จากการรวบรวมข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในส่วนของโครงสร้างผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ONEE ล่าสุด ณ วันที่ 9 พฤษภาคม 2566 และนำมาเปรียบเทียบกับโครงสร้างผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ณ วันที่ 22 มีนาคม 2566 พบว่า นักลงทุนรายใหญ่โดยเฉพาะกลุ่มตระกูล จุฬางกูรได้เพิ่มสัดส่วนการถือครองหุ้นอย่างชัดเจน โดย "ทวีฉัตร จุฬางกูร"ได้เพิ่มสัดส่วนการถือครองหุ้นแตะ 48,326,600 หุ้นคิดเป็น2.03% จากเดิมถือหุ้น 28,326,600 หุ้นคิดเป็น 1.19% "หทัยรัตน์ จุฬางกูร" ถือหุ้น 36,837,300หุ้น คิดเป็น 1.55% จากเดิมถือหุ้น 22,065,800 หุ้น คิดเป็น0.93% ขณะที่"ณัฐพล จุฬางกูร"ถือหุ้น 23,295,100 หุ้น คิดเป็น 0.98% จากเดิมที่ไม่ปรากฎรายชื่อเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่
นอกจากนี้ยังพบว่า "พิธาน องค์โฆษิต"ถือหุ้นจำนวน 30,000,000หุ้น คิดเป็น 1.26% จากเดิมถือหุ้น 29,993,400 หุ้น คิดเป็น1.26%ขณะที่กลุ่มผู้ถือหุ้นอันดับ 1 ถึง 5 ยังคงสัดส่วนการถือครองหุ้นในระดับเท่าเดิม
สำหรับพอร์ตการลงทุนของ"พิธาน"ปัจจุบันมีชื่อปรากฎในโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ จำนวน 3 บริษัท ประกอบด้วย
หุ้น จำนวน(หุ้น) %การถือครอง
AAV 271,536,896 2.23
KCE 164,754,244 13.94
ONEE 30,000,000 1.26
ส่วนโครงสร้างผู้ถือหุ้นล่าสุด ของหุ้นONEE ประกอบด้วย
รายชื่อ จำนวน(หุ้น) % การถือครอง
จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ 597,374,850 25.09
ปรมาภรณ์ ปราสาททองโอสถ 596,500,000 25.05
ซีเนริโอ 201,722,500 8.47
ถกลเกียรติ วีรวรรณ 104,072,000 4.37
กองทุนเปิด บัวหลวงหุ้นระยะยาว 50,629,300 2.13
ทวีฉัตร จุฬางกูร 48,326,600 2.03
หทัยรัตน์ จุฬางกูร 36,837,300 1.55
ไทยเอ็นวีดีอาร์ 26,034,581 1.09
ณัฐพล จุฬางกูร 23,295,100 0.98
หากพิจารณาจากพอร์ตการลงทุนหุ้นของ"ทวีฉัตร จุฬางกูร" พบว่ามีหุ้นที่ประกาศขึ้นเครื่องหมายXD จ่ายเงินปันผลงวดครึ่งหลังของปี 2565 ในเดือนพฤษภาคม 2566 จำนวน 7 บริษัท
หุ้น จำนวน(หุ้น) มูลค่า(บาท)
AMATAV 22,578,600 1,580,502
BEC 274,353,100 43,896,496
INET 17,723,000 1,880,410
MODERN 55,529,800 3,331,788
NNCL 506,006,000 25,300,300
ONEE 48,326,600 7,732,256
SST 59,860,332 1,795,810
รวม 85,517,562
สำหรับการเคลื่อนไหวราคาหุ้น ONEE ตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคม 2566 ราคาหุ้นปรับลดลง 10 % จากราคา 5.40 บาท มาอยู่ที่ 4.86 บาท
บล.ดาโอ (ประเทศไทย) แนะนำถือหุ้น ONEE ประเมินราคาเป้าหมาย 4.75 บาท เนื่องจากกำไร 1Q23 ใกล้เคียงคาด, 2Q23E ฟื้นตัวจากเม็ดเงินโฆษณาฟื้นเราคงคำแนะนำ “ถือ” คงราคาเป้าหมายที่ 4.75 บาท อิง PER 22.7x ONEE รายงานกำไรสุทธิ 53 ล้านบาท (-79% YoY, -64% QoQ) ใกล้เคียงคาด กำไรลดลง YoY จากรายได้รวมปรับตัวลดลง -11% YoY โดยรายได้โฆษณา, รายได้ copyright และ production & services ปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตามรายได้ event และ รายได้ other related business ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากสถานการณ์โควิดคลี่คลาย,
รวมถึง GPM ที่ 35.4% ปรับตัวลดลงจาก utilization rate และรายได้ copyright ซึ่ง high margin ปรับตัวลดลง สำหรับกำไรลดลง QoQ จาก low season ของกลุ่มสื่อเราคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2023E ที่ 498 ล้านบาท (-33% YoY) โดยมองว่าจะเห็นการฟื้นตัวของกำไรสุทธิอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ 2Q23E เป็นต้นไปจากเม็ดเงินโฆษณาที่ฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ ราคาหุ้น underperform SET -10%/-30% ใน 1 และ 3 เดือนที่ผ่านมาจากเม็ดเงินโฆษณาที่ชะลอตัว ปัจจุบันเทรดอยู่ที่ PER 23.9x ต่ำกว่า peer กลุ่ม media อย่างไรก็ตาม ระยะสั้นราคาหุ้นมีโอกาส underperform SET ต่อ จากกำไร 1Q23 ที่ชะลออตัว แนะนำ “ถือ” จนกว่าจะเห็นการฟื้นตัวของเม็ดเงินโฆษณาที่ชัดเจน