“ตลาดรถยนต์ – บรรจุภัณฑ์พลาสติก-ผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์” เติบโตต่อเนื่อง หนุนผลงาน บมจ.ปัญจวัฒนาพลาสติก (PJW) เติบโตก้าวกระโดด
บล.โกลเบล็ก วิเคราะห์หุ้น บมจ.ปัญจวัฒนาพลาสติก (PJW) ระบุ กำไรงวด 1Q23 ฟื้นตัวโดดเด่น โดยบริษัทมีรายได้จากการดำเนินงาน 1Q23 เท่ากับ 943.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +28.7% QoQ และ +3.5%YoY โดยได้อานิสงส์จากลูกค้ากลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ที่เติบโตโดดเด่น หลังปัญหาเซมิคอนดักเตอร์ขาดแคลนคลี่คลายลง ส่งผลให้มีการออกรถโมเดลใหม่เพิ่มขึ้น ประกอบกับโรงงานบรรจุภัณฑ์ที่จีนปรับตัวดีขึ้นหลังจาก มีการยกเลิกมาตรการ Lockdown ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ด้านอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ระดับ 18.5% ฟื้นตัวดีขึ้นจาก 16.3% ใน 4Q22 และ 17.7% ใน 1Q22 หลังราคาเม็ดพลาสติกที่เป็นต้นทุนหลักปรับตัวลงตาม ทิศทางราคาน้ำมันดิบ ซึ่งทำให้บริษัทสามารถบริหารต้นทุนการผลิตได้ดีขึ้น ส่งผลให้1Q23 มีกำไรสุทธิเท่ากับ 39.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้นโดดเด่น +237.9%QoQ แต่ลดลงเล็กน้อย -6.6%YoY
ขยายโอกาสสร้าง New S-curve หนุนการเติบโตในระยะยาวคาดผลประกอบการปี 23 เติบโตต่อเนื่องโดยมีแรงหนุนจากเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัว ส่งผลเชิงบวกต่อสินค้าในกลุ่มบรรจุภัณฑ์พลาสติกทั้งน้ำมันหล่อลื่นและนมเปรี้ยวกลับมาเติบโต นอกจากนั้นบริษัทยังได้เข้าซื้อธุรกิจ Laundry ในช่วงปลายปี 22 ที่ผ่านมา ซึ่งเจาะกลุ่มลูกค้า B2B เป็นหลัก
และมีแผนขยายเข้าสู่ตลาดผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์จากพลาสติก ซึ่งจะเป็น New S-curve ใหม่ คาดว่าจะเริ่มผลิตได้ในปลายปีนี้(ยังไม่รวมในประมาณการ) เรา ประมาณการรายได้และกำไรสุทธิปี 23 ราว 3,671.9 ล้านบาท และ 188.2 ล้านบาท เติบโต +9.9%YoY และ+125.4%YoY ตามลำดับ
แนะนำ “ซื้อ” ด้วยราคาเหมาะสมปี 23 ที่ 7.00 บาท เรามองว่าผลประกอบการได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในปี22 ที่ผ่านมา เห็นได้จากอัตรากำไรขั้นต้น ที่ฟื้นตัวขึ้นชัดเจน ประกอบยังมี Catalyst จากการสร้าง New S-curve ใหม่ต่อเนื่อง เราประเมินราคาเหมาะสมอิงค่าเฉลี่ย PER ย้อนหลัง 5 ปี ที่ระดับ 21 เท่า ได้ราคาเหมาะสมปี 23 เท่ากับ 7.00 บาท เริ่มต้นคำแนะนำ“ซื้อ”
ขณะที่ ประธานกรรมการบริหาร PJW “วิวรรธน์ เหมมณฑารพ” มั่นใจแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 66 จะเติบโตต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 10% จากการเร่งแผนการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เพื่อรักษาอัตรากำไรในภาวะที่ต้นทุนการผลิต ทั้งค่าแรงและค่าพลังงาน รวมไปถึงอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้น
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าที่จะเพิ่มช่องทางสร้างรายได้จากการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ เพื่อสร้าง New S-curve ผลักดันการเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด โดยอยู่ระหว่างเพิ่มสายการผลิตในส่วนผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ คาดจะเริ่มผลิตได้ภายในปีนี้ รวมทั้งยังคงเปิดโอกาสในการศึกษาและหา Synergy ร่วมกับพันธมิตรที่มีศักยภาพมากขึ้น โดยเฉพาะในด้านผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์จากพลาสติกเพิ่มเติมอีกด้วย ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมาร์จิ้นสูง ดังนั้นน่าจะเป็นอีกธุรกิจที่จะสนับสนุนการเติบโตได้อย่างก้าวกระโดดอย่างแน่นอน
ส่วนผลการดำเนินงานของบริษัทฯในไตรมาส 1/66 มีรายได้รวม 953.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.09 ล้านบาท หรือ 4.05 % เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 916.5 ล้านบาท เนื่องจากภาครัฐเดินหน้านโยบายเปิดเมืองเต็มรูปแบบรวมถึงประเทศจีนเปิดประเทศได้เร็ว ทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัว ส่งผลเชิงบวกต่อสินค้าหลักของบริษัทในกลุ่มบรรจุภัณฑ์พลาสติกทั้งน้ำมันหล่อลื่นและนมเปรี้ยว กลับมาเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงยอดขายชิ้นส่วนยานยนต์ที่จะเพิ่มขึ้นจากการที่นิวโมเดลเข้ามามาก หลังจากที่ต้องเลื่อนออกไปจากสถานการณ์เซมิคอนดักเตอร์ขาดแคลน
บล.โกลเบล็ก วิเคราะห์หุ้น บมจ.ปัญจวัฒนาพลาสติก (PJW) ระบุ กำไรงวด 1Q23 ฟื้นตัวโดดเด่น โดยบริษัทมีรายได้จากการดำเนินงาน 1Q23 เท่ากับ 943.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +28.7% QoQ และ +3.5%YoY โดยได้อานิสงส์จากลูกค้ากลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ที่เติบโตโดดเด่น หลังปัญหาเซมิคอนดักเตอร์ขาดแคลนคลี่คลายลง ส่งผลให้มีการออกรถโมเดลใหม่เพิ่มขึ้น ประกอบกับโรงงานบรรจุภัณฑ์ที่จีนปรับตัวดีขึ้นหลังจาก มีการยกเลิกมาตรการ Lockdown ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ด้านอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ระดับ 18.5% ฟื้นตัวดีขึ้นจาก 16.3% ใน 4Q22 และ 17.7% ใน 1Q22 หลังราคาเม็ดพลาสติกที่เป็นต้นทุนหลักปรับตัวลงตาม ทิศทางราคาน้ำมันดิบ ซึ่งทำให้บริษัทสามารถบริหารต้นทุนการผลิตได้ดีขึ้น ส่งผลให้1Q23 มีกำไรสุทธิเท่ากับ 39.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้นโดดเด่น +237.9%QoQ แต่ลดลงเล็กน้อย -6.6%YoY
ขยายโอกาสสร้าง New S-curve หนุนการเติบโตในระยะยาวคาดผลประกอบการปี 23 เติบโตต่อเนื่องโดยมีแรงหนุนจากเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัว ส่งผลเชิงบวกต่อสินค้าในกลุ่มบรรจุภัณฑ์พลาสติกทั้งน้ำมันหล่อลื่นและนมเปรี้ยวกลับมาเติบโต นอกจากนั้นบริษัทยังได้เข้าซื้อธุรกิจ Laundry ในช่วงปลายปี 22 ที่ผ่านมา ซึ่งเจาะกลุ่มลูกค้า B2B เป็นหลัก
และมีแผนขยายเข้าสู่ตลาดผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์จากพลาสติก ซึ่งจะเป็น New S-curve ใหม่ คาดว่าจะเริ่มผลิตได้ในปลายปีนี้(ยังไม่รวมในประมาณการ) เรา ประมาณการรายได้และกำไรสุทธิปี 23 ราว 3,671.9 ล้านบาท และ 188.2 ล้านบาท เติบโต +9.9%YoY และ+125.4%YoY ตามลำดับ
แนะนำ “ซื้อ” ด้วยราคาเหมาะสมปี 23 ที่ 7.00 บาท เรามองว่าผลประกอบการได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในปี22 ที่ผ่านมา เห็นได้จากอัตรากำไรขั้นต้น ที่ฟื้นตัวขึ้นชัดเจน ประกอบยังมี Catalyst จากการสร้าง New S-curve ใหม่ต่อเนื่อง เราประเมินราคาเหมาะสมอิงค่าเฉลี่ย PER ย้อนหลัง 5 ปี ที่ระดับ 21 เท่า ได้ราคาเหมาะสมปี 23 เท่ากับ 7.00 บาท เริ่มต้นคำแนะนำ“ซื้อ”
ขณะที่ ประธานกรรมการบริหาร PJW “วิวรรธน์ เหมมณฑารพ” มั่นใจแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 66 จะเติบโตต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 10% จากการเร่งแผนการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เพื่อรักษาอัตรากำไรในภาวะที่ต้นทุนการผลิต ทั้งค่าแรงและค่าพลังงาน รวมไปถึงอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้น
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าที่จะเพิ่มช่องทางสร้างรายได้จากการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ เพื่อสร้าง New S-curve ผลักดันการเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด โดยอยู่ระหว่างเพิ่มสายการผลิตในส่วนผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ คาดจะเริ่มผลิตได้ภายในปีนี้ รวมทั้งยังคงเปิดโอกาสในการศึกษาและหา Synergy ร่วมกับพันธมิตรที่มีศักยภาพมากขึ้น โดยเฉพาะในด้านผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์จากพลาสติกเพิ่มเติมอีกด้วย ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมาร์จิ้นสูง ดังนั้นน่าจะเป็นอีกธุรกิจที่จะสนับสนุนการเติบโตได้อย่างก้าวกระโดดอย่างแน่นอน
ส่วนผลการดำเนินงานของบริษัทฯในไตรมาส 1/66 มีรายได้รวม 953.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.09 ล้านบาท หรือ 4.05 % เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 916.5 ล้านบาท เนื่องจากภาครัฐเดินหน้านโยบายเปิดเมืองเต็มรูปแบบรวมถึงประเทศจีนเปิดประเทศได้เร็ว ทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัว ส่งผลเชิงบวกต่อสินค้าหลักของบริษัทในกลุ่มบรรจุภัณฑ์พลาสติกทั้งน้ำมันหล่อลื่นและนมเปรี้ยว กลับมาเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงยอดขายชิ้นส่วนยานยนต์ที่จะเพิ่มขึ้นจากการที่นิวโมเดลเข้ามามาก หลังจากที่ต้องเลื่อนออกไปจากสถานการณ์เซมิคอนดักเตอร์ขาดแคลน