Gossip Station..by เจ๊จิ๋ม

เจ๊จิ๋ม..สายเถื่อน 10-05-23


10 พฤษภาคม 2566
เจ๊จิ๋ม..สายเถื่อน 10-05-23

10-05-23  สวัสดีพี่น้องชาวไทย "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิม www.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยเวลา 7.30 น.มีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ
 
***ตอนนี้มีนักลงทุนสนใจกันมาก อยากรู้ว่ารอบครึ่งปีหลังนี้หุ้น SET50 และ SET100 จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ใครเข้า-ใครออกบ้าง มีข้อมูลจาก บล.ทรีนีตี้ ระบุว่าจากการคำนวณโดยใช้ข้อมูลถึงวันที่ 3 พ.ค.66 พบว่า
-หุ้นที่มีโอกาสถูกนำเข้าสู่ดัชนี SET50 ได้แก่ TLI -WHA
-หุ้นที่มีโอกาสถูกถอดออกจากดัชนี SET50 ได้แก่ TIDLOR-JMART
-หุ้นที่มีโอกาสถูกนำเข้าสู่ดัชนี SET100 ได้แก่ TLI-BTG-AEONTS-MBK-TASCO-AURA-ERW-SNNP
-หุ้นที่มีโอกาสถูกถอดออกจากดัชนี SET100 ได้แก่ RBF-EPG-TQM-SABUY-BEC-JAS-SINGER-ONEE

***เมื่อวานเพิ่งจะพูดถึง SNNP ไปเองอ่ะ!!! วันนี้มีการแจ้งเรื่องผลการดำเนินงานไตรมาสแรกออกมา เรียกว่าเริด-หรู-อลังการ ก้อไม่ขัดเขินนะ เพราะกวาดรายได้ไปถึง  1,427.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 283.8 ล้านบาท หรือ 24.8% ส่วนกำไรสุทธิทำได้ 151.9 ล้านบาท  เพิ่มขึ้น 47.0 ล้านบาท  หรือ 44.8% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน

***รายได้และกำไรสวยๆ ของ SNNP มาจากยอดขายในประเทศและต่างประเทศโตต่อเนื่อง จากสินค้าหลักอย่าง “เจเล่” และ “เบนโตะ” รวมถึงการออกสินค้าใหม่สู่ตลาดช่วงต้นปี ซึ่งได้แก่ “เจเล่ไลท์ เฟรชชี่” 3 รสชาติใหม่ ลิ้นจี่ องุ่น พีช, “Jele Chewy” เยลลี่เคี้ยวหนึบ รสชาติใหม่ กลิ่นนมเปรี้ยว และขนมโลตัสหนังไก่กรอบ รสหม่าล่า ที่สร้างความคึกคักได้เป็นอย่างมาก ช่วยหนุนให้ยอดขายให้เติบโตเป็นอย่างดี

***งานนี้ทั่นผู้บริหารคนเก่ง  “วิโรจน์ วชิรเดชกุล” ยิ้มมมมมม!!! เพราะสร้างสรรผลงานตามเป้า เป๊ะ-เป๊ะ!!! ทั่นพี่บอกว่าภาพรวมทั้งปีของ SNNP  ยังมั่นใจว่ารายได้ปี 66 จะเติบโตดีต่อเนื่อง อานิสงส์จากภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวชัดเจน ทำให้กำลังซื้อสินค้าเป็นจำนวนมาก รวมถึงตลาดต่างประเทศที่บริษัทฯขยายช่องทาง และลงทุนสร้างฐานธุรกิจไว้ล่วงหน้าทั้ง เวียดนาม กัมพูชา หรือ ประเทศส่งออกอื่นๆ ก็น่าจะเติบโตได้ดีขึ้นเรื่อยๆทุกไตรมาส ช่วยผลักดันรายได้และกำไรเติบโตอย่างแข็งแกร่ง

***มาแล้วจ๊าาาาถึงเวลาที่ "ฮินซิซึ" ซึ่งเป็นยานลูกของ SIMAT-OTO เตรียมตัวขายหุ้นไอพีโอแล้วอ่ะจิ!!! โดยจะขายหุ้นจำนวนไม่เกิน 71 ล้านหุ้น คิดเป็น 28.17% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดหลัง IPO และจะเข้าจดทะเบียนในตลาด mai หมวดธุรกิจ (Sector) วัสดุอุตสาหกรรมและเครื่องจักร (INDUS) 

*** "ฮินซิซึ" ทำธุรกิจรับจ้างผลิตและจำหน่ายงานซิลค์สกรีนเนมเพลท ซึ่งใช้สำหรับแสดงข้อความ สัญลักษณ์และปุ่มกดบนเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น เครื่องซักผ้า ไมโครเวฟ เครื่องปรับอากาศ เครื่องปริ้นเตอร์ เครื่องถ่ายเอกสาร เป็นต้น และรับจ้างพิมพ์และจำหน่ายเลเบลหรือสติ๊กเกอร์ รวมทั้งผลิตและจำหน่ายชิ้นงานปั๊มตัดและปั๊มขึ้นรูป โดยลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทขนาดใหญ่ในอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์

***ผลประกอบการในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (ปี 63-65) กลุ่มบริษัทมีรายได้รวมจำนวน 586.43 ล้านบาท 604 ล้านบาท และ 582.39 ล้านบาท ตามลำดับ กำไรสุทธิ จำนวน 86.95 ล้านบาท 79.09 ล้านบาท และ 55.74 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 14.83% 13.09% และ 9.57%

***ที่บอกว่า"ฮินซิซึ" เป็นยานลูกเพราะมีโครงสร้างผู้ถือหุ้นหลักคือ  
-บมจ.ไซแมท เทคโนโลยี (SIMAT) ถือหุ้น 63.00% หลัง IPO จะลดลงเหลือ 42.46% 
-นายวินเซ็น ลัว บิค ยอง ถือ 20.00% จะลดเหลือ 15.87% 
-นายเชียน ควัน ซิน 10.00% จะลดเหลือ 7.94% 
-บมจ.วันทูวัน คอนแทคส์ (OTO) 7.00% จะลดเหลือ 5.56%

ปล.ถึงเวลาต้องสะสม SIMAT - OTO  เข้าพอร์ตซะแล้วดิเรา กลัวว่าเด๋วจะตกขบวน..ไม่ได้หุ้นไอพีโออ่ะ