บมจ.ชัยวัฒนา แทนเนอรี่ กรุ๊ป (CWT) กางงบไตรมาส 1/66 มีรายได้ 492.47 ล้านบาท รับรู้รายได้หลักมาจากการขายและบริการ โดยเฉพาะธุรกิจพลังงานไปได้สวย เปิดขายไฟแล้ว 16 MW ด้านบิ๊กบอส “วีระพล ไชยธีรัตต์” แย้มแผนการดำเนินธุรกิจครึ่งปีหลัง ลุยตุน PPA มากกว่า 50 MW เพื่อเตรียม Spin Off ธุรกิจพลังงาน พร้อมคงเป้าหมายรายได้ปี 66 เติบโตไม่น้อยกว่า 10% จากปีก่อน มั่นใจธุรกิจเสาหลัก “เบาะหนัง-โรงไฟฟ้า-SKC” โตแกร่ง
นายวีระพล ไชยธีรัตต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชัยวัฒนา แทนเนอรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (CWT) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทและบริษัทย่อยในไตรมาส 1/2566 มีรายได้รวม 492.47 ล้านบาท เติบโตใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 490.82 ล้านบาท โดยมีรายได้หลักมาจากการขายและให้บริการอยู่ที่ 481.47 ล้านบาท ซึ่งมาจากรายได้จากการขายหนังผืนสำหรับเบาะรถยนต์ตามจำนวนผลิตรถตามรุ่นที่ได้รับ รายได้จากการขายไฟฟ้าเพิ่มขึ้นจากการที่บริษัทเข้าลงทุนเพิ่มในธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้ารวม 16 เมกะวัตต์ สำหรับรายได้จากการขายเรือและรถโดยสารขนาดเล็กเพิ่มขึ้นจากการที่ลูกค้าเรียกสินค้าในไตรมาสนี้ นอกจากนี้ บริษัทฯ มีรายได้อื่นจำนวน 8.40 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในไตรมาส 1/2566 บริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายบริหารที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากบริษัทอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการใหม่ของธุรกิจกลุ่มพลังงานและจำหน่ายไฟฟ้า ซึ่งเป็นการค่าใช้จ่ายในระยะแรกเท่านั้น โดยธุรกิจดังกล่าวจะสามารถสร้างรายได้ที่ดีให้กับบริษัทฯ ได้ในระยะยาว เพื่อสร้างความมั่นคงและยั่งยืน
สำหรับแผนการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง กลุ่มบริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นการสะสมสัญญาซื้อขายไฟฟ้า โดยตั้งเป้าหมายสะสมสัญญาซื้อขายไฟฟ้าในมือ มากกว่า 50 เมกะวัตต์ ภายในปี 2566 เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการ Spin Off ธุรกิจพลังงานเข้าระดมทุนและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ต่อไป โดยปัจจุบันกลุ่มบริษัทฯ มีโรงไฟฟ้าที่ขายไฟเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) 2 โครงการในรูปแบบโรงไฟฟ้าชีวมวล ตั้งอยู่ที่จังหวัดสระแก้ว ประเทศไทย
กรรมการผู้จัดการ CWT กล่าวอีกว่า บริษัทฯ คงเป้าหมายรายได้เติบโตไม่น้อยกว่า 10% จากปีก่อน เนื่องจากธุรกิจเบาะหนังบริษัทฯ มีคำสั่งซื้อเข้ามาต่อเนื่อง และมีแผนการส่งมอบงานอย่างชัดเจน ขณะที่มีรายได้จากธุรกิจจำหน่ายไฟฟ้าเข้ามาอย่างสม่ำเสมอ ส่วนธุรกิจ SKC มีแผนการส่งมอบงานตามกำหนดเช่นกัน
นายวีระพล ไชยธีรัตต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชัยวัฒนา แทนเนอรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (CWT) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทและบริษัทย่อยในไตรมาส 1/2566 มีรายได้รวม 492.47 ล้านบาท เติบโตใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 490.82 ล้านบาท โดยมีรายได้หลักมาจากการขายและให้บริการอยู่ที่ 481.47 ล้านบาท ซึ่งมาจากรายได้จากการขายหนังผืนสำหรับเบาะรถยนต์ตามจำนวนผลิตรถตามรุ่นที่ได้รับ รายได้จากการขายไฟฟ้าเพิ่มขึ้นจากการที่บริษัทเข้าลงทุนเพิ่มในธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้ารวม 16 เมกะวัตต์ สำหรับรายได้จากการขายเรือและรถโดยสารขนาดเล็กเพิ่มขึ้นจากการที่ลูกค้าเรียกสินค้าในไตรมาสนี้ นอกจากนี้ บริษัทฯ มีรายได้อื่นจำนวน 8.40 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในไตรมาส 1/2566 บริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายบริหารที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากบริษัทอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการใหม่ของธุรกิจกลุ่มพลังงานและจำหน่ายไฟฟ้า ซึ่งเป็นการค่าใช้จ่ายในระยะแรกเท่านั้น โดยธุรกิจดังกล่าวจะสามารถสร้างรายได้ที่ดีให้กับบริษัทฯ ได้ในระยะยาว เพื่อสร้างความมั่นคงและยั่งยืน
สำหรับแผนการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง กลุ่มบริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นการสะสมสัญญาซื้อขายไฟฟ้า โดยตั้งเป้าหมายสะสมสัญญาซื้อขายไฟฟ้าในมือ มากกว่า 50 เมกะวัตต์ ภายในปี 2566 เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการ Spin Off ธุรกิจพลังงานเข้าระดมทุนและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ต่อไป โดยปัจจุบันกลุ่มบริษัทฯ มีโรงไฟฟ้าที่ขายไฟเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) 2 โครงการในรูปแบบโรงไฟฟ้าชีวมวล ตั้งอยู่ที่จังหวัดสระแก้ว ประเทศไทย
กรรมการผู้จัดการ CWT กล่าวอีกว่า บริษัทฯ คงเป้าหมายรายได้เติบโตไม่น้อยกว่า 10% จากปีก่อน เนื่องจากธุรกิจเบาะหนังบริษัทฯ มีคำสั่งซื้อเข้ามาต่อเนื่อง และมีแผนการส่งมอบงานอย่างชัดเจน ขณะที่มีรายได้จากธุรกิจจำหน่ายไฟฟ้าเข้ามาอย่างสม่ำเสมอ ส่วนธุรกิจ SKC มีแผนการส่งมอบงานตามกำหนดเช่นกัน