Wealth Sharing

Krungthai COMPASS คาดโครงการไฟฟ้าสีเขียว สร้างรายได้ให้โรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ 3.42 แสนลบ.


18 พฤษภาคม 2566
Krungthai COMPASS คาดการรับซื้อไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ผ่านโครงการไฟฟ้าสีเขียว เพิ่มรายได้ให้ธุรกิจโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์จากการขายไฟฟ้าประมาณ  3.42 แสนล้านบาท ตลอดอายุสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 25 ปี หรือ ประมาณปีละ 13,700  ล้านบาท  

Krungthai COMPASS คาดโครงการไฟฟ้าสีเขียว.jpg

Krungthai COMPASS  ระบุว่า ความต้องการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์มีแนวโน้มเติบโตดีในระยะยาว โดยคาดว่า ภายในปี 2569 สหภาพยุโรปจะเริ่มเก็บค่าธรรมเนียมคาร์บอนกับสินค้าในอุตสาหกรรมเป้าหมายที่นำเข้าจากผู้ผลิตนอกสหภาพยุโรป เช่น เหล็กและเหล็กกล้า อะลูมิเนียม ซีเมนต์  และภาครัฐของไทยก็มีแผนที่จะเก็บภาษีคาร์บอนกับภาคเอกชนในอนาคต  ซึ่งจะกดดันให้ภาคเอกชนต้องปรับตัว และหันมาใช้ไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเพื่อลดค่าธรรมเนียมคาร์บอนของสินค้าในอนาคตมากขึ้น โดยเฉพาะพลังงานแสงอาทิตย์ที่สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 500 tCO2/เมกะวัตต์/ปี  ซึ่งเทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ 62,500 ต้น

ซึ่งการรับซื้อไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ผ่านโครงการไฟฟ้าสีเขียว คาดว่าจะเพิ่มรายได้ให้ธุรกิจโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์จากการขายไฟฟ้าในโครงการนี้ประมาณ  3.42 แสนล้านบาท ตลอดอายุสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 25 ปี หรือ ประมาณปีละ 13,700  ล้านบาท  

นอกจากนี้ โครงการไฟฟ้าสีเขียวจะสร้างรายได้ให้กับธุรกิจเกี่ยวเนื่องประมาณ  1.82 แสนล้านบาท โดยธุรกิจที่มีโอกาสขยายตัวโดดเด่นที่สุด คือธุรกิจรับจ้างติดตั้งและก่อสร้างระบบเซลล์แสงอาทิตย์ ซึ่งคาดว่าจะสามารถสร้างรายได้ให้ผู้ประกอบการกลุ่มนี้ประมาณ 97,000  ล้านบาท

และโครงการไฟฟ้าสีเขียวจะช่วยให้ภาคเอกชนที่ส่งออกเหล็กและเหล็กกล้า และอะลูมิเนียมไปยัง EU ประหยัดค่าธรรมเนียมคาร์บอน 0.7% และ 0.6% ตามลำดับ (หรือคิดเป็นมูลค่าราว 1.4 ล้านบาท/ปี) สำหรับทุก 1 เมกะวัตต์ที่ซื้อไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ในโครงการนี้ เพราะสามารถใช้ไฟฟ้าดังกล่าวในการผลิตสินค้าที่ส่งออกไปยัง EU  ซึ่งช่วยลด Carbon footprint ของสินค้าเหล่านั้น จึงส่งผลให้ค่าธรรมเนียมคาร์บอนลดลง