Wealth Sharing
PROUD อนุมัติเข้าศึกษาซื้อ 2 โครงการ NUE District R9 & NUE Cross Khu Khot มูลค่า 8.6 พันลบ.
29 พฤษภาคม 2566
บอร์ด PROUD อนุมัติเข้าศึกษาซื้อ 2 โครงการ NUE District R9 และ NUE Cross Khu Khot จาก บมจ.โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ หรือ NOBLE และ บริษัท ทีเอ็นแอล อัลไลแอนซ์ จำกัด หรือ TNL มูลค่าโครงการรวมกว่า 8,623 ล้านบาท เพื่อรองรับการขยายพอร์ต เพิ่มความหลากหลาย เสริมสภาพคล่อง สร้างการเติบโตก้าวกระโดด ดัน Backlog แตะ 10,000 ล้านบาท เตรียมเสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น 29 มิ.ย.นี้ ออกหุ้นเพิ่มทุนให้ผู้ถือหุ้นเดิม (Right Offering : RO) ราคา 1.75 บาทต่อหุ้น รวมเงินทุนจากสถาบันการเงินเป็น แหล่งเงินทุนจำนวน 2,490 บาท
คุณพสุ ลิปตพัลลภ กรรมการบริหาร บริษัท พราว เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PROUD เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา PROUD ได้เข้าลงนามในสัญญาซื้อหุ้นสามัญ ของบริษัท คูคต สเตชัน อัลไลแอนซ์ จำกัด และ บริษัท พระราม 9 อัลไลแอนซ์ จำกัด ในสัดส่วน100% จาก บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จํากัด (มหาชน) หรือ NOBLE และ บริษัท ทีเอ็นแอล อัลไลแอนซ์ จำกัด หรือ TNL โดยทั้งสองบริษัทดำเนินงานพัฒนาใน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการ NUE District R9 คอนโดมิเนียม High Rise ขนาดใหญ่ บนทำเลคุณภาพย่าน CBD (Central Business District) ติดถนนพระราม 9 ใกล้กับ MRT พระราม 9 ที่ครบครันด้วยพื้นที่ส่วนกลางหลากหลายฟังก์ชันทั้ง Indoor และ Outdoor บนเนื้อที่กว่า 6 ไร่ มูลค่าโครงการ 6,519 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันมียอดขาย (pre-sales) แล้ว 83% คาดรับรู้รายได้ภายในปี 2568 และ โครงการ NUE Cross Khu Khot คอนโดมิเนียม Low Rise บนทำเลคุณภาพ บนถนนลำลูกกา ติดสถานีรถไฟฟ้าคูคต พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายในโครงการ มูลค่าโครงการ 2,104 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขาย (pre-sales) แล้ว 100% คาดว่าจะเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดได้ในต้นปี 2567
สำหรับประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการลงทุนดังกล่าว จะส่งผลให้บริษัทขยายฐานเงินทุน สามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็ว พร้อมศักยภาพในการขยายธุรกิจได้ใหญ่ขึ้น ผลักดันให้บริษัทมี Backlog เพิ่มขึ้นทันที 7,515 ล้านบาท จากปัจจุบันอยู่ที่ 2,180 ล้านบาท สามารถรับรู้รายได้และเพิ่มกำไรสุทธิในปี 2567-2568 อีกทั้งเพิ่มมูลค่าของบริษัทและผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้น
ในส่วนของการลงทุนซื้อ โครงการ NUE District R9 และ โครงการ NUE Cross Khu Khot เป็นมูลค่ารวมประมาณ 1,735 ล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทเตรียมนำเสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น (EGM ) เพื่อระดมทุนจำนวน 2,490 ล้านบาท โดยการออกหุ้นเพิ่มทุนให้กับผู้ถือหุ้นเดิมของ PROUD (Right Offering : RO) ในอัตราส่วน 1.80 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ในราคา 1.75 บาทต่อหุ้น รวมมูลค่าไม่เกิน 624 ล้านบาท และส่วนที่เหลือเป็นเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินเพื่อเป็นเงินทุนและเสริมสภาพคล่องในการดำเนินงาน
คุณพสุ ลิปตพัลลภ กรรมการบริหาร บริษัท พราว เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PROUD เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา PROUD ได้เข้าลงนามในสัญญาซื้อหุ้นสามัญ ของบริษัท คูคต สเตชัน อัลไลแอนซ์ จำกัด และ บริษัท พระราม 9 อัลไลแอนซ์ จำกัด ในสัดส่วน100% จาก บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จํากัด (มหาชน) หรือ NOBLE และ บริษัท ทีเอ็นแอล อัลไลแอนซ์ จำกัด หรือ TNL โดยทั้งสองบริษัทดำเนินงานพัฒนาใน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการ NUE District R9 คอนโดมิเนียม High Rise ขนาดใหญ่ บนทำเลคุณภาพย่าน CBD (Central Business District) ติดถนนพระราม 9 ใกล้กับ MRT พระราม 9 ที่ครบครันด้วยพื้นที่ส่วนกลางหลากหลายฟังก์ชันทั้ง Indoor และ Outdoor บนเนื้อที่กว่า 6 ไร่ มูลค่าโครงการ 6,519 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันมียอดขาย (pre-sales) แล้ว 83% คาดรับรู้รายได้ภายในปี 2568 และ โครงการ NUE Cross Khu Khot คอนโดมิเนียม Low Rise บนทำเลคุณภาพ บนถนนลำลูกกา ติดสถานีรถไฟฟ้าคูคต พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายในโครงการ มูลค่าโครงการ 2,104 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขาย (pre-sales) แล้ว 100% คาดว่าจะเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดได้ในต้นปี 2567
สำหรับประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการลงทุนดังกล่าว จะส่งผลให้บริษัทขยายฐานเงินทุน สามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็ว พร้อมศักยภาพในการขยายธุรกิจได้ใหญ่ขึ้น ผลักดันให้บริษัทมี Backlog เพิ่มขึ้นทันที 7,515 ล้านบาท จากปัจจุบันอยู่ที่ 2,180 ล้านบาท สามารถรับรู้รายได้และเพิ่มกำไรสุทธิในปี 2567-2568 อีกทั้งเพิ่มมูลค่าของบริษัทและผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้น
ในส่วนของการลงทุนซื้อ โครงการ NUE District R9 และ โครงการ NUE Cross Khu Khot เป็นมูลค่ารวมประมาณ 1,735 ล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทเตรียมนำเสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น (EGM ) เพื่อระดมทุนจำนวน 2,490 ล้านบาท โดยการออกหุ้นเพิ่มทุนให้กับผู้ถือหุ้นเดิมของ PROUD (Right Offering : RO) ในอัตราส่วน 1.80 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ในราคา 1.75 บาทต่อหุ้น รวมมูลค่าไม่เกิน 624 ล้านบาท และส่วนที่เหลือเป็นเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินเพื่อเป็นเงินทุนและเสริมสภาพคล่องในการดำเนินงาน