักวิเคราะห์ประเมินไว้ ถ้อยแถลงภายในยังระบุว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจขยายตัวได้เล็กน้อย การจ้างงานยังแข็งแกร่งแต่อัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ระดับสูง
ขณะที่กลุ่มธนาคารยังแข็งแกร่งและมีความยืดหยุ่นโดยที่คณะกรรมการยังคงให้ความสนใจมากสุดกับภาวะเงินเฟ้อที่ยังอยู่ระดับสูงบ่งชี้ว่า FED มิได้กังวลกับปัญหาธนาคารมากนักและให้น้ำหนักเงินเฟ้อมากที่สุดพร้อมกับยังคงเป้าหมายเงินเฟ้อ 2% และการจ้างงานสูงสุด อย่างไรก็ตามตลาดหุ้น Dow Jones ปรับลงในคืนดังกล่าวเนื่องจากว่าประธาน FED แถลงกับนักข่าวว่าการลดลงของเงินเฟ้ออาจมิเร็วมากนักซึ่งมันคงใช้เวลา ซึ่งถ้าเป็นตามที่เราคาดการณ์การลดดอกเบี้ยคงยังมิเกิดขึ้น สวนทางกับที่ตลาดประเมินไว้ว่าจะเห็นการลดดอกเบี้ย ล่าสุด CME FED Watch ประเมินว่าจะเห็นการลดดอกเบี้ย 0.25% ในเดือน 9 ของปีนี้
ส่วนสัปดาห์นี้ในประเทศเชื่อว่าการเลือกตั้งจะเป็นปัจจัยที่เข้มข้น เนื่องจากปลายสัปดาห์นี้จะเข้าสู่การเลือกตั้ง สถิติชี้ว่าก่อนการเลือกตั้ง 1 สัปดาห์ตลาดหุ้น SET จะปรับเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 1.8% โดยเชื่อว่ากลุ่มนำตลาดจะได้แก่ค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL ERW MINT SPA) ธนาคาร (BBL KBANK KTB SCB) ปัจจัยอื่นๆได้แก่เงินเฟ้อสหรัฐฯ (CPI) ในวันอังคาร Bloomberg ประเมินไว้ที่ 5%YoY และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ในวันพฤหัสบดี Bloomberg ประเมินไว้ที่ 0.3%MoM หากต่ำกว่าประเมินจะเป็นบวกกับตลาดหุ้น โดยประเมิน SET สัปดาห์นี้เคลื่อนไหวในกรอบ 1520 – 1560 เชิงกลยุทธ์ยังแนะลงทุนทั้ง Trading และลงทุนจาก Valuation ไม่แพงเน้นที่ ค้าปลีก (BJC CPALL HMPRO) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL ERW MINT SPA) ธนาคาร (BBL KBANK KTB)
HMPRO (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 15.90 บาท) คาดว่ากำไรไตรมาส 2/23 จะโต YoY และ QoQ จากอุปสงค์เครื่องปรับอากาศที่สูง เพราะอากาศที่ร้อนกว่าปีที่แล้ว บวกกับแคมเปญการตลาด "เก่าแลกใหม่" การขยายสาขา Mega Home เชิงรุก และรายได้ที่โตขึ้นจากสาขาย่านท่องเที่ยว
BBL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 190.00 บาท) ยังคงประมาณการการเติบโตของกำไรสุทธิที่แข็งแกร่งระดับ 22% สำหรับปี 2023 สูงกว่าการปรับเพิ่มตัวเลขเฉลี่ยของกลุ่มที่ 14% แม้จะมีความไม่แน่นอนรออยู่ข้างหน้า แต่ BBL มีพื้นฐานที่ยืดหยุ่นด้วยสำรองหนี้ฯ และเงินทุนขั้นที่ 1 ที่แข็งแกร่ง พร้อมรับมือกับสภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวมากขึ้น
วันศุกร์ที่ผ่านมาสหรัฐฯ รายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ 2.53 แสนตำแหน่ง สูงกว่านักวิเคราะห์ประเมินไว้ที่ 1.8 แสนตำแหน่งพร้อมกับอัตราการว่างงานลดลงทดสอบ 3.4% สวนทางกับนักวิเคราะห์ประเมินไว้ที่ 3.6% ขณะที่ค่าจ้างรายชั่วโมงขยายตัว 0.5%MoM สูงกว่านักวิเคราะห์ประเมินไว้ที่ 0.3%MoM ตัวเลขข้างต้นคล้ายว่าจะเป็นปัจจัยกดดันด้านเงินเฟ้อ แต่ถึงกระนั้นนักลงทุนก็เหมือนจะมิได้กังวลมากนักสะท้อนผ่านตลาดหุ้น Dow Jones ยังปรับขึ้นได้และ CME FED Watch ก็ยังให้น้ำหนักประชุมเดือน มิ.ย. คงดอกเบี้ยที่ระดับเดิมและ US Bond Yield ก็ปรับขึ้นเพียงเล็กน้อย สำหรับผลประชุม FED ในช่วงเช้าวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาตามเวลาประเทศไทยพบว่าปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ตามนักวิเคราะห์ประเมินไว้ ถ้อยแถลงภายในยังระบุว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจขยายตัวได้เล็กน้อย การจ้างงานยังแข็งแกร่งแต่อัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ระดับสูง
ขณะที่กลุ่มธนาคารยังแข็งแกร่งและมีความยืดหยุ่นโดยที่คณะกรรมการยังคงให้ความสนใจมากสุดกับภาวะเงินเฟ้อที่ยังอยู่ระดับสูงบ่งชี้ว่า FED มิได้กังวลกับปัญหาธนาคารมากนักและให้น้ำหนักเงินเฟ้อมากที่สุดพร้อมกับยังคงเป้าหมายเงินเฟ้อ 2% และการจ้างงานสูงสุด อย่างไรก็ตามตลาดหุ้น Dow Jones ปรับลงในคืนดังกล่าวเนื่องจากว่าประธาน FED แถลงกับนักข่าวว่าการลดลงของเงินเฟ้ออาจมิเร็วมากนักซึ่งมันคงใช้เวลา ซึ่งถ้าเป็นตามที่เราคาดการณ์การลดดอกเบี้ยคงยังมิเกิดขึ้น สวนทางกับที่ตลาดประเมินไว้ว่าจะเห็นการลดดอกเบี้ย ล่าสุด CME FED Watch ประเมินว่าจะเห็นการลดดอกเบี้ย 0.25% ในเดือน 9 ของปีนี้
ส่วนสัปดาห์นี้ในประเทศเชื่อว่าการเลือกตั้งจะเป็นปัจจัยที่เข้มข้น เนื่องจากปลายสัปดาห์นี้จะเข้าสู่การเลือกตั้ง สถิติชี้ว่าก่อนการเลือกตั้ง 1 สัปดาห์ตลาดหุ้น SET จะปรับเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 1.8% โดยเชื่อว่ากลุ่มนำตลาดจะได้แก่ค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL ERW MINT SPA) ธนาคาร (BBL KBANK KTB SCB) ปัจจัยอื่นๆได้แก่เงินเฟ้อสหรัฐฯ (CPI) ในวันอังคาร Bloomberg ประเมินไว้ที่ 5%YoY และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ในวันพฤหัสบดี Bloomberg ประเมินไว้ที่ 0.3%MoM หากต่ำกว่าประเมินจะเป็นบวกกับตลาดหุ้น โดยประเมิน SET สัปดาห์นี้เคลื่อนไหวในกรอบ 1520 – 1560 เชิงกลยุทธ์ยังแนะลงทุนทั้ง Trading และลงทุนจาก Valuation ไม่แพงเน้นที่ ค้าปลีก (BJC CPALL HMPRO) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL ERW MINT SPA) ธนาคาร (BBL KBANK KTB)
HMPRO (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 15.90 บาท) คาดว่ากำไรไตรมาส 2/23 จะโต YoY และ QoQ จากอุปสงค์เครื่องปรับอากาศที่สูง เพราะอากาศที่ร้อนกว่าปีที่แล้ว บวกกับแคมเปญการตลาด "เก่าแลกใหม่" การขยายสาขา Mega Home เชิงรุก และรายได้ที่โตขึ้นจากสาขาย่านท่องเที่ยว
BBL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 190.00 บาท) ยังคงประมาณการการเติบโตของกำไรสุทธิที่แข็งแกร่งระดับ 22% สำหรับปี 2023 สูงกว่าการปรับเพิ่มตัวเลขเฉลี่ยของกลุ่มที่ 14% แม้จะมีความไม่แน่นอนรออยู่ข้างหน้า แต่ BBL มีพื้นฐานที่ยืดหยุ่นด้วยสำรองหนี้ฯ และเงินทุนขั้นที่ 1 ที่แข็งแกร่ง พร้อมรับมือกับสภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวมากขึ้น