นางสาวหลุยส์ เตชะอุบล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โกลบอล คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) (GLOCON) เปิดเผยถึงการดำเนินงานไตรมาสที่ 1 ปี 2566 ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ไตรมาสที่ 1/2566 บริษัทมีรายได้จากการดำเนินงานรวมอยู่ที่ 568.53 ล้านบาท
![GLOCON ลั่นไตรมาส 266 เทิร์นอะราวด์.jpg](https://www.share2trade.com/storage/News%20Today/2023/160523/GLOCON%20%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%AA%20266%20%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B4%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B9%8C.jpg)
“ในไตรมาสแรก รายได้หลักของบริษัทมาจาก “ลูกชิ้นทิพย์” ซึ่งถือว่าเป็นธุรกิจในเครือของเราที่มีรายได้เติบโตและพุ่งทะยานเป็นอย่างมาก จากการขยายช่องทางการขายโดยร่วมมือทำ MOU กับ สถานีน้ำมันบางจาก และร้านสะดวกซื้อชั้นนำอย่าง 7-11 ขยายสาขากระจายทั่วประเทศ ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2566 ลูกชิ้นทิพย์จึงมีรายได้เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2565 ถึง 70.51 ล้านบาท หรือเติบโตมากถึง 155% และด้วยอานิสงค์ต้นทุนของวัตถุดิบเนื้อหมูที่ลดลง ส่งผลให้บริษัทมีต้นทุนที่ลดลงตามไปด้วย บริษัทจึงสามารถบริหารต้นทุนได้ดีขึ้น”
“เราตั้งเป้าว่าทุกธุรกิจจะฟื้นตัว (Turnaround) ผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 2 ปี 2566 จากยอดขายของธุรกิจฟื้นตัว การย้ายโรงงานของบริษัทฯ ทำเสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว พร้อมสำหรับสร้างกำลังการผลิตอาหารและพลิตภัณฑ์เพื่อส่งถึงลูกค้าได้เต็มกำลัง และคาดว่าจะทำสถิติสูงสุดตลอดกาลภายในเดือนพฤษภาคม 2566 ยอดขายที่เพิ่มขึ้นทีละน้อยสะท้อนถึงการตัดสินใจของผู้บริหารในการย้ายโรงงานสองแห่งในเชิงบวก” นางสาวหลุยส์ กล่าว
![GLOCON ลั่นไตรมาส 266 เทิร์นอะราวด์.jpg](https://www.share2trade.com/storage/News%20Today/2023/160523/GLOCON%20%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%AA%20266%20%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B4%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B9%8C.jpg)
“ในไตรมาสแรก รายได้หลักของบริษัทมาจาก “ลูกชิ้นทิพย์” ซึ่งถือว่าเป็นธุรกิจในเครือของเราที่มีรายได้เติบโตและพุ่งทะยานเป็นอย่างมาก จากการขยายช่องทางการขายโดยร่วมมือทำ MOU กับ สถานีน้ำมันบางจาก และร้านสะดวกซื้อชั้นนำอย่าง 7-11 ขยายสาขากระจายทั่วประเทศ ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2566 ลูกชิ้นทิพย์จึงมีรายได้เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2565 ถึง 70.51 ล้านบาท หรือเติบโตมากถึง 155% และด้วยอานิสงค์ต้นทุนของวัตถุดิบเนื้อหมูที่ลดลง ส่งผลให้บริษัทมีต้นทุนที่ลดลงตามไปด้วย บริษัทจึงสามารถบริหารต้นทุนได้ดีขึ้น”
“เราตั้งเป้าว่าทุกธุรกิจจะฟื้นตัว (Turnaround) ผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 2 ปี 2566 จากยอดขายของธุรกิจฟื้นตัว การย้ายโรงงานของบริษัทฯ ทำเสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว พร้อมสำหรับสร้างกำลังการผลิตอาหารและพลิตภัณฑ์เพื่อส่งถึงลูกค้าได้เต็มกำลัง และคาดว่าจะทำสถิติสูงสุดตลอดกาลภายในเดือนพฤษภาคม 2566 ยอดขายที่เพิ่มขึ้นทีละน้อยสะท้อนถึงการตัดสินใจของผู้บริหารในการย้ายโรงงานสองแห่งในเชิงบวก” นางสาวหลุยส์ กล่าว