บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) (CGS-CIMB)เผยบทวิเคราะห์หุ้น บมจ.วันทูวัน คอนแทคส์ (OTO) ระบุ เป็น 1 ในหุ้นที่ได้รับผลกระทบที่จำกัดในช่วงตลาดผันผวน และแนวโน้มผลการดำเนินงานปีนี้เติบโตดี
ปี 66 คาดผลประกอบการน่าจะ turnaround กลับมามีกำไร หนุนจากธุรกิจ Call center ที่เติบโตได้ดี YoY หลังมีความ ต้องการใช้บริการเพิ่มเติมตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ นอกจากนั้นบริษัทยังเดินหน้าขยายการลงทุนไปในกลุ่มโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน เพื่อมุ่งสร้างฐานรายได้ประจำที่มั่งคง (Recurring Income)
ขณะเดียวกันเพื่อปูทางเข้าสู่ธุรกิจ Climate Tech บริษัทได้ทำการแต่งตั้งนายบัณฑิต สะเพียรชัย ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน เข้าดำรงตำแหน่งรองประธานกรรมการบริษัท ซึ่งคาดว่าจะมีการเปิดตัวพันธมิตรต่างประเทศเพิ่มเติม รวมถึงยังเดินหน้าขยายการลงทุนในธุรกิจ EV Bike สอดรับนโยบายการสนับสนุนจากภาครัฐ คาดว่าสามารถรู้รายได้เข้ามาตั้งแต่ช่วงปลายไตรมาส 3 เป็นต้นไป
ขณะเดียวกันคาดว่าพอร์ตการลงทุนของบริษัทจะผ่านพ้นจุดต่ำสุดไปเรียบร้อยแล้ว และมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง รวมถึงเตรียมปรับพอร์ตเงินลงทุนลงเพื่อนำเงินมาใช้ในธุรกิจหลักแทนในอนาคตซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนการเติบโตในระยะยาว
ราคาหุ้นมี upside เพิ่มเติมจากการที่บริษัทฮินซิซึ ซึ่งประกอบธุรกิจรับจ้างผลิตและจำหน่ายงานซิลค์สกรีนเนมเพลเตรียมเข้าจดทะเบียนตลาด mai ภายในปีนี้ นอกจากนั้นยังเตรียมลุยโปรเจคใหม่สร้าง New S Curve ผ่านธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน
ปัจจุบันราคาหุ้นซื้อขายที่ 2567PE 35.9 เท่า (EPS 0.54 บาท/หุ้น) ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีที่ 36.2 เท่า
กราฟราคาหุ้นมีสัญญาซื้อทาง technical โดยมีแนวรับ 19.10 บาท แนวต้าน 20.10 บาท (Stop loss ถ้าหลุด 18.70 บาท)
IAA Consensus Target Price – n.a.
ปี 66 คาดผลประกอบการน่าจะ turnaround กลับมามีกำไร หนุนจากธุรกิจ Call center ที่เติบโตได้ดี YoY หลังมีความ ต้องการใช้บริการเพิ่มเติมตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ นอกจากนั้นบริษัทยังเดินหน้าขยายการลงทุนไปในกลุ่มโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน เพื่อมุ่งสร้างฐานรายได้ประจำที่มั่งคง (Recurring Income)
ขณะเดียวกันเพื่อปูทางเข้าสู่ธุรกิจ Climate Tech บริษัทได้ทำการแต่งตั้งนายบัณฑิต สะเพียรชัย ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน เข้าดำรงตำแหน่งรองประธานกรรมการบริษัท ซึ่งคาดว่าจะมีการเปิดตัวพันธมิตรต่างประเทศเพิ่มเติม รวมถึงยังเดินหน้าขยายการลงทุนในธุรกิจ EV Bike สอดรับนโยบายการสนับสนุนจากภาครัฐ คาดว่าสามารถรู้รายได้เข้ามาตั้งแต่ช่วงปลายไตรมาส 3 เป็นต้นไป
ขณะเดียวกันคาดว่าพอร์ตการลงทุนของบริษัทจะผ่านพ้นจุดต่ำสุดไปเรียบร้อยแล้ว และมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง รวมถึงเตรียมปรับพอร์ตเงินลงทุนลงเพื่อนำเงินมาใช้ในธุรกิจหลักแทนในอนาคตซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนการเติบโตในระยะยาว
ราคาหุ้นมี upside เพิ่มเติมจากการที่บริษัทฮินซิซึ ซึ่งประกอบธุรกิจรับจ้างผลิตและจำหน่ายงานซิลค์สกรีนเนมเพลเตรียมเข้าจดทะเบียนตลาด mai ภายในปีนี้ นอกจากนั้นยังเตรียมลุยโปรเจคใหม่สร้าง New S Curve ผ่านธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน
ปัจจุบันราคาหุ้นซื้อขายที่ 2567PE 35.9 เท่า (EPS 0.54 บาท/หุ้น) ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีที่ 36.2 เท่า
กราฟราคาหุ้นมีสัญญาซื้อทาง technical โดยมีแนวรับ 19.10 บาท แนวต้าน 20.10 บาท (Stop loss ถ้าหลุด 18.70 บาท)
IAA Consensus Target Price – n.a.