Wealth Sharing
RML ประเดิม Q1/66 ยอดขายโต 63% ยอดโอนคอนโดฯ‘ดิ เอสเทลล์ พร้อมพงษ์’ พุ่ง
16 พฤษภาคม 2566
RML ผู้นำวงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับลักชัวรี่และอัลตร้าลักชัวรี่ โชว์ฟอร์มไตรมาสแรก ปี 2566 กวาดยอดขาย (Presales) รวม 518 ล้านบาท โตขึ้น 63% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่มียอดขาย 318* ล้านบาท หลังคอนโดฯ อัลตร้าลักชัวรี่ สร้างเสร็จพร้อมอยู่ใกล้ BTS พร้อมพงษ์ และ ดิ เอ็มดิสทริค (The Em District) ‘ดิ เอสเทลล์ พร้อมพงษ์’ (The Estelle Phrom Phong) โครงการภายใต้การร่วมทุนกับ โตเกียว ทาเทโมโนะ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น ณ วันที่ 31 มีนาคม 2566 ยอดโอนมากถึง 3,000 ล้านบาท หรือประมาณ 80% ของจำนวนยูนิตพร้อมโอน มั่นใจปิดการขายปีนี้ตามเป้า
นายกรณ์ ณรงค์เดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) (RMLป เปิดเผยว่า ในไตรมาส 1 ปีนี้ บริษัทฯ มีผลงานที่ดี เนื่องจากทยอยรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่องจากโครงการ ‘ดิ เอสเทลล์ พร้อมพงษ์’ โดยสิ้นไตรมาสแรก ยอดโอนดีเกินคาด ส่วนยอดขายกวาดไปแล้วกว่า 85% อีกทั้ง ‘เทตต์ สาทร ทเวลฟ์’ โกยยอดขายแล้วถึงประมาณ 90% รวมถึงบริษัทฯ ยังมีรายได้จากค่าเช่าพื้นที่ในอาคารสำนักงานเกรดเอ ระดับลักชัวรี่ อย่าง ‘โอซีซี (วัน ซิตี้ เซ็นเตอร์)’ ที่เป็น ที่กล่าวถึงมากที่สุดแห่งหนึ่งในขณะนี้ โดยมีอัตราการเช่าพื้นที่อาคารสำนักงานและพื้นที่รีเทลรวมถึงความสนใจจากลูกค้าแล้วประมาณ 70% ตอกย้ำแบรนด์ RML ที่ลูกค้าเชื่อมั่นและไว้วางใจ
ในขณะเดียวกัน ปีที่ผ่านมาจวบจนถึงปีนี้ บริษัทฯ สามารถบริหารต้นทุนทางการเงินได้ดี จากกลยุทธ์แอสเสท ไลท์ (Asset light) ที่ไม่ต้องซื้อที่ดิน แต่ใช้ที่ดินของเจ้าของที่ดิน ในการพัฒนาโครงการ ซึ่งช่วยลดต้นทุนค่าที่ดินและต้นทุนทางการเงินจากการพัฒนาโครงการในอนาคต สร้างเสถียรภาพทางการเงินมากขึ้น ทั้งนี้ ในไตรมาส 2 บริษัทฯ จะมุ่งมั่นเดินหน้าตามแผนธุรกิจที่วางไว้ เพื่อให้บริษัทฯ มีรากฐานทางการเงิน ที่แข็งแกร่ง และก้าวเข้าสู่แบรนด์อันดับ 1 ที่เป็นผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาฯ ระดับลักชัวรี่และอัลตร้าลักชัวรี่
บริษัทฯ มียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) ณ วันที่ 31 มีนาคม 2566 จำนวน 4,959 ล้านบาท ลดลงจาก 4,965 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565 สืบเนื่องมาจากการทยอยโอนการกรรมสิทธิ์ของโครงการ ‘ดิ เอสเทลล์ พร้อมพงษ์’ ที่เริ่มโอนตั้งแต่ไตรมาส 3 ปี 2565
“สำหรับภาพรวมตลาดอสังหาฯ ไตรมาส 2 มองว่ามีแนวโน้มสดใสจากปัจจัยบวกของเศรษฐกิจและภาคการท่องเที่ยวที่ดีขึ้น โดยความต้องการซื้ออสังหาฯ ระดับลักชัวรี่และอัลตร้าลักชัวรี่ยังคงคึกคัก ทั้งจากกลุ่มลูกค้าชาวไทยและกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติ ทั้งพม่า, กัมพูชา, จีน, ฮ่องกง, ไต้หวัน, สิงคโปร์ และรัสเซีย พิสูจน์จากยอดขายไตรมาสแรกที่ผ่านมา ซึ่งแผนธุรกิจของบริษัทฯ ในไตรมาสนี้ จะรุกจัดกิจกรรมทางการตลาดมากขึ้น ประเดิมด้วยการจัด ‘RML Pop-Up Lounge’ มอบข้อเสนอสุดเอ็กคลูซีฟให้ลูกค้า ครั้งที่ 2 หลังจากที่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าอย่างล้นหลามในไตรมาสแรก อีกทั้งยังจัดแคมเปญทางการตลาด เพื่อมุ่งปิดการขายยูนิตที่เหลืออีก 15%* ของโครงการ ‘ดิ เอสเทลล์ พร้อมพงษ์’ ตลอดจนยังคงหา ผู้เช่า ‘โอซีซี’ เพื่อเติมเต็มพื้นที่เช่าของอาคารทั้งหมด 61,000 ตารางเมตร ทั้งนี้ แผนการดำเนินงานต่อจากนี้ไปจะมุ่งมั่นทำให้
ผลประกอบการของบริษัทฯ ปรับเพิ่มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ ยังมียอดขายที่รอรับรู้รายได้อีกจำนวนมาก จากการโอนกรรมสิทธิ์ของโครงการ ‘เทตต์ สาทร ทเวลฟ์’ ที่จะก่อสร้างแล้วเสร็จในไตรมาส 3 และยอดขายจากโครงการ ‘โรสวูด เรสซิเดนซ์เซส กมลา’ (Rosewood Residences Kamala) จังหวัดภูเก็ต ที่เตรียมเปิดขายรอบพิเศษแบบเอ็กซ์คลูซีฟ (Private Sales) ในครึ่งปีหลัง ซึ่งเรามั่นใจว่าจะเป็นโครงการอัลตร้า ลักชัวรี่ แบรนด์เด็ด เรสซิเดนซ์ (Ultra-Luxury Branded Residence) รูปแบบใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อนในประเทศไทยอย่างแน่นอน” นายกรณ์ กล่าว
นายกรณ์ ณรงค์เดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) (RMLป เปิดเผยว่า ในไตรมาส 1 ปีนี้ บริษัทฯ มีผลงานที่ดี เนื่องจากทยอยรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่องจากโครงการ ‘ดิ เอสเทลล์ พร้อมพงษ์’ โดยสิ้นไตรมาสแรก ยอดโอนดีเกินคาด ส่วนยอดขายกวาดไปแล้วกว่า 85% อีกทั้ง ‘เทตต์ สาทร ทเวลฟ์’ โกยยอดขายแล้วถึงประมาณ 90% รวมถึงบริษัทฯ ยังมีรายได้จากค่าเช่าพื้นที่ในอาคารสำนักงานเกรดเอ ระดับลักชัวรี่ อย่าง ‘โอซีซี (วัน ซิตี้ เซ็นเตอร์)’ ที่เป็น ที่กล่าวถึงมากที่สุดแห่งหนึ่งในขณะนี้ โดยมีอัตราการเช่าพื้นที่อาคารสำนักงานและพื้นที่รีเทลรวมถึงความสนใจจากลูกค้าแล้วประมาณ 70% ตอกย้ำแบรนด์ RML ที่ลูกค้าเชื่อมั่นและไว้วางใจ
ในขณะเดียวกัน ปีที่ผ่านมาจวบจนถึงปีนี้ บริษัทฯ สามารถบริหารต้นทุนทางการเงินได้ดี จากกลยุทธ์แอสเสท ไลท์ (Asset light) ที่ไม่ต้องซื้อที่ดิน แต่ใช้ที่ดินของเจ้าของที่ดิน ในการพัฒนาโครงการ ซึ่งช่วยลดต้นทุนค่าที่ดินและต้นทุนทางการเงินจากการพัฒนาโครงการในอนาคต สร้างเสถียรภาพทางการเงินมากขึ้น ทั้งนี้ ในไตรมาส 2 บริษัทฯ จะมุ่งมั่นเดินหน้าตามแผนธุรกิจที่วางไว้ เพื่อให้บริษัทฯ มีรากฐานทางการเงิน ที่แข็งแกร่ง และก้าวเข้าสู่แบรนด์อันดับ 1 ที่เป็นผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาฯ ระดับลักชัวรี่และอัลตร้าลักชัวรี่
บริษัทฯ มียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) ณ วันที่ 31 มีนาคม 2566 จำนวน 4,959 ล้านบาท ลดลงจาก 4,965 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565 สืบเนื่องมาจากการทยอยโอนการกรรมสิทธิ์ของโครงการ ‘ดิ เอสเทลล์ พร้อมพงษ์’ ที่เริ่มโอนตั้งแต่ไตรมาส 3 ปี 2565
“สำหรับภาพรวมตลาดอสังหาฯ ไตรมาส 2 มองว่ามีแนวโน้มสดใสจากปัจจัยบวกของเศรษฐกิจและภาคการท่องเที่ยวที่ดีขึ้น โดยความต้องการซื้ออสังหาฯ ระดับลักชัวรี่และอัลตร้าลักชัวรี่ยังคงคึกคัก ทั้งจากกลุ่มลูกค้าชาวไทยและกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติ ทั้งพม่า, กัมพูชา, จีน, ฮ่องกง, ไต้หวัน, สิงคโปร์ และรัสเซีย พิสูจน์จากยอดขายไตรมาสแรกที่ผ่านมา ซึ่งแผนธุรกิจของบริษัทฯ ในไตรมาสนี้ จะรุกจัดกิจกรรมทางการตลาดมากขึ้น ประเดิมด้วยการจัด ‘RML Pop-Up Lounge’ มอบข้อเสนอสุดเอ็กคลูซีฟให้ลูกค้า ครั้งที่ 2 หลังจากที่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าอย่างล้นหลามในไตรมาสแรก อีกทั้งยังจัดแคมเปญทางการตลาด เพื่อมุ่งปิดการขายยูนิตที่เหลืออีก 15%* ของโครงการ ‘ดิ เอสเทลล์ พร้อมพงษ์’ ตลอดจนยังคงหา ผู้เช่า ‘โอซีซี’ เพื่อเติมเต็มพื้นที่เช่าของอาคารทั้งหมด 61,000 ตารางเมตร ทั้งนี้ แผนการดำเนินงานต่อจากนี้ไปจะมุ่งมั่นทำให้
ผลประกอบการของบริษัทฯ ปรับเพิ่มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ ยังมียอดขายที่รอรับรู้รายได้อีกจำนวนมาก จากการโอนกรรมสิทธิ์ของโครงการ ‘เทตต์ สาทร ทเวลฟ์’ ที่จะก่อสร้างแล้วเสร็จในไตรมาส 3 และยอดขายจากโครงการ ‘โรสวูด เรสซิเดนซ์เซส กมลา’ (Rosewood Residences Kamala) จังหวัดภูเก็ต ที่เตรียมเปิดขายรอบพิเศษแบบเอ็กซ์คลูซีฟ (Private Sales) ในครึ่งปีหลัง ซึ่งเรามั่นใจว่าจะเป็นโครงการอัลตร้า ลักชัวรี่ แบรนด์เด็ด เรสซิเดนซ์ (Ultra-Luxury Branded Residence) รูปแบบใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อนในประเทศไทยอย่างแน่นอน” นายกรณ์ กล่าว