ADD เสิร์ฟข่าวดี Q2/66 จ่อผนึก โอเปอเรเตอร์รายใหญ่ บริการโซลูชั่นใหม่

บมจ.แอดเทค ฮับ (ADD) เตรียมกลับมาผงาด จ่อผนึกโอเปอเรเตอร์รายใหญ่ เปิดบริการโซลูชั่นใหม่ ภายในไตรมาส 2/2566 หวังเพิ่มช่องทางการให้บริการที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ กลุ่มลูกค้า On Mobile พร้อมสบช่องหาโอกาสการลงทุนใหม่ๆส่งซิกครึ่งปีหลังเตรียมปิดดีลการเข้าลงทุนในธุรกิจใหม่ขยายอาณาเพิ่มเพื่อต่อยอดและสร้างโอกาสการเติบโตทางธุรกิจสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มความแข็งแกร่งของผลการดำเนินงานในระยะยาว หลังจากประสบความสำเร็จจากการเข้าลงทุนธุรกิจในกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องช่วงที่ผ่านมา ขณะที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2566 มีรายได้รวมจากการให้บริการ 64.81 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 1.93 ล้านบาท พร้อมประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาลสำหรับงวดไตรมาสที่ 1/2566 ในอัตราหุ้นละ 0.02 บาท เตรียมขึ้น XD วันที่ 24 พ.ค. นี้

นายสมโภช ทนุตันติวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท แอดเทค ฮับ จำกัด (มหาชน) หรือ (“ADD”) ผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการดิจิทัลคอนเทนต์และพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจในไตรมาส 2/2566 มีการฟื้นตัวชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะการสร้างโอกาสการเติบโตจาก การดำเนินงานภายใต้ธุรกิจหลัก (Core Business) เนื่องจากในเร็วๆนี้ บริษัทฯเตรียมเปิดตัวการให้บริการโซลูชั่นใหม่ ให้กับโอเปอเรเตอร์รายใหญ่ เพื่อรองรับการให้บริการและไลฟ์สไตล์กลุ่มลูกค้า On Mobile ให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น โดยบริษัทฯคาดว่าจะมีส่วนแบ่งรายได้จากการให้บริการดังกล่าวเข้ามาทันที 

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมองหาโอกาสการต่อยอดธุรกิจใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงครึ่งปีหลัง      บริษัทฯเตรียมปิดดีลการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องเพิ่มอีก ซึ่งหากดีลดังกล่าวแล้วเสร็จจะสามารถเพิ่ม Strategy ทางธุรกิจให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น จากก่อนหน้านี้ที่บริษัทฯได้ประกาศเข้าลงทุนในบริษัท โอริสมา จำกัด (OMH) ซึ่งดำเนินธุรกิจเป็นบริษัทที่ถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) โดยมี 3 บริษัทย่อย และ 1 บริษัทร่วมทุน ได้แก่ 1.) บริษัท โอริสมา เทคโนโลยี จำกัด ออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์ เว็บแอปพลิเคชัน และแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์ รวมถึงให้บริการระบบคลาวด์  2.) บริษัท แท็กซี่เมล จำกัด ให้บริการระบบจัดส่งอีเมล ข้อความสั้น (SMS) ระบบการตลาดแบบอัตโนมัติ (Marketing Automation) และระบบจัดการข้อความแชทสำหรับองค์กร (Biz Chat)  3). บริษัท โนเบล โซลูชั่น 2011 จำกัด ให้บริการระบบโซลูชั่นบริหารงานบุคคล และ 4). บริษัท รวยคูณ จำกัด พัฒนาแอปพลิเคชันวางแผนการเงิน

ในปี 2565 ที่ผ่านมา บริษัทฯได้เข้าลงทุนในบริษัท เซเว่น คอนเนค แอดไวซอรี่ จำกัด (“7C”) ซึ่งดำเนินธุรกิจเป็นที่ปรึกษาด้านบัญชี การวางระบบควบคุมภายใน การปรับโครงสร้างกิจการ การควบรวมกิจการ และที่ปรึกษาในการเตรียมตัวเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยมีบริษัทย่อย 2 บริษัท คือ บริษัท มาย โค๊ดดิ้ง โรแมนซ์ จำกัด ดำเนินธุรกิจด้านการพัฒนาบุคลากรด้านไอที และ บริษัท ไท-ไท วิศวกร จำกัด ดำเนินธุรกิจเป็นที่ปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งยังได้ลงทุนในบริษัท ไฮเว็บ เทคโนโลยี (ไทยแลนด์) จำกัด (HWTHAI) โดยเป็นพันธมิตรกับผู้นำด้านการให้บริการระบบการบริหารจัดการด้านความสัมพันธ์ของลูกค้า (CRM) ในไต้หวัน ภายใต้การให้บริการเชื่อมต่อเข้ากับระบบการชำระเงินผ่านบัตรและแอปพลิเคชัน พร้อมทั้งระบบการยืนยันตัวตน

ดังนั้น จะเห็นได้ว่าแผนการเข้าลงทุนของ ADD ในช่วงที่ผ่านมาและในอนาคต จะเป็นการสร้าง Strategy ในการต่อยอดและสร้างโอกาสการเติบโตทางธุรกิจ สู่การสร้างมูลค่าเพิ่มเสริมความแข็งแกร่งของผลการดำเนินงานให้กับบริษัทฯในระยะยาว พร้อมทั้งยังสามารถต่อยอดความรู้ด้านเทคโนโลยีของบริษัทในการนำเทคโนโลยีและกลยุทธ์ทางดิจิทัล (Digital Transformation) เข้ามาช่วยในการวางรากฐานระบบการทำงานและการดำเนินธุรกิจ เพื่อต่อยอดการให้บริการโซลูชั่นครบวงจรมากยิ่งขึ้น

 สำหรับผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/2566 บริษัทฯมีรายได้จากการให้บริการรวม 64.81 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 1.93 ล้านบาท จากการรับรู้รายได้จาก 3 กลุ่มธุรกิจ ประกอบด้วย 1.การให้บริการดิจิทัลคอนเทนต์ มีรายได้ 54.26 ล้านบาท ลดลง 37.12% ขณะที่กำไรขั้นต้น จำนวน 14.04 ลดลง 40.22% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) เนื่องจากผู้ใช้บริการมีการใช้งานที่ลดลง จากสภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่ประสบกับภาวะเงินเฟ้อ ทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลงและเพิ่มความระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น 

2.การให้บริการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ มีรายได้ 10.23 ล้านบาท ลดลง 45.59% (YoY)  ขณะที่กำไรขั้นต้นอยู่ที่ 0.16 ล้านบาท ลดลง 98.44% (YoY) เนื่องจากต้นทุนค่าบริการคลาวด์เซิร์ฟเวอร์และต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับพนักงานเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับโครงการใหม่ในอนาคต และ 3.การให้บริการโฆษณา ผ่านอินเทอร์เน็ต มีรายได้ 0.32 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.50% แต่ยังมีขาดทุนขั้นต้น 0.42 ล้านบาท เนื่องจากต้นทุนส่วนใหญ่เป็นต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับพนักงานซึ่งเป็นต้นทุนคงที่  

นอกจากนี้ที่ประชุมคณะกรรมการได้มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 1 ปี 2566 (1 ม.ค. 2566 ถึงวันที่ 31 มี.ค. 2566) ในอัตราหุ้นละ 0.02 บาท โดยกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) วันที่ 25 พ.ค. 2566 และวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) เป็นวันที่ 24 พ.ค. 2566 เพื่อจ่ายปันผลในวันที่ 9 มิถุนายน 2566 นี้