กระดานข่าว
SE เผยงบ Q1/66 รายได้รวม 135.57 ลบ. กำไร 11.79 ลบ. พร้อมแตกไลน์ Utility & Power
16 พฤษภาคม 2566
SE เผยผลประกอบการไตรมาส 1/66 รายได้รวม 135.57 ล้านบาท กำไรสุทธิ 11.79 ล้านบาท ทิศทางธุรกิจไตรมาส 2/66 แนวโน้มเติบโตดี ลุ้นผลประมูลงานภาครัฐ-เอกชน มูลค่ารวมกว่า 1,200 ล้านบาท เล็งคว้างาน 25% หนุน Backlog 232.21 ล้านบาท แตกไลน์ Utility & Power ขยายบริการด้านพลังงานทดแทน ดีลลูกค้า 15 ราย
นายเกริก ลีเกษม รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามอีสต์ โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SE เปิดเผยถึงผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2566 ว่า บริษัทมีรายได้รวม 135.57 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 138.16 ล้านบาท จำนวน 2.59 ล้านบาท หรือลดลง 1.87% และมีกำไรสุทธิ 11.79 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 13.48 ล้านบาท จำนวน 1.69 ล้านบาท หรือลดลง 12.54%
ทั้งนี้ ผลประกอบการของบริษัทปรับตัวลดลงเล็กน้อย เนื่องจากกำหนดการส่งมอบสินค้าบางส่วนเลื่อนระยะเวลาไปในไตรมาสที่ 2/66 อีกทั้ง ในช่วงเดียวกันปีก่อน บริษัทมียอดขายจากผลิตภัณฑ์ชุดตรวจโควิด-19 แบบเร่งด่วน (ATK) ในกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์อุปกรณ์การแพทย์และเวชภัณฑ์ ประมาณ 15 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม การรับรู้รายได้ยังอยู่ในแผนที่บริษัทได้วางไว้
สำหรับทิศทางธุรกิจไตรมาส 2/66 แนวโน้มเติบโตดี โดยบริษัทสามารถส่งมอบสินค้าและให้บริการลูกค้าเดิมได้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง บริษัทอยู่ระหว่างรอผลประมูลงานภาครัฐ-เอกชน มูลค่ารวมกว่า 1,200 ล้านบาท ซึ่งบริษัทตั้งเป้าประมูลงานได้ไม่ต่ำกว่า 25% ทั้งนี้ บริษัทมีงานในมือ (Backlog) ณ เดือนมี.ค. ประมาณ 232.21 ล้านบาท แบ่งเป็นงานจัดจำหน่ายและออกแบบติดตั้งระบบ
นอกจากนี้ บริษัทยังคงมุ่งเน้นการจัดหาผลิตภัณฑ์ใหม่และพัฒนาบริการให้มีประสิทธิภาพ เพื่อตอบโจทย์ครอบคลุมความต้องการของกลุ่มลูกค้า โดยบริษัทจัดตั้งแผนก Utility & Power เพื่อพัฒนาธุรกิจสาธารณูปโภคและพลังงาน ให้บริการด้านพลังงานทดแทน การบำบัดน้ำเสียให้นำกลับมาใช้ใหม่ การติดตั้งโซลาร์เซลล์ให้ลูกค้าโรงงาน ลดต้นทุนค่าไฟในระยะยาว เน้นใช้พลังงานทดแทนจากแสงอาทิตย์
เนื่องจากขณะนี้ กลุ่มธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะโรงงานอุตสาหกรรม อยู่ในช่วงที่ปรับตัวเพื่อขานรับนโยบายพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน (ESG) ถือเป็นการขยายขอบเขตการให้บริการ และเป็นโอกาสในการต่อยอดบริการให้ฐานลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ ซึ่งบริษัทเข้าดำเนินงานให้กับลูกค้าแล้ว 15 ราย
ทั้งนี้ ผลประกอบการของบริษัทปรับตัวลดลงเล็กน้อย เนื่องจากกำหนดการส่งมอบสินค้าบางส่วนเลื่อนระยะเวลาไปในไตรมาสที่ 2/66 อีกทั้ง ในช่วงเดียวกันปีก่อน บริษัทมียอดขายจากผลิตภัณฑ์ชุดตรวจโควิด-19 แบบเร่งด่วน (ATK) ในกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์อุปกรณ์การแพทย์และเวชภัณฑ์ ประมาณ 15 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม การรับรู้รายได้ยังอยู่ในแผนที่บริษัทได้วางไว้
สำหรับทิศทางธุรกิจไตรมาส 2/66 แนวโน้มเติบโตดี โดยบริษัทสามารถส่งมอบสินค้าและให้บริการลูกค้าเดิมได้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง บริษัทอยู่ระหว่างรอผลประมูลงานภาครัฐ-เอกชน มูลค่ารวมกว่า 1,200 ล้านบาท ซึ่งบริษัทตั้งเป้าประมูลงานได้ไม่ต่ำกว่า 25% ทั้งนี้ บริษัทมีงานในมือ (Backlog) ณ เดือนมี.ค. ประมาณ 232.21 ล้านบาท แบ่งเป็นงานจัดจำหน่ายและออกแบบติดตั้งระบบ
นอกจากนี้ บริษัทยังคงมุ่งเน้นการจัดหาผลิตภัณฑ์ใหม่และพัฒนาบริการให้มีประสิทธิภาพ เพื่อตอบโจทย์ครอบคลุมความต้องการของกลุ่มลูกค้า โดยบริษัทจัดตั้งแผนก Utility & Power เพื่อพัฒนาธุรกิจสาธารณูปโภคและพลังงาน ให้บริการด้านพลังงานทดแทน การบำบัดน้ำเสียให้นำกลับมาใช้ใหม่ การติดตั้งโซลาร์เซลล์ให้ลูกค้าโรงงาน ลดต้นทุนค่าไฟในระยะยาว เน้นใช้พลังงานทดแทนจากแสงอาทิตย์
เนื่องจากขณะนี้ กลุ่มธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะโรงงานอุตสาหกรรม อยู่ในช่วงที่ปรับตัวเพื่อขานรับนโยบายพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน (ESG) ถือเป็นการขยายขอบเขตการให้บริการ และเป็นโอกาสในการต่อยอดบริการให้ฐานลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ ซึ่งบริษัทเข้าดำเนินงานให้กับลูกค้าแล้ว 15 ราย