Talk of The Town
PTG แย้ม Q2/66 เติบโตโดดเด่น วางงบ 6,000 ลบ.ขยายธุรกิจ Oil และNon-Oil เพื่อความยั่งยืน
25 พฤษภาคม 2566
PTG แย้ม Q2/66 เติบโตโดดเด่น จากเศรษฐกิจฟื้นตัวและการท่องเที่ยวคึกคัก เผยไตรมาสแรก “ยอดขาย-รายได้” สูงเป็นประวัติการณ์ พร้อมวางงบ 5,000-6,000 ล้านบาท ขยายธุรกิจ Oil และ Non-Oil ให้เติบโตอย่างยั่งยืน
นายรังสรรค์ พวงปราง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ พร้อมด้วย นายปรเมษฐ์ สงวนโชควณิชย์ ผู้อำนวยการอาวุโสประจำสำนักกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG ร่วมนำเสนอข้อมูลผลประกอบการช่วงไตรมาส 1/2566 ในงานบริษัทจดทะเบียนพบนักลงทุน (Opportunity Day) ผ่านช่องทางออนไลน์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ณ อาคาร CW Tower ชั้น 33 บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) เมื่อเร็ว ๆ นี้
นายรังสรรค์ เปิดเผยว่า ช่วงไตรมาส 1/2566 บริษัทฯ มีรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ จำนวน 50,936 ล้านบาท เติบโต 30.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) กำไรสุทธิ จำนวน 284 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 73.6% YoY สำหรับยอดขายน้ำมันสูงสุดเป็นประวัติการณ์เช่นเดียวกัน อยู่ที่ 1,474 ล้านลิตร เพิ่มขึ้น 16.6% YoY ส่งผลให้ PTG มีมาร์เก็ตแชร์ผ่านค้าปลีกสถานีบริการในไตรมาสนี้ที่ 19.2% เพิ่มจากไตรมาส 4/2565 ที่มีมาร์เก็ตแชร์อยู่ที่ 17.9% โดยมีเป้าหมายว่าภายใน 3-5 ปีจะมีมาร์เก็ตแชร์กว่า 25%
ส่วนธุรกิจ Non-Oil มีรายได้ จำนวน 3,146 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 74.6% YoY โดยมียอดขายก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) อยู่ที่ 151 ล้านลิตร เพิ่มขึ้น 42.9% YoY ขณะที่ธุรกิจกาแฟพันธุ์ไทย มีรายได้ อยู่ที่ จำนวน 263 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 82.8% YoY จากกลยุทธ์การตลาดที่แข็งแรงและการขยายสาขาที่เพิ่มขึ้น ปัจจุบันมีจำนวนสาขาทั้งสิ้น 570 สาขา โดยในไตรมาส 2/2566 คาดว่าจะขยายเป็น 800 สาขา และสิ้นปีนี้จะมีจำนวนที่ 1,500 สาขา ตามเป้าหมายที่วางไว้ ส่วนสถานีบริการชาร์จ EV ปัจจุบันมีจุดให้บริการเพิ่มเป็น 44 จุด (ณ สิ้นเดือนเมษายน 2566) และมีแนวโน้มจะขยายตัวเพิ่มขึ้นตามการเติบโตของตลาดยานยนต์ไฟฟ้า
สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจในช่วงไตรมาส 2/2566 มีแนวโน้มการเติบโตอย่างโดดเด่น เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการเปิดประเทศท่องเที่ยว เห็นได้จากช่วงเดือนเมษายน 2566 ที่ผ่านมา มีประชาชนเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์เป็นจำนวนมาก และยังมีวันหยุดยาวต่อเนื่องหลายวันในช่วงเดือนพฤษภาคม ส่งผลให้ PTG มียอดขาย Oil และ Non-Oil เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มเติบโตกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ดังนั้น จึงมองว่ารายได้จะเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้
นายรังสรรค์ กล่าวอีกว่า สำหรับงบลงทุนในปี 2566 บริษัทฯ วางไว้ที่ จำนวน 5,000-6,000 ล้านบาท แบ่งออกเป็นการลงทุนขยายและปรับปรุงสถานีบริการน้ำมัน จำนวน 1,000-1,500 ล้านบาท และการเพิ่มจุดให้บริการธุรกิจ Non-Oil จำนวน 2,000-2,500 ล้านบาท รวมทั้งเพื่อรองรับธุรกิจใหม่ (New Businesses) จำนวน 1,500-2,000 ล้านบาท
“PTG มุ่งเน้นการให้บริการลูกค้าเป็นหลัก ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับภาคการเมืองใด ๆ โดยยึดหลักธรรมาภิบาลที่ดีในการบริหารบริษัทและบริการลูกค้าให้ดีที่สุด จนลูกค้ามีความเชื่อมั่นในองค์กร PTG ดังนั้น ตรงนี้จึงเป็นจุดแข็งทำให้ PTG เติบโตมาอย่างต่อเนื่อง จึงอยากให้นักลงทุนและผู้ถือหุ้นเชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจของ PTG ที่มีความมุ่งมั่นจะนำพาองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืน”
นายรังสรรค์ พวงปราง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ พร้อมด้วย นายปรเมษฐ์ สงวนโชควณิชย์ ผู้อำนวยการอาวุโสประจำสำนักกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG ร่วมนำเสนอข้อมูลผลประกอบการช่วงไตรมาส 1/2566 ในงานบริษัทจดทะเบียนพบนักลงทุน (Opportunity Day) ผ่านช่องทางออนไลน์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ณ อาคาร CW Tower ชั้น 33 บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) เมื่อเร็ว ๆ นี้
นายรังสรรค์ เปิดเผยว่า ช่วงไตรมาส 1/2566 บริษัทฯ มีรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ จำนวน 50,936 ล้านบาท เติบโต 30.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) กำไรสุทธิ จำนวน 284 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 73.6% YoY สำหรับยอดขายน้ำมันสูงสุดเป็นประวัติการณ์เช่นเดียวกัน อยู่ที่ 1,474 ล้านลิตร เพิ่มขึ้น 16.6% YoY ส่งผลให้ PTG มีมาร์เก็ตแชร์ผ่านค้าปลีกสถานีบริการในไตรมาสนี้ที่ 19.2% เพิ่มจากไตรมาส 4/2565 ที่มีมาร์เก็ตแชร์อยู่ที่ 17.9% โดยมีเป้าหมายว่าภายใน 3-5 ปีจะมีมาร์เก็ตแชร์กว่า 25%
ส่วนธุรกิจ Non-Oil มีรายได้ จำนวน 3,146 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 74.6% YoY โดยมียอดขายก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) อยู่ที่ 151 ล้านลิตร เพิ่มขึ้น 42.9% YoY ขณะที่ธุรกิจกาแฟพันธุ์ไทย มีรายได้ อยู่ที่ จำนวน 263 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 82.8% YoY จากกลยุทธ์การตลาดที่แข็งแรงและการขยายสาขาที่เพิ่มขึ้น ปัจจุบันมีจำนวนสาขาทั้งสิ้น 570 สาขา โดยในไตรมาส 2/2566 คาดว่าจะขยายเป็น 800 สาขา และสิ้นปีนี้จะมีจำนวนที่ 1,500 สาขา ตามเป้าหมายที่วางไว้ ส่วนสถานีบริการชาร์จ EV ปัจจุบันมีจุดให้บริการเพิ่มเป็น 44 จุด (ณ สิ้นเดือนเมษายน 2566) และมีแนวโน้มจะขยายตัวเพิ่มขึ้นตามการเติบโตของตลาดยานยนต์ไฟฟ้า
สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจในช่วงไตรมาส 2/2566 มีแนวโน้มการเติบโตอย่างโดดเด่น เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการเปิดประเทศท่องเที่ยว เห็นได้จากช่วงเดือนเมษายน 2566 ที่ผ่านมา มีประชาชนเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์เป็นจำนวนมาก และยังมีวันหยุดยาวต่อเนื่องหลายวันในช่วงเดือนพฤษภาคม ส่งผลให้ PTG มียอดขาย Oil และ Non-Oil เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มเติบโตกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ดังนั้น จึงมองว่ารายได้จะเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้
นายรังสรรค์ กล่าวอีกว่า สำหรับงบลงทุนในปี 2566 บริษัทฯ วางไว้ที่ จำนวน 5,000-6,000 ล้านบาท แบ่งออกเป็นการลงทุนขยายและปรับปรุงสถานีบริการน้ำมัน จำนวน 1,000-1,500 ล้านบาท และการเพิ่มจุดให้บริการธุรกิจ Non-Oil จำนวน 2,000-2,500 ล้านบาท รวมทั้งเพื่อรองรับธุรกิจใหม่ (New Businesses) จำนวน 1,500-2,000 ล้านบาท
“PTG มุ่งเน้นการให้บริการลูกค้าเป็นหลัก ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับภาคการเมืองใด ๆ โดยยึดหลักธรรมาภิบาลที่ดีในการบริหารบริษัทและบริการลูกค้าให้ดีที่สุด จนลูกค้ามีความเชื่อมั่นในองค์กร PTG ดังนั้น ตรงนี้จึงเป็นจุดแข็งทำให้ PTG เติบโตมาอย่างต่อเนื่อง จึงอยากให้นักลงทุนและผู้ถือหุ้นเชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจของ PTG ที่มีความมุ่งมั่นจะนำพาองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืน”