ธนาคารกรุงเทพ ผนึกกำลังแบงก์เพอร์มาตา ต่อยอดความสำเร็จบริการ L/C on Blockchain ชูจุดแข็งเครือข่ายธุรกิจข้ามพรมแดน เจาะธุรกิจเคมีภัณฑ์ไทย-อินโดฯ ประเดิมลูกค้า ‘TPE-Lautan Luas’ ทดลองใช้บริการ Trade Finance ยุคใหม่ ช่วยลดขั้นตอน ลดความเสี่ยง มีแผนทำธุรกรรมอย่างต่อเนื่อง หนุนธุรกิจพัฒนาการทำงานให้เป็นดิจิทัลทั้งกระบวนการ สอดรับแนวคิดธุรกิจสีเขียว ตอบโจทย์การเติบโตอย่างยั่งยืน
นายพิพัฒน์ อัสสมงคล ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)(BBL) เปิดเผย ธนาคารได้พัฒนานวัตกรรม เดินหน้ารุกตลาดบริการเลตเตอร์ออฟเครดิตบนบล็อกเชน หรือ L/C on Blockchain ซึ่งเป็นบริการที่นำ Distributed Ledger Technology (DLT) หรือ Enterprise Blockchain Platform มาเป็นส่วนสำคัญในการทำงาน เพื่อให้บริการในเชิงพาณิชย์อย่างเต็มรูปแบบ*
ล่าสุดธนาคารได้ผนึกความร่วมมือกับธนาคารเพอร์มาตา นำเสนอนวัตกรรมดังกล่าวให้แก่ลูกค้าของทั้งสองธนาคารในอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ โดยธนาคารประสบความสำเร็จในการสนับสนุนให้บริษัท ไทยโพลิเอททีลีน จำกัด (TPE) บริษัทในกลุ่มธุรกิจเอสซีจี เคมิคอลส์ หรือ เอสซีจีซี (SCGC) ซึ่งส่งออกเม็ดพลาสติกจากไทยไปอินโดนีเซีย สามารถยื่นเอกสารเรียกเก็บเงินในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (Full electronic presentation) สำหรับการขนส่งทางทะเลแบบตู้คอนเทนเนอร์ ลดการใช้กระดาษ ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเก็บตู้สินค้าชั่วคราวไว้ในลานภายในท่าเรือ ทำให้คู่ค้าในประเทศอินโดนีเซียได้รับสินค้ารวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสให้กับธุรกิจ คู่ค้าทั้งสองฝ่ายมีความพึงพอใจ ได้รับประสบการณ์ที่ดีจากการเริ่มใช้บริการ
นายดาร์วิน วิโบโว ผู้อำนวยการโฮลเซลส์แบงก์กิ้ง ธนาคารเพอร์มาตา กล่าวว่า “การนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้ในธุรกรรมการค้าระหว่างประเทศเป็นความมุ่งมั่นที่ธนาคารจะช่วยลูกค้าผู้ประกอบการ ประหยัดเวลา ลดความเสี่ยงจากการทุจริตปลอมแปลงข้อมูล ตลอดจนปรับปรุงขั้นตอนในการทำธุรกรรม เพื่อให้ธุรกิจเติบโตได้เร็วขึ้น นอกจากนี้การใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นด้วยการลดการใช้กระดาษและลดมลพิษจากคาร์บอน โดยธนาคารเพอร์มาตาเป็นธนาคารแห่งแรกในประเทศอินโดนีเซีย ที่ให้บริการการทำธุรกรรมการค้าระหว่างประเทศผ่านแพลตฟอร์มบล็อกเชน”
นายกุลเชฏฐ์ ธาราจันทร์ รองผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน บริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCGC กล่าวว่า ได้ร่วมมือกับธนาคารกรุงเทพและธนาคารเพอร์มาตา ในการนำเทคโนโลยีบล็อกเชน มาใช้ในการทำธุรกรรม L/C กับคู่ค้าบริษัท Lautan Luas Tbk ประเทศอินโดนีเซีย ทำให้ติดตามสถานะธุรกรรมจากทุกฝ่ายได้ทันที โปร่งใส ในกระบวนการร่างใบคำขอเปิด L/C การรับ L/C และยื่นเอกสารเรียกเก็บเงินในรูปแบบดิจิทัลได้ทั้งกระบวนการ ไม่เพียงแต่ลดระยะเวลาและการใช้กระดาษในการทำธุรกรรมลงอย่างมาก แต่ยังช่วย Lautan Luas ลดค่าใช้จ่ายส่วนเพิ่มที่อาจเกิดขึ้นจากค่าใช้จ่ายค่าลานสำหรับการเก็บตู้สินค้าไว้ที่ท่าเรือกรณีสินค้าถึงท่าเรือปลายทางก่อนใบตราส่งสินค้าทางทะเล ทำให้ Lautan Luas ได้รับความพึงพอใจ และมุ่งหวังจะทำธุรกรรม L/C on Blockchain กับ TPE อย่างต่อเนื่อง”
นายริชชี่ แมสริน ผู้จัดการฝ่ายคอร์ปอเรทแบงก์กิ้ง บริษัท Lautan Luas กล่าวสนับสนุนว่า “เทคโนโลยีบล็อกเชนที่ธนาคารเพอร์มาตาให้บริการ สามารถช่วยอำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรม L/C สำหรับการนำเข้า โดยการดำเนินการกับซัพพลายเออร์ ตั้งแต่การร่างเอกสาร L/C Application ไปจนถึงการเรียกเก็บเงินสามารถทำได้ผ่านแพลตฟอร์มบล็อกเชน นอกจากนี้ยังสามารถรับเอกสารสำหรับการขนส่งสินค้าแบบดิจิทัลผ่านทางแพลตฟอร์มดังกล่าว ช่วยให้กระบวนการรับสินค้าที่ท่าเรือรวดเร็วยิ่งขึ้น”
นายพิพัฒน์ อัสสมงคล ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)(BBL) เปิดเผย ธนาคารได้พัฒนานวัตกรรม เดินหน้ารุกตลาดบริการเลตเตอร์ออฟเครดิตบนบล็อกเชน หรือ L/C on Blockchain ซึ่งเป็นบริการที่นำ Distributed Ledger Technology (DLT) หรือ Enterprise Blockchain Platform มาเป็นส่วนสำคัญในการทำงาน เพื่อให้บริการในเชิงพาณิชย์อย่างเต็มรูปแบบ*
ล่าสุดธนาคารได้ผนึกความร่วมมือกับธนาคารเพอร์มาตา นำเสนอนวัตกรรมดังกล่าวให้แก่ลูกค้าของทั้งสองธนาคารในอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ โดยธนาคารประสบความสำเร็จในการสนับสนุนให้บริษัท ไทยโพลิเอททีลีน จำกัด (TPE) บริษัทในกลุ่มธุรกิจเอสซีจี เคมิคอลส์ หรือ เอสซีจีซี (SCGC) ซึ่งส่งออกเม็ดพลาสติกจากไทยไปอินโดนีเซีย สามารถยื่นเอกสารเรียกเก็บเงินในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (Full electronic presentation) สำหรับการขนส่งทางทะเลแบบตู้คอนเทนเนอร์ ลดการใช้กระดาษ ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเก็บตู้สินค้าชั่วคราวไว้ในลานภายในท่าเรือ ทำให้คู่ค้าในประเทศอินโดนีเซียได้รับสินค้ารวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสให้กับธุรกิจ คู่ค้าทั้งสองฝ่ายมีความพึงพอใจ ได้รับประสบการณ์ที่ดีจากการเริ่มใช้บริการ
นายดาร์วิน วิโบโว ผู้อำนวยการโฮลเซลส์แบงก์กิ้ง ธนาคารเพอร์มาตา กล่าวว่า “การนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้ในธุรกรรมการค้าระหว่างประเทศเป็นความมุ่งมั่นที่ธนาคารจะช่วยลูกค้าผู้ประกอบการ ประหยัดเวลา ลดความเสี่ยงจากการทุจริตปลอมแปลงข้อมูล ตลอดจนปรับปรุงขั้นตอนในการทำธุรกรรม เพื่อให้ธุรกิจเติบโตได้เร็วขึ้น นอกจากนี้การใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นด้วยการลดการใช้กระดาษและลดมลพิษจากคาร์บอน โดยธนาคารเพอร์มาตาเป็นธนาคารแห่งแรกในประเทศอินโดนีเซีย ที่ให้บริการการทำธุรกรรมการค้าระหว่างประเทศผ่านแพลตฟอร์มบล็อกเชน”
นายกุลเชฏฐ์ ธาราจันทร์ รองผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน บริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCGC กล่าวว่า ได้ร่วมมือกับธนาคารกรุงเทพและธนาคารเพอร์มาตา ในการนำเทคโนโลยีบล็อกเชน มาใช้ในการทำธุรกรรม L/C กับคู่ค้าบริษัท Lautan Luas Tbk ประเทศอินโดนีเซีย ทำให้ติดตามสถานะธุรกรรมจากทุกฝ่ายได้ทันที โปร่งใส ในกระบวนการร่างใบคำขอเปิด L/C การรับ L/C และยื่นเอกสารเรียกเก็บเงินในรูปแบบดิจิทัลได้ทั้งกระบวนการ ไม่เพียงแต่ลดระยะเวลาและการใช้กระดาษในการทำธุรกรรมลงอย่างมาก แต่ยังช่วย Lautan Luas ลดค่าใช้จ่ายส่วนเพิ่มที่อาจเกิดขึ้นจากค่าใช้จ่ายค่าลานสำหรับการเก็บตู้สินค้าไว้ที่ท่าเรือกรณีสินค้าถึงท่าเรือปลายทางก่อนใบตราส่งสินค้าทางทะเล ทำให้ Lautan Luas ได้รับความพึงพอใจ และมุ่งหวังจะทำธุรกรรม L/C on Blockchain กับ TPE อย่างต่อเนื่อง”
นายริชชี่ แมสริน ผู้จัดการฝ่ายคอร์ปอเรทแบงก์กิ้ง บริษัท Lautan Luas กล่าวสนับสนุนว่า “เทคโนโลยีบล็อกเชนที่ธนาคารเพอร์มาตาให้บริการ สามารถช่วยอำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรม L/C สำหรับการนำเข้า โดยการดำเนินการกับซัพพลายเออร์ ตั้งแต่การร่างเอกสาร L/C Application ไปจนถึงการเรียกเก็บเงินสามารถทำได้ผ่านแพลตฟอร์มบล็อกเชน นอกจากนี้ยังสามารถรับเอกสารสำหรับการขนส่งสินค้าแบบดิจิทัลผ่านทางแพลตฟอร์มดังกล่าว ช่วยให้กระบวนการรับสินค้าที่ท่าเรือรวดเร็วยิ่งขึ้น”