กระดานข่าว
AGE ท็อปฟอร์ม โค้งแรกปี 66 กวาดยอดขายถ่านหิน พุ่ง 1.06 ล้านตัน กำไรสุทธิ 296 ลบ.
12 พฤษภาคม 2566
บมจ.เอเชีย กรีน เอนเนอจี (“AGE”) ท็อปฟอร์ม โชว์งบไตรมาส 1/2566 ยอดขายถ่านหินพุ่งแตะ 1.06 ล้านตัน ดันรายได้รวมแตะ 4,501.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.2 % ขณะที่กำไรสุทธิแตะ 296.4 ล้านบาท ขณะที่รายได้ในกลุ่มธุรกิจ (โลจิสติกส์ – เทรดดิ้ง – ลิสซิ่ง) เติบโตต่อเนื่อง ด้านผู้บริหาร “พนม ควรสถาพร” ประกาศเดินหน้าขยายตลาดเชิงรุก ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ตอกย้ำอัตราการเติบโตในปีนี้ ที่ตั้งเป้าปริมาณการขายถ่านหิน 5.2 ล้านตัน และเป้ารายได้รวม 23,400 ล้านบาท ล่าสุดผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผลงวด ปี 2565 โดยจ่ายทั้งหุ้นในอัตรา 10 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นปันผล และเงินสด 0.2256 บาท ในวันที่ 17 พ.ค.นี้ และ เมื่อรวมการจ่ายปันผลพิเศษระหว่างกาล ทำให้ทั้งปี 2565 มีการจ่ายปันผลสูงถึง 0.4556 บาทต่อหุ้น
นายพนม ควรสถาพร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) (“AGE”) ผู้จัดจำหน่ายถ่านหินบิทูมินัส (ถ่านหินสะอาด) และผู้ให้บริการด้านโลจิสติสก์แบบครบวงจร ขนส่งทางน้ำ-ทางบก-ท่าเรือ-คลังสินค้า แจ้งผลการดำเนินงาน ประจำงวดไตรมาส 1/2566 โดยบริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการ 4,501.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.2 % เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา (YoY) และมีกำไรสุทธิ 296.4 ล้านบาท ลดลง 5.8 % ซึ่งเป็นการเติบโตโดดเด่นอย่างต่อเนื่อง จากปริมาณการขายถ่านหินในประเทศเพิ่มขึ้นจากการขยายตลาดในประเทศ ส่งผลให้ ณ สิ้นไตรมาส 1/2566 มีปริมาณการขายอยู่ที่ระดับ 1.06 ล้านตัน โดยแบ่งเป็นปริมาณการขายถ่านหินในต่างประเทศ 0.02 ล้านตัน และปริมาณการขายถ่านหินในประเทศ 1.04 ล้านตัน
ขณะที่รายได้จากธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ ในไตรมาส 1/2566 อยู่ที่ 598 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 35.2 % (YoY) แบ่งเป็นรายได้จากการให้บริการกับกลุ่มบริษัทในเครือ AGE จำนวน 431 ล้านบาท และรายได้จากให้บริการกับกลุ่มลูกค้าภายนอก ซึ่งรวมรายได้จากการขายน้ำมัน และสินค้าเกษตร อยู่ที่ 167 ล้านบาท
“แม้ว่าราคาถ่านหินโลกมีการปรับตัวลดลง เมื่อเทียบจากช่วงที่ผ่านมา แต่ AGE มีการเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และมีการบริหารจัดการสินค้าคงคลังให้มีปริมาณที่เหมาะสม รวมทั้ง AGE มี facility การขนส่งที่ครอบคลุม ทั้งทางบก ทางน้ำ ท่าเรือ และคลังสินค้า ซึ่งมีการใช้งานอย่างเต็มประสิทธิภาพ ทำให้มีต้นทุนการขนส่ง และต้นทุนการดำเนินกิจการที่สามารถแข่งขันได้ นอกจากนี้ยังมีการรับรู้รายได้จากธุรกิจโลจิสติกส์ ซึ่งให้บริการกลุ่มลูกค้าภายนอกเพิ่มขึ้น จากกลุ่มลูกค้าที่ใช้บริการขนส่งสินค้าเกษตร และสินค้าอุตสาหกรรม อาทิ ปูนซีเมนต์-ทราย และกากอุตสาหกรรม รวมทั้งการทยอยรับรู้รายได้จากธุรกิจเทรดดิ้งสินค้าเกษตร และธุรกิจเช่าซื้อรถบรรทุกที่เพิ่มขึ้นในไตรมาสแรกของปี 2566”
ประธานกรรมการบริหาร AGE ยังได้กล่าวถึงภาพรวมธุรกิจในไตรมาส 2/2566 ว่า บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายตลาดแบบเชิงรุกทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ในกลุ่มธุรกิจการจำหน่ายถ่านหิน พร้อมทั้งการจับตาตัวเลขการเติบโตของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าปริมาณการขายถ่านหินสำหรับปีนี้ไว้ที่ระดับ 5.2 ล้านตัน และมีรายได้รวม 23,400 ล้านบาท มาจากแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจ การขยายตลาดทั้งในธุรกิจถ่านหิน และธุรกิจโลจิสติกส์
ทางด้านธุรกิจโลจิสติกส์ ขณะนี้ได้มีการสั่งซื้อรถบรรทุก เพิ่มขึ้นอีก 52 พ่วง ซึ่งทยอยรับมอบมาแล้วในช่วงต้นปี 2566 จำนวน 22 พ่วง เพื่อรองรับงานให้บริการขนส่งโลจิสติกส์ทั้งสินค้าเกษตร และสินค้าอุตสาหกรรมที่จะเพิ่มขึ้นในปีนี้ และยังมีแผนการลงทุนขยายพื้นที่คลังจัดเก็บสินค้า มูลค่า 50 ล้านบาท รวมถึงลงทุนในระบบบริหารจัดการ IT มูลค่า 10 ล้านบาท เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการด้านโลจิสติกส์ ให้ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าได้สูงขึ้น
ขณะที่ธุรกิจลิสซิ่ง บริษัทฯ เริ่มทยอยปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุก ให้กับพนักงานขับรถที่มีผลงานดีของบริษัท ภายใต้โครงการ "เถ้าแก่น้อย" ตั้งแต่ช่วงปี 2565 ที่ผ่านมา และล่าสุด บริษัทฯ ได้มีการปล่อยสินเชื่อโครงการดังกล่าว ในเฟสที่ 2 จำนวน 9 รายแล้ว โดยปัจจุบันมีพนักงานเข้าร่วมโครงการฯ กว่า 16 ราย รวมทั้งมีการปล่อยสินเชื่อรถบรรทุกให้กับพันธมิตร จำนวน 2 ราย โดย บริษัทฯ มีการตั้งเป้าการปล่อยสินเชื่อรถบรรทุกเช่าซื้อให้กับพันธมิตร และผู้ร่วมโครงการ "เถ้าแก่น้อย" ในปีนี้ที่ระดับ 500 ล้านบาท
ล่าสุดที่ประชุมผู้ถือหุ้น ได้มีมติให้บริษัทฯ จ่ายปันผลงวดปี 2565 ทั้งในส่วนของหุ้นปันผล ในอัตรา 10 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นปันผล รวมมูลค่าทั้งสิ้น 54,387,568.50 บาท คิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.0500 บาท และจ่ายเป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.2256 บาท หรือคิดเป็นจำนวนเงิน 245,396,636.20 บาท รวมเป็นการจ่ายเงินปันผลทั้งในรูปแบบของหุ้นปันผลและเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.2756 บาท คิดเป็นจำนวนเงินรวมทั้งสิ้น 299,784,204.70 บาท โดยกำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 17 พฤษภาคมนี้ ทั้งนี้หากรวมการจ่ายปันผลพิเศษระหว่างกาลในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา และการจ่ายปันผลที่ได้รับอนุมัติในครั้งนี้ ส่งผลให้การจ่ายปันผลประจำปี 2565 ของบริษัทฯ รวมอยู่ในอัตรา 0.4556 บาทต่อหุ้น คิดเป็นจำนวนเงินรวม 495,579,393.16 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราร้อยละ 63.21 ของกำไรสุทธิ ซึ่งเป็นอัตราที่สูงกว่านโยบายของบริษัทฯ ที่กำหนดไว้ที่ร้อยละ 40
นายพนม ควรสถาพร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) (“AGE”) ผู้จัดจำหน่ายถ่านหินบิทูมินัส (ถ่านหินสะอาด) และผู้ให้บริการด้านโลจิสติสก์แบบครบวงจร ขนส่งทางน้ำ-ทางบก-ท่าเรือ-คลังสินค้า แจ้งผลการดำเนินงาน ประจำงวดไตรมาส 1/2566 โดยบริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการ 4,501.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.2 % เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา (YoY) และมีกำไรสุทธิ 296.4 ล้านบาท ลดลง 5.8 % ซึ่งเป็นการเติบโตโดดเด่นอย่างต่อเนื่อง จากปริมาณการขายถ่านหินในประเทศเพิ่มขึ้นจากการขยายตลาดในประเทศ ส่งผลให้ ณ สิ้นไตรมาส 1/2566 มีปริมาณการขายอยู่ที่ระดับ 1.06 ล้านตัน โดยแบ่งเป็นปริมาณการขายถ่านหินในต่างประเทศ 0.02 ล้านตัน และปริมาณการขายถ่านหินในประเทศ 1.04 ล้านตัน
ขณะที่รายได้จากธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ ในไตรมาส 1/2566 อยู่ที่ 598 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 35.2 % (YoY) แบ่งเป็นรายได้จากการให้บริการกับกลุ่มบริษัทในเครือ AGE จำนวน 431 ล้านบาท และรายได้จากให้บริการกับกลุ่มลูกค้าภายนอก ซึ่งรวมรายได้จากการขายน้ำมัน และสินค้าเกษตร อยู่ที่ 167 ล้านบาท
“แม้ว่าราคาถ่านหินโลกมีการปรับตัวลดลง เมื่อเทียบจากช่วงที่ผ่านมา แต่ AGE มีการเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และมีการบริหารจัดการสินค้าคงคลังให้มีปริมาณที่เหมาะสม รวมทั้ง AGE มี facility การขนส่งที่ครอบคลุม ทั้งทางบก ทางน้ำ ท่าเรือ และคลังสินค้า ซึ่งมีการใช้งานอย่างเต็มประสิทธิภาพ ทำให้มีต้นทุนการขนส่ง และต้นทุนการดำเนินกิจการที่สามารถแข่งขันได้ นอกจากนี้ยังมีการรับรู้รายได้จากธุรกิจโลจิสติกส์ ซึ่งให้บริการกลุ่มลูกค้าภายนอกเพิ่มขึ้น จากกลุ่มลูกค้าที่ใช้บริการขนส่งสินค้าเกษตร และสินค้าอุตสาหกรรม อาทิ ปูนซีเมนต์-ทราย และกากอุตสาหกรรม รวมทั้งการทยอยรับรู้รายได้จากธุรกิจเทรดดิ้งสินค้าเกษตร และธุรกิจเช่าซื้อรถบรรทุกที่เพิ่มขึ้นในไตรมาสแรกของปี 2566”
ประธานกรรมการบริหาร AGE ยังได้กล่าวถึงภาพรวมธุรกิจในไตรมาส 2/2566 ว่า บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายตลาดแบบเชิงรุกทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ในกลุ่มธุรกิจการจำหน่ายถ่านหิน พร้อมทั้งการจับตาตัวเลขการเติบโตของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าปริมาณการขายถ่านหินสำหรับปีนี้ไว้ที่ระดับ 5.2 ล้านตัน และมีรายได้รวม 23,400 ล้านบาท มาจากแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจ การขยายตลาดทั้งในธุรกิจถ่านหิน และธุรกิจโลจิสติกส์
ทางด้านธุรกิจโลจิสติกส์ ขณะนี้ได้มีการสั่งซื้อรถบรรทุก เพิ่มขึ้นอีก 52 พ่วง ซึ่งทยอยรับมอบมาแล้วในช่วงต้นปี 2566 จำนวน 22 พ่วง เพื่อรองรับงานให้บริการขนส่งโลจิสติกส์ทั้งสินค้าเกษตร และสินค้าอุตสาหกรรมที่จะเพิ่มขึ้นในปีนี้ และยังมีแผนการลงทุนขยายพื้นที่คลังจัดเก็บสินค้า มูลค่า 50 ล้านบาท รวมถึงลงทุนในระบบบริหารจัดการ IT มูลค่า 10 ล้านบาท เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการด้านโลจิสติกส์ ให้ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าได้สูงขึ้น
ขณะที่ธุรกิจลิสซิ่ง บริษัทฯ เริ่มทยอยปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุก ให้กับพนักงานขับรถที่มีผลงานดีของบริษัท ภายใต้โครงการ "เถ้าแก่น้อย" ตั้งแต่ช่วงปี 2565 ที่ผ่านมา และล่าสุด บริษัทฯ ได้มีการปล่อยสินเชื่อโครงการดังกล่าว ในเฟสที่ 2 จำนวน 9 รายแล้ว โดยปัจจุบันมีพนักงานเข้าร่วมโครงการฯ กว่า 16 ราย รวมทั้งมีการปล่อยสินเชื่อรถบรรทุกให้กับพันธมิตร จำนวน 2 ราย โดย บริษัทฯ มีการตั้งเป้าการปล่อยสินเชื่อรถบรรทุกเช่าซื้อให้กับพันธมิตร และผู้ร่วมโครงการ "เถ้าแก่น้อย" ในปีนี้ที่ระดับ 500 ล้านบาท
ล่าสุดที่ประชุมผู้ถือหุ้น ได้มีมติให้บริษัทฯ จ่ายปันผลงวดปี 2565 ทั้งในส่วนของหุ้นปันผล ในอัตรา 10 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นปันผล รวมมูลค่าทั้งสิ้น 54,387,568.50 บาท คิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.0500 บาท และจ่ายเป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.2256 บาท หรือคิดเป็นจำนวนเงิน 245,396,636.20 บาท รวมเป็นการจ่ายเงินปันผลทั้งในรูปแบบของหุ้นปันผลและเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.2756 บาท คิดเป็นจำนวนเงินรวมทั้งสิ้น 299,784,204.70 บาท โดยกำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 17 พฤษภาคมนี้ ทั้งนี้หากรวมการจ่ายปันผลพิเศษระหว่างกาลในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา และการจ่ายปันผลที่ได้รับอนุมัติในครั้งนี้ ส่งผลให้การจ่ายปันผลประจำปี 2565 ของบริษัทฯ รวมอยู่ในอัตรา 0.4556 บาทต่อหุ้น คิดเป็นจำนวนเงินรวม 495,579,393.16 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราร้อยละ 63.21 ของกำไรสุทธิ ซึ่งเป็นอัตราที่สูงกว่านโยบายของบริษัทฯ ที่กำหนดไว้ที่ร้อยละ 40