จับประเด็นหุ้นเด่น
รายงานพิเศษ : แรงหนุน “นักท่องเที่ยวต่างชาติ” ดันผลงาน SA ปีนี้ทำสถิติสูงสุด
22 พฤษภาคม 2566
สถานการณ์นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ขยายตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากจีนปีนี้อาจแตะ 7 ล้านคน หนุนธุรกิจโรงแรมและร้านอาหาร บมจ.ไซมิส แอสเสท (SA) สร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัจจุบันภาคการท่องเที่ยวของไทยขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ต้นปีถึงวันที่ 15 พ.ค. มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยทุกช่องทางรวมแล้ว 9.47 ล้านคน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวแล้ว 3.91 แสนล้านบาท ซึ่งกลุ่มนักท่องเที่ยวหลักยังคงมาจากประเทศในเอเชียตะวันออก เอเชียใต้ และอาเซียน
ซึ่งรัฐบาลได้สนับสนุนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ปรับปรุงการดำเนินงานด้านต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ภาคท่องเที่ยว รักษาแรงส่งการเติบโตให้เป็นไปตามเป้าหมาย โดยเฉพาะในตลาดหลักอย่างนักท่องเที่ยวจีน ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ประเมินว่าปี 66 น่าจะเดินทางมาไทยได้ 5.3 ล้านคน หรือหากมีปัจจัยเสริมอื่นๆ ก็อาจจะถึง 7 ล้านคน
ขณะที่บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) ระบุว่า 7 เดือนแรกของปีงบประมาณ 66 (ต.ค.65-เม.ย.66) มีเที่ยวบินจากจีนเข้ามาไทยแล้ว 12,805 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นร้อยละ 98 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งมาจากที่จีนมีนโยบายให้บริษัททัวร์นำนักท่องเที่ยวแบบกรุ๊ปทัวร์ออกนอกประทศได้ตั้งแต่ 6 ก.พ. 66 เป็นต้นมา
ในช่วงที่เหลือของปีงบประมาณ บวท. คาดว่าเที่ยวบินจากประเทศจีนจะยังเพิ่มขึ้นอีก โดยคาดว่าเดือนพ.ค. จะมีเที่ยวบินจีน 5,330 เที่ยวบิน, มิ.ย. 6,090 เที่ยวบิน, ก.ค. 7,150 เที่ยวบิน, ส.ค. 7,460 เที่ยวบิน และก.ย. 7,340 เที่ยวบิน ส่งผลให้ตลอดปีงบประมาณ 66 (ต.ค.65-ก.ย. 66) มีเที่ยวบินจากจีนมายังประเทศไทย 46,175 เที่ยวบิน
นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศเพิ่มขึ้น เป็นปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนผลการดำเนินงานของ บมจ.ไซมิส แอสเสท (SA) โดยเฉพาะในภาคธุรกิจโรงแรงของบริษัท ซึ่ง “ขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SA กล่าวว่า
ผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาส 1/66 บริษัทมีการรับรู้รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ จาก 5 โครงการหลัก ได้แก่ Ramada Residence (ชื่อเดิม Siamese Sukhumvit 87), Wyndham Residence (ชื่อเดิม Siamese Queens), Ramada Plaza by Wyndham Bangkok Sukhumvit 48(ชื่อเดิม Siamese Sukhumvit 48), Siamese Exclusive 31 และ Siamese KIN รวม 172.3 ล้านบาท และรับรู้ รายได้จากโครงการอื่นๆ 34.5 ล้านบาท รวมเป็น 206.8 ล้านบาท โดยบริษัทมีรายได้จากโครงการแนวราบคิดเป็นสัดส่วน 24.7% ของรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์และสินค้า
ขณะเดียวกันบริษัทมีการรับรู้รายได้ธุรกิจจากการให้บริการที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จากการทยอยเปิดให้บริการธุรกิจโรงแรม จำนวน 5 แห่ง และจากธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม (Food & Beverage) การบริหารงานนิติบุคคล รวมเป็นรายได้จากงานการให้บริการทั้งสิ้น 79.7 ล้านบาท หรือคิดเป็น 16.3% ของรายได้รวม ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้าเท่ากับ 36.2 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 83.4%
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลังคาดว่า จะยังเติบโตได้ต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก เนื่องจากบริษัทเตรียมโอนโครงการ Landmark at MRTA Station ซึ่งเป็นโครงการใหญ่มูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านบาท และปัจจุบันมี Backlog จากโครงการนี้ราว 4.7 พันล้านบาท คาดเตรียมทยอยโอนภายในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ 2 พันล้านบาท ประกอบกับมีโครงการอสังหาริมทรัพย์แนวราบที่เตรียมทยอยโอนอีก 3 โครงการ
นอกจากนี้มีกลุ่ม Ready to move และกลุ่มธุรกิจบริการอื่นๆ ได้แก่ กลุ่มโรงแรม กลุ่มร้านอาหาร กลุ่ม wellness กลุ่ม AMC ที่คาดว่าจะสร้างรายได้เข้ามาเพิ่มเติม และบริษัทยังมีแผนที่จะเปิดดำเนินการโรงแรมแห่งใหม่ในช่วงครึ่งปีหลังอีก 1 แห่ง ได้แก่ Tribe Living Bangkok Sukhumvit 39 ซึ่งมั่นใจว่า จะเป็นปัจจัยผลักดันผลการดำเนินงานในปีนี้ให้เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ไม่ต่ำกว่า 130% และสามารถสร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัจจุบันภาคการท่องเที่ยวของไทยขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ต้นปีถึงวันที่ 15 พ.ค. มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยทุกช่องทางรวมแล้ว 9.47 ล้านคน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวแล้ว 3.91 แสนล้านบาท ซึ่งกลุ่มนักท่องเที่ยวหลักยังคงมาจากประเทศในเอเชียตะวันออก เอเชียใต้ และอาเซียน
ซึ่งรัฐบาลได้สนับสนุนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ปรับปรุงการดำเนินงานด้านต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ภาคท่องเที่ยว รักษาแรงส่งการเติบโตให้เป็นไปตามเป้าหมาย โดยเฉพาะในตลาดหลักอย่างนักท่องเที่ยวจีน ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ประเมินว่าปี 66 น่าจะเดินทางมาไทยได้ 5.3 ล้านคน หรือหากมีปัจจัยเสริมอื่นๆ ก็อาจจะถึง 7 ล้านคน
ขณะที่บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) ระบุว่า 7 เดือนแรกของปีงบประมาณ 66 (ต.ค.65-เม.ย.66) มีเที่ยวบินจากจีนเข้ามาไทยแล้ว 12,805 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นร้อยละ 98 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งมาจากที่จีนมีนโยบายให้บริษัททัวร์นำนักท่องเที่ยวแบบกรุ๊ปทัวร์ออกนอกประทศได้ตั้งแต่ 6 ก.พ. 66 เป็นต้นมา
ในช่วงที่เหลือของปีงบประมาณ บวท. คาดว่าเที่ยวบินจากประเทศจีนจะยังเพิ่มขึ้นอีก โดยคาดว่าเดือนพ.ค. จะมีเที่ยวบินจีน 5,330 เที่ยวบิน, มิ.ย. 6,090 เที่ยวบิน, ก.ค. 7,150 เที่ยวบิน, ส.ค. 7,460 เที่ยวบิน และก.ย. 7,340 เที่ยวบิน ส่งผลให้ตลอดปีงบประมาณ 66 (ต.ค.65-ก.ย. 66) มีเที่ยวบินจากจีนมายังประเทศไทย 46,175 เที่ยวบิน
นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศเพิ่มขึ้น เป็นปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนผลการดำเนินงานของ บมจ.ไซมิส แอสเสท (SA) โดยเฉพาะในภาคธุรกิจโรงแรงของบริษัท ซึ่ง “ขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SA กล่าวว่า
ผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาส 1/66 บริษัทมีการรับรู้รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ จาก 5 โครงการหลัก ได้แก่ Ramada Residence (ชื่อเดิม Siamese Sukhumvit 87), Wyndham Residence (ชื่อเดิม Siamese Queens), Ramada Plaza by Wyndham Bangkok Sukhumvit 48(ชื่อเดิม Siamese Sukhumvit 48), Siamese Exclusive 31 และ Siamese KIN รวม 172.3 ล้านบาท และรับรู้ รายได้จากโครงการอื่นๆ 34.5 ล้านบาท รวมเป็น 206.8 ล้านบาท โดยบริษัทมีรายได้จากโครงการแนวราบคิดเป็นสัดส่วน 24.7% ของรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์และสินค้า
ขณะเดียวกันบริษัทมีการรับรู้รายได้ธุรกิจจากการให้บริการที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จากการทยอยเปิดให้บริการธุรกิจโรงแรม จำนวน 5 แห่ง และจากธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม (Food & Beverage) การบริหารงานนิติบุคคล รวมเป็นรายได้จากงานการให้บริการทั้งสิ้น 79.7 ล้านบาท หรือคิดเป็น 16.3% ของรายได้รวม ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้าเท่ากับ 36.2 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 83.4%
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลังคาดว่า จะยังเติบโตได้ต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก เนื่องจากบริษัทเตรียมโอนโครงการ Landmark at MRTA Station ซึ่งเป็นโครงการใหญ่มูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านบาท และปัจจุบันมี Backlog จากโครงการนี้ราว 4.7 พันล้านบาท คาดเตรียมทยอยโอนภายในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ 2 พันล้านบาท ประกอบกับมีโครงการอสังหาริมทรัพย์แนวราบที่เตรียมทยอยโอนอีก 3 โครงการ
นอกจากนี้มีกลุ่ม Ready to move และกลุ่มธุรกิจบริการอื่นๆ ได้แก่ กลุ่มโรงแรม กลุ่มร้านอาหาร กลุ่ม wellness กลุ่ม AMC ที่คาดว่าจะสร้างรายได้เข้ามาเพิ่มเติม และบริษัทยังมีแผนที่จะเปิดดำเนินการโรงแรมแห่งใหม่ในช่วงครึ่งปีหลังอีก 1 แห่ง ได้แก่ Tribe Living Bangkok Sukhumvit 39 ซึ่งมั่นใจว่า จะเป็นปัจจัยผลักดันผลการดำเนินงานในปีนี้ให้เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ไม่ต่ำกว่า 130% และสามารถสร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์