จับประเด็นหุ้นเด่น
รายงานพิเศษ : TFG รับ “เปิดประเทศ-การท่องเที่ยว” กระตุ้นความต้องการหมู-ไก่ โต
15 พฤษภาคม 2566
การเปิดประเทศและนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น กระตุ้นความต้องการเนื้อหมู และเนื้อไก่ หนุนรายได้ บมจ.ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป (TFG) นิวไฮ บริษัทเร่งขยายสาขาค้าปลีก ขยายตลาดใหม่ทั้งในปท.-ตปท.
นายวินัย เตียวสมบูรณ์กิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป (TFG) มั่นใจแนวโน้มผลการดำเนินงานในปีนี้จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯวางเป้าหมายรายได้โตสร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง จากการขยายตลาดลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อเพิ่มยอดขาย นอกเหนือจากโมเดลธุรกิจในส่วนของธุรกิจค้าปลีกที่เติบโตอย่างโดดเด่น และมีมาร์จิ้นสูง
สำหรับแผนการลงทุนในปี 66 บริษัทจัดเตรียมงบไว้ราว 3,000-3,500 ล้านบาท เพื่อใช้ในการแผนขยายฟาร์มสุกรทั้งในประเทศไทยและประเทศเวียดนาม และขยายร้านค้าปลีก
ในส่วนของธุรกิจค้าปลีก "ร้านไทยฟู้ดส์ เฟรช มาร์เก็ต" สำหรับจำหน่ายไก่และหมูสด ในปีนี้มีแผนเปิดสาขาใหม่เพิ่มเป็น 400 สาขา จากสิ้นปี 2565 อยู่ที่ 220 สาขา เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภค สนับสนุนผลการดำเนินงานของบริษัทฯเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค และทำให้รู้จักผลิตภัณฑ์ของกลุ่ม TFG มากขึ้น ประกอบกับมาร์จิ้นของธุรกิจร้านค้าปลีกอยู่ในระดับสูง
สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 1/66 มีรายได้รวม 13,890 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 10,590 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 425 ล้านบาท โดยได้รับปัจจัยหนุนจากยอดขายสุกร ไก่ และยอดขายในสาขาร้านค้าปลีก "ไทยฟู้ดส์ เฟรช มาร์เก็ต" ที่เพิ่มขึ้นถึง 240% ตามการขยายสาขา เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว
ขณะที่ บล.ทิสโก้ คาดแนวโน้มผลประกอบการ 2Q23F จะเพิ่มขึ้น QoQ จากช่วง high season และราคาไก่เริ่มกลับมาเพิ่มขึ้นปัจจุบันอยู่ที่ 41.25 บาท/กก. (+6% QTD) ในส่วนราคาสุกรปัจจุบันอยู่ที่ 77 บาท/กก. (-15% QTD) เรายังคงประมาณการเดิมคาดกำไรสุทธิปี 2023-24F อยู่ที่ 2,867 ล้านบาท (-39%YoY) และ 3,130 ล้านบาท (+9%YoY) จากคาดรายได้ปี 2023F ธุรกิจไก่ลดลง 4%YoY จากคาดราคาขายไก่เฉลี่ยที่ 55 บาท/กก. และธุรกิจสุกรลดลง 9%YoY จากคาดราคาที่ 80 บาท/กก. โดยคาดปริมาณขายสุกรและไก่เพิ่มขึ้นปีละ 5% คาดธุรกิจค้าปลีกเติบโตจากการเปิดสาขาเป็น 380 และ 400 สาขา ตามลำดับ
บล.ทิสโก้ คาดอัตรากำไรขั้นต้นลดลงอยู่ที่ 13.5% และ 13.7% ตามลำดับ จากต้นทุนอาหารสัตว์ทั้งกากถั่วเหลืองและข้าวโพดที่เพิ่มขึ้น ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” จากดีมานด์ความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากการเปิดประเทศและการท่องเที่ยว ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 6 บาท อ้างอิง PER เฉลี่ย13X โดยราคาปัจจุบันมีระดับ PER23F ที่ 10X, Dividend Yield 23F อยู่ที่ 4.8%
ความเสี่ยงที่ต้องติดตามได้แก่ สถานการณ์โรคระบาด และ ต้นทุนอาหารสัตว์ที่เพิ่มขึ้น
นายวินัย เตียวสมบูรณ์กิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป (TFG) มั่นใจแนวโน้มผลการดำเนินงานในปีนี้จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯวางเป้าหมายรายได้โตสร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง จากการขยายตลาดลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อเพิ่มยอดขาย นอกเหนือจากโมเดลธุรกิจในส่วนของธุรกิจค้าปลีกที่เติบโตอย่างโดดเด่น และมีมาร์จิ้นสูง
สำหรับแผนการลงทุนในปี 66 บริษัทจัดเตรียมงบไว้ราว 3,000-3,500 ล้านบาท เพื่อใช้ในการแผนขยายฟาร์มสุกรทั้งในประเทศไทยและประเทศเวียดนาม และขยายร้านค้าปลีก
ในส่วนของธุรกิจค้าปลีก "ร้านไทยฟู้ดส์ เฟรช มาร์เก็ต" สำหรับจำหน่ายไก่และหมูสด ในปีนี้มีแผนเปิดสาขาใหม่เพิ่มเป็น 400 สาขา จากสิ้นปี 2565 อยู่ที่ 220 สาขา เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภค สนับสนุนผลการดำเนินงานของบริษัทฯเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค และทำให้รู้จักผลิตภัณฑ์ของกลุ่ม TFG มากขึ้น ประกอบกับมาร์จิ้นของธุรกิจร้านค้าปลีกอยู่ในระดับสูง
สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 1/66 มีรายได้รวม 13,890 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 10,590 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 425 ล้านบาท โดยได้รับปัจจัยหนุนจากยอดขายสุกร ไก่ และยอดขายในสาขาร้านค้าปลีก "ไทยฟู้ดส์ เฟรช มาร์เก็ต" ที่เพิ่มขึ้นถึง 240% ตามการขยายสาขา เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว
ขณะที่ บล.ทิสโก้ คาดแนวโน้มผลประกอบการ 2Q23F จะเพิ่มขึ้น QoQ จากช่วง high season และราคาไก่เริ่มกลับมาเพิ่มขึ้นปัจจุบันอยู่ที่ 41.25 บาท/กก. (+6% QTD) ในส่วนราคาสุกรปัจจุบันอยู่ที่ 77 บาท/กก. (-15% QTD) เรายังคงประมาณการเดิมคาดกำไรสุทธิปี 2023-24F อยู่ที่ 2,867 ล้านบาท (-39%YoY) และ 3,130 ล้านบาท (+9%YoY) จากคาดรายได้ปี 2023F ธุรกิจไก่ลดลง 4%YoY จากคาดราคาขายไก่เฉลี่ยที่ 55 บาท/กก. และธุรกิจสุกรลดลง 9%YoY จากคาดราคาที่ 80 บาท/กก. โดยคาดปริมาณขายสุกรและไก่เพิ่มขึ้นปีละ 5% คาดธุรกิจค้าปลีกเติบโตจากการเปิดสาขาเป็น 380 และ 400 สาขา ตามลำดับ
บล.ทิสโก้ คาดอัตรากำไรขั้นต้นลดลงอยู่ที่ 13.5% และ 13.7% ตามลำดับ จากต้นทุนอาหารสัตว์ทั้งกากถั่วเหลืองและข้าวโพดที่เพิ่มขึ้น ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” จากดีมานด์ความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากการเปิดประเทศและการท่องเที่ยว ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 6 บาท อ้างอิง PER เฉลี่ย13X โดยราคาปัจจุบันมีระดับ PER23F ที่ 10X, Dividend Yield 23F อยู่ที่ 4.8%
ความเสี่ยงที่ต้องติดตามได้แก่ สถานการณ์โรคระบาด และ ต้นทุนอาหารสัตว์ที่เพิ่มขึ้น