Talk of The Town
TQR กำไร Q1/66 พุ่งแตะ 26.72 ลบ. ทุบสถิติใหม่ ลุยออกประกันภัยต่อ ความรับผิดทางวิชาชีพ-Cyber
11 พฤษภาคม 2566
บมจ.ที คิว อาร์ (TQR) โชว์ผลงานไตรมาส 1/66 กำไรสุทธิ 26.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.67% สร้างสถิติสูงสุดใหม่ อานิสงส์รายได้ธุรกิจนายหน้าประกันภัยต่อ Alternative-Traditional โตเด่น บิ๊กบอส "ชนะพันธุ์ พิริยะพันธุ์" มั่นใจรายได้ปี 66 โตเกิน 10% จากการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยต่อรูปแบบใหม่ ทั้ง ความรับผิดทางวิชาชีพ-Cyber-EV-Carbon Credit รับเมกะเทรนด์ พร้อม Synergy ร่วมกับ TQM ALPHA ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่อยู่อาศัย-การท่องเที่ยว-สุขภาพ หนุนผลงานปี 66 นิวไฮต่อเนื่อง
นายชนะพันธุ์ พิริยะพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ที คิว อาร์ จำกัด (มหาชน) (TQR) เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทฯ ในไตรมาส 1/2566 (สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2566) มีกำไรสุทธิ 26.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.67% เทียบปีที่ผ่านมา มีกำไรสุทธิ 24.58 ล้านบาท และมีรายได้รวม 66.38 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.19% เทียบปีที่ผ่านมา มีรายได้รวม 56.16 ล้านบาท สร้างสถิติสูงสุดใหม่เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการมีรายได้เพิ่มจากธุรกิจนายหน้าประกันภัยต่อแบบพัฒนาช่องทางและผลิตภัณฑ์ใหม่ร่วมกัน (Alternative Business) และธุรกิจนายหน้าประภัยต่อแบบทั่วไป (Traditional Business)
“ผลประกอบการไตรมาสแรกของปีนี้ TQR ยังคงเติบโตอย่างโดดเด่น จากการปรับกลยุทธ์ในการบริหารธุรกิจ โดยไม่หยุดพัฒนา คิดค้น ผลิตภัณฑ์ประกันภัยรูปแบบใหม่ๆ ร่วมกับบริษัทประกันภัย เพื่อลดความเสี่ยงหรือภัยที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ประกอบกับผู้บริโภคมีความสนใจและต้องการทำประกันภัยเพิ่มเติมมากขึ้น รวมถึงธุรกิจให้บริการ (Service) ของ บริษัท อาร์สแควร์ฯ และการทำงานร่วมกันกับ TQM ALPHA ส่งผลให้บริษัทฯ มีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ จึงมั่นใจว่า ผลงานในปีนี้จะเติบโตเกิน 10% สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง” นายชนะพันธุ์กล่าว
นางยุพเรศ พิริยะพันธุ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ที คิว อาร์ จำกัด (มหาชน) (TQR) กล่าวว่า ในปี 2566 บริษัทฯ มุ่งพัฒนาประกันภัยต่อรูปแบบใหม่ๆ ทั้ง การประกันภัยความรับผิดทางวิชาชีพ (Professional Indemnity) การประกันภัย Cyber ที่หลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนให้ความสำคัญมากขึ้น การประกันรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ซึ่งขณะนี้ ตลาดมีความต้องการเป็นอย่างมาก จากกระแสการเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น การประกันที่เกี่ยวข้องกับกระแสของ Environmental, Social and Governance : ESG การประกันที่เกี่ยวข้องกับพลังงานทางเลือกรูปแบบใหม่ รวมถึง Carbon Credit คาดว่า จะเห็นความชัดเจนเร็วๆ นี้ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า สอดคล้องเมกะเทรนด์
“จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมา การเกิดสงครามระหว่างประเทศ ทำให้ผู้บริโภคมีความต้องการในการทำประกันภัยรูปแบบใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น ทั้งการทำประกันสุขภาพ ประกันชีวิต รวมทั้ง ประกันอุบัติเหตุผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นโอกาสให้ TQR ได้พัฒนาประกันภัยรูปแบบใหม่ๆ เพื่อรองรับความต้องการ ทั้งลูกค้าและคู่ค้า ขณะนี้ TQR อยู่ระหว่างการขอใบอนุญาตการเป็นนายหน้าประกันภัยต่อสำหรับประกันชีวิต คาดว่า จะเห็นความชัดเจนภายในปีนี้” นางยุพเรศกล่าว
นอกจากนี้ การที่บริษัทฯ ได้ Synergy กับบริษัท ทีคิวเอ็ม อัลฟา จำกัด (มหาชน) (TQM) เพื่อร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เกี่ยวกับ ที่อยู่อาศัย การท่องเที่ยว การก่อสร้าง สุขภาพ และการพัฒนาแพลตฟอร์ม เป็นต้น
ในส่วนของธุรกิจให้บริการ (Service) ของ บริษัท อาร์สแควร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุน ปัจจุบันมีลูกค้าใช้บริการแล้วจำนวน 3 ราย เริ่มทยอยรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง และในปีนี้ตั้งเป้าหมายการมีลูกค้าเพิ่มอีก 2-3 ราย คาดว่า จะเห็นความชัดเจนเร็วๆ นี้
ขณะเดียวกัน ยังอยู่ระหว่างการเข้าศึกษาธุรกิจบริการที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลัก เพื่อเข้าลงทุนในรูปแบบการทำ M&A กับบริษัทที่มีผลการดำเนินงานที่ดี คาดว่า จะเห็นความชัดเจน 1-2 ราย ภายในปีนี้ เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นได้ในระยะยาว
นายชนะพันธุ์ พิริยะพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ที คิว อาร์ จำกัด (มหาชน) (TQR) เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทฯ ในไตรมาส 1/2566 (สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2566) มีกำไรสุทธิ 26.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.67% เทียบปีที่ผ่านมา มีกำไรสุทธิ 24.58 ล้านบาท และมีรายได้รวม 66.38 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.19% เทียบปีที่ผ่านมา มีรายได้รวม 56.16 ล้านบาท สร้างสถิติสูงสุดใหม่เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการมีรายได้เพิ่มจากธุรกิจนายหน้าประกันภัยต่อแบบพัฒนาช่องทางและผลิตภัณฑ์ใหม่ร่วมกัน (Alternative Business) และธุรกิจนายหน้าประภัยต่อแบบทั่วไป (Traditional Business)
“ผลประกอบการไตรมาสแรกของปีนี้ TQR ยังคงเติบโตอย่างโดดเด่น จากการปรับกลยุทธ์ในการบริหารธุรกิจ โดยไม่หยุดพัฒนา คิดค้น ผลิตภัณฑ์ประกันภัยรูปแบบใหม่ๆ ร่วมกับบริษัทประกันภัย เพื่อลดความเสี่ยงหรือภัยที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ประกอบกับผู้บริโภคมีความสนใจและต้องการทำประกันภัยเพิ่มเติมมากขึ้น รวมถึงธุรกิจให้บริการ (Service) ของ บริษัท อาร์สแควร์ฯ และการทำงานร่วมกันกับ TQM ALPHA ส่งผลให้บริษัทฯ มีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ จึงมั่นใจว่า ผลงานในปีนี้จะเติบโตเกิน 10% สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง” นายชนะพันธุ์กล่าว
นางยุพเรศ พิริยะพันธุ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ที คิว อาร์ จำกัด (มหาชน) (TQR) กล่าวว่า ในปี 2566 บริษัทฯ มุ่งพัฒนาประกันภัยต่อรูปแบบใหม่ๆ ทั้ง การประกันภัยความรับผิดทางวิชาชีพ (Professional Indemnity) การประกันภัย Cyber ที่หลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนให้ความสำคัญมากขึ้น การประกันรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ซึ่งขณะนี้ ตลาดมีความต้องการเป็นอย่างมาก จากกระแสการเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น การประกันที่เกี่ยวข้องกับกระแสของ Environmental, Social and Governance : ESG การประกันที่เกี่ยวข้องกับพลังงานทางเลือกรูปแบบใหม่ รวมถึง Carbon Credit คาดว่า จะเห็นความชัดเจนเร็วๆ นี้ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า สอดคล้องเมกะเทรนด์
“จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมา การเกิดสงครามระหว่างประเทศ ทำให้ผู้บริโภคมีความต้องการในการทำประกันภัยรูปแบบใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น ทั้งการทำประกันสุขภาพ ประกันชีวิต รวมทั้ง ประกันอุบัติเหตุผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นโอกาสให้ TQR ได้พัฒนาประกันภัยรูปแบบใหม่ๆ เพื่อรองรับความต้องการ ทั้งลูกค้าและคู่ค้า ขณะนี้ TQR อยู่ระหว่างการขอใบอนุญาตการเป็นนายหน้าประกันภัยต่อสำหรับประกันชีวิต คาดว่า จะเห็นความชัดเจนภายในปีนี้” นางยุพเรศกล่าว
นอกจากนี้ การที่บริษัทฯ ได้ Synergy กับบริษัท ทีคิวเอ็ม อัลฟา จำกัด (มหาชน) (TQM) เพื่อร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เกี่ยวกับ ที่อยู่อาศัย การท่องเที่ยว การก่อสร้าง สุขภาพ และการพัฒนาแพลตฟอร์ม เป็นต้น
ในส่วนของธุรกิจให้บริการ (Service) ของ บริษัท อาร์สแควร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุน ปัจจุบันมีลูกค้าใช้บริการแล้วจำนวน 3 ราย เริ่มทยอยรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง และในปีนี้ตั้งเป้าหมายการมีลูกค้าเพิ่มอีก 2-3 ราย คาดว่า จะเห็นความชัดเจนเร็วๆ นี้
ขณะเดียวกัน ยังอยู่ระหว่างการเข้าศึกษาธุรกิจบริการที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลัก เพื่อเข้าลงทุนในรูปแบบการทำ M&A กับบริษัทที่มีผลการดำเนินงานที่ดี คาดว่า จะเห็นความชัดเจน 1-2 ราย ภายในปีนี้ เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นได้ในระยะยาว