เจ๊จิ๋ม..สายเถื่อน 16-05-23
16-05-23 สวัสดีพี่น้องชาวไทย "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิม www.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยเวลา 7.30 น.มีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ
***เมื่อวานนี้ตลาดหุ้นไทยเราปิดที่ 1,541.38 จุด ลดลง -19.97 จุด มีมูลค่าการซื้อขายรวม 68,385.47 ล้านบาท ส่วนรายละเอียดพอร์ตลงทุน มีเพียงรายย่อยในประเทศเท่านั้นที่ซื้อสุทธิ +1,403.43 ล้านบาท ส่วนที่เหลือขายหมดจีะ
-สถาบัน ซื้อ 5,312.16 ล้านบาท ขาย 5,792.90 ล้านบาท สุทธิคือ -480.74 ล้านบาท
-บัญชีบล. ซื้อ 5,204.86 ล้านบาท ขาย 5,436.40 ล้านบาท สุทธิคือ -231.54 ล้านบาท
-ต่างประเทศ ซื้อ 33,628.76 ล้านบาท ขาย 34,319.91 ล้านบาท สุทธิคือ -691.15 ล้านบาท
-ในประเทศ ซื้อ 24,237.03 ล้านบาท ขาย 22,833.60 ล้านบาท สุทธิคือ +1,403.43 ล้านบาท
***ตอนแรกก้อดีใจว่าเลือกตั้งเสร็จแล้ว..แต่พอเห็นสภาพของตลาดหุ้นเมื่อวานอยู่ในแดนลบเกือบทั้งวัน กลุ่มหลักๆ ที่โดนเทขายคือหุ้นในกลุ่มพลังงานและกลุ่มที่คาดว่าได้รับผลกระทบจากนโยบายการหาเสียงของพรรคก้าวไกล GULF, GPSC, BGRIM,MAKRO,CPALL,TRUE ซึ่งมีนโยบายหาเสียงชัดเจนจะลดค่าครองชีพให้กับประชาชน โดยเฉพาะ "ค่าไฟแฟร์" ถูกและเป็นธรรมกับประชาชน ทำให้ตลาดกังวลว่าอาจเห็นการปรับลดค่า Ft ซึ่งจะกระทบต่อผลประกอบการกลุ่มผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดใหญ่
***ได้ยินมาว่ากระบวนการหลังจากนี้ เป็นหน้าที่ของ กกต. ที่จะต้องตรวจสอบ ข้อร้องเรียนต่างๆ ที่มีเข้า มาเป็นจำนวนมาก หลังจากนั้นก็จะทำการวินิจฉัย ให้ใบเหลือง – ใบแดง ซึ่งอาจมีผลทำให้ เกิดการเปลี่ยนแปลงจำนวน ส.ส. อยู่บ้าง แต่ก็น่าจะเป็นส่วนน้อย เมื่อตรวจสอบและ วินิจฉัยแล้ว ก็ต้องประกาศรับรอง ส.ส. อย่างเป็นทางการ ภายใน 60 วัน นับจากวัน เลือกตั้ง โดยต้องรับรอง ส.ส. ไม่น้อยกว่า 95% หรือ 475 คน เพื่อให้สามารถเปิดประชุม รัฐสภาเป็นครั้งแรกได้
***จากกรอบเวลาดังกล่าว บนสมมุติฐานว่า กกต. ใช้ระยะเวลาเต็ม 60 วัน ก็น่าจะสามารถ เปิดสมัยประชุมรัฐสภาเป็นครั้งแรกได้ภายใน ครึ่งแรกของเดือน ก.ค. 2566 หลังจากนั้น ก็ จะเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร์ ซึ่งจะดำรงตำแหน่ง ประธานรัฐสภาโดยตำแหน่งไป ด้วย เมื่อได้ตัวประธานสภาผู้แทนราษฎร์แล้ว กระบวนการต่อไป ก็จะเป็นวาระสำคัญ คือ การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี โดยจะโหวตจากบัญชีรายชื่อ ที่แต่ละพรรคการเมือง ยี่นต่อ กกต. ว่าจะเสนอให้ บุคคลใดเป็นนายกรัฐมนตรี โดยผู้ที่จะผ่านการคัดเลือกต้องได้เสียง เกินกึ่งหนึ่งของรัฐสภา ซึ่งประกอบด้วย ส.ส. 500 คน และ ส.ว. 250 คน รวม 750 คน หมายความว่าต้องได้คะแนนเสียงสนับสนุน 376 คน ขึ้นไป
*** เมื่อเลือก นายกรัฐมนตรีได้ แล้ว ก็จะเป็นการจัดตั้ง ค.ร.ม. นำขึ้นทูลเกล้าฯ และถวายสัตย์ปฎิญาณ ก่อนเริ่มทำหน้าที่ ซึ่งคาดว่าจะเป็นช่วงเดือน ส.ค.2566
***มาติดตามกันต่อ..ว่าวันนี้จะมีความคืบหน้าอะไรบ้าง แต่ระหว่างนี้กระแสใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเมืองล้วนส่งผลกระทบต่อจิตใจและโยงไปถึงการลงทุนในของนักลงทุนอย่างมาก
***มีกูรูหุ้นบอกว่าหากเจาะลึกรายละเอียดนโยบายไฮไลท์ของพรรคที่ได้คะแนนเสียงส่วนใหญ่ เริ่มจาก
- พรรคที่ได้คะแนนเสียงอันดับ 1 คือ พรรคก้าวไกล “เน้นปรับโครงสร้างทั้งระบบ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมกับเพิ่มสวัสดิการทุกช่วงวัย”
- พรรคคะแนนเสียงอันดับ 2 คือ พรรคเพื่อไทย “เน้นเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย และ ขยายโอกาส พร้อมกับคาดหวัง GDP กลับมาเติบโตเฉลี่ยอย่างต่ำปีละ 5%
***โดยสรุปคือ..เชื่อว่าตลาดหุ้นน่าจะตอบสนองเชิงบวก SET INDEX ปรับตัวขึ้นได้และมี Fund Flow ไหลเข้า ส่วนหุ้นที่ได้ประโยชน์จากนโยบายหาเสียง แนะนำ 6 กลุ่มหลักๆ ดังนี้ COMM (CPALL, CRC, HMPRO, COM7), FIN (MTC, SAWAD, TIDLOR) , BANK (KBANK, KTB) , FOOD (SNNP, CBG) , CONS (CK, STEC), CONMAT (SCC)
16-05-23 สวัสดีพี่น้องชาวไทย "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิม www.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยเวลา 7.30 น.มีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ
***เมื่อวานนี้ตลาดหุ้นไทยเราปิดที่ 1,541.38 จุด ลดลง -19.97 จุด มีมูลค่าการซื้อขายรวม 68,385.47 ล้านบาท ส่วนรายละเอียดพอร์ตลงทุน มีเพียงรายย่อยในประเทศเท่านั้นที่ซื้อสุทธิ +1,403.43 ล้านบาท ส่วนที่เหลือขายหมดจีะ
-สถาบัน ซื้อ 5,312.16 ล้านบาท ขาย 5,792.90 ล้านบาท สุทธิคือ -480.74 ล้านบาท
-บัญชีบล. ซื้อ 5,204.86 ล้านบาท ขาย 5,436.40 ล้านบาท สุทธิคือ -231.54 ล้านบาท
-ต่างประเทศ ซื้อ 33,628.76 ล้านบาท ขาย 34,319.91 ล้านบาท สุทธิคือ -691.15 ล้านบาท
-ในประเทศ ซื้อ 24,237.03 ล้านบาท ขาย 22,833.60 ล้านบาท สุทธิคือ +1,403.43 ล้านบาท
***ตอนแรกก้อดีใจว่าเลือกตั้งเสร็จแล้ว..แต่พอเห็นสภาพของตลาดหุ้นเมื่อวานอยู่ในแดนลบเกือบทั้งวัน กลุ่มหลักๆ ที่โดนเทขายคือหุ้นในกลุ่มพลังงานและกลุ่มที่คาดว่าได้รับผลกระทบจากนโยบายการหาเสียงของพรรคก้าวไกล GULF, GPSC, BGRIM,MAKRO,CPALL,TRUE ซึ่งมีนโยบายหาเสียงชัดเจนจะลดค่าครองชีพให้กับประชาชน โดยเฉพาะ "ค่าไฟแฟร์" ถูกและเป็นธรรมกับประชาชน ทำให้ตลาดกังวลว่าอาจเห็นการปรับลดค่า Ft ซึ่งจะกระทบต่อผลประกอบการกลุ่มผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดใหญ่
***ได้ยินมาว่ากระบวนการหลังจากนี้ เป็นหน้าที่ของ กกต. ที่จะต้องตรวจสอบ ข้อร้องเรียนต่างๆ ที่มีเข้า มาเป็นจำนวนมาก หลังจากนั้นก็จะทำการวินิจฉัย ให้ใบเหลือง – ใบแดง ซึ่งอาจมีผลทำให้ เกิดการเปลี่ยนแปลงจำนวน ส.ส. อยู่บ้าง แต่ก็น่าจะเป็นส่วนน้อย เมื่อตรวจสอบและ วินิจฉัยแล้ว ก็ต้องประกาศรับรอง ส.ส. อย่างเป็นทางการ ภายใน 60 วัน นับจากวัน เลือกตั้ง โดยต้องรับรอง ส.ส. ไม่น้อยกว่า 95% หรือ 475 คน เพื่อให้สามารถเปิดประชุม รัฐสภาเป็นครั้งแรกได้
***จากกรอบเวลาดังกล่าว บนสมมุติฐานว่า กกต. ใช้ระยะเวลาเต็ม 60 วัน ก็น่าจะสามารถ เปิดสมัยประชุมรัฐสภาเป็นครั้งแรกได้ภายใน ครึ่งแรกของเดือน ก.ค. 2566 หลังจากนั้น ก็ จะเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร์ ซึ่งจะดำรงตำแหน่ง ประธานรัฐสภาโดยตำแหน่งไป ด้วย เมื่อได้ตัวประธานสภาผู้แทนราษฎร์แล้ว กระบวนการต่อไป ก็จะเป็นวาระสำคัญ คือ การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี โดยจะโหวตจากบัญชีรายชื่อ ที่แต่ละพรรคการเมือง ยี่นต่อ กกต. ว่าจะเสนอให้ บุคคลใดเป็นนายกรัฐมนตรี โดยผู้ที่จะผ่านการคัดเลือกต้องได้เสียง เกินกึ่งหนึ่งของรัฐสภา ซึ่งประกอบด้วย ส.ส. 500 คน และ ส.ว. 250 คน รวม 750 คน หมายความว่าต้องได้คะแนนเสียงสนับสนุน 376 คน ขึ้นไป
*** เมื่อเลือก นายกรัฐมนตรีได้ แล้ว ก็จะเป็นการจัดตั้ง ค.ร.ม. นำขึ้นทูลเกล้าฯ และถวายสัตย์ปฎิญาณ ก่อนเริ่มทำหน้าที่ ซึ่งคาดว่าจะเป็นช่วงเดือน ส.ค.2566
***มาติดตามกันต่อ..ว่าวันนี้จะมีความคืบหน้าอะไรบ้าง แต่ระหว่างนี้กระแสใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเมืองล้วนส่งผลกระทบต่อจิตใจและโยงไปถึงการลงทุนในของนักลงทุนอย่างมาก
***มีกูรูหุ้นบอกว่าหากเจาะลึกรายละเอียดนโยบายไฮไลท์ของพรรคที่ได้คะแนนเสียงส่วนใหญ่ เริ่มจาก
- พรรคที่ได้คะแนนเสียงอันดับ 1 คือ พรรคก้าวไกล “เน้นปรับโครงสร้างทั้งระบบ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมกับเพิ่มสวัสดิการทุกช่วงวัย”
- พรรคคะแนนเสียงอันดับ 2 คือ พรรคเพื่อไทย “เน้นเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย และ ขยายโอกาส พร้อมกับคาดหวัง GDP กลับมาเติบโตเฉลี่ยอย่างต่ำปีละ 5%
***โดยสรุปคือ..เชื่อว่าตลาดหุ้นน่าจะตอบสนองเชิงบวก SET INDEX ปรับตัวขึ้นได้และมี Fund Flow ไหลเข้า ส่วนหุ้นที่ได้ประโยชน์จากนโยบายหาเสียง แนะนำ 6 กลุ่มหลักๆ ดังนี้ COMM (CPALL, CRC, HMPRO, COM7), FIN (MTC, SAWAD, TIDLOR) , BANK (KBANK, KTB) , FOOD (SNNP, CBG) , CONS (CK, STEC), CONMAT (SCC)