จับประเด็นหุ้นเด่น
รายงานพิเศษ : ก่อสร้าง “ภาครัฐ-เอกชน” ขยายตัว หนุนผลงาน IND ปี 66 โตต่อเนื่อง
29 พฤษภาคม 2566
อุตสาหกรรมก่อสร้างภาครัฐและเอกชน ปี 2566 ขยายตัวต่อเนื่อง หนุนผลงาน บริษัท อินเด็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป (IND) ปี 2566 เติบโตไม่ต่ำกว่า 15-20 %
SCB EIC ระบุ มูลค่าการก่อสร้างภาครัฐในปี 2566 มีแนวโน้มขยายตัว +3%YOY แตะระดับ 817,000 ล้านบาทจากโครงการเมกะโปรเจกต์ที่มีการก่อสร้างต่อเนื่องจากในอดีตมีความคืบหน้า รวมถึงยังมีการประมูล และก่อสร้างโครงการใหม่ ๆ อีกทั้ง งบลงทุนในงบประมาณประจำปี 2566เพิ่มขึ้น +6%YOYและอัตราการเบิกจ่ายงบลงทุนสะสมตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ 2566ถึง ณ สิ้นเดือน มี.ค. 2566 ยังสูงกว่าปีงบประมาณที่ผ่านมา
ขณะที่มูลค่าการก่อสร้างภาคเอกชนในปี 2566 มีแนวโน้มขยายตัว อยู่ที่ 586,000 ล้านบาท (+3%YOY)โดยเป็นการขยายตัวของมูลค่าการก่อสร้างที่อยู่อาศัย อสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ ได้แก่ อาคารสำนักงาน และพื้นที่ค้าปลีก รวมถึงการ Renovate พื้นที่ค้าปลีก และโรงแรม เพื่อรองรับการฟื้นตัวของกำลังซื้อในประเทศ และนักท่องเที่ยวต่างชาติ
การก่อสร้างทั้งภาครัฐและเอกชนที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องในปีนี้ ส่งผลดีต่อผลประกอบการไตรมาสแรกและแนวโน้มต่อเนื่องในไตรมาส 2 ของบริษัท อินเด็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ IND โดย “ดร.พรลภัส ณ ลำพูน” รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาอุตสาหกรรมก่อสร้างในส่วนของภาครัฐมีแนวโน้มฟื้นตัวที่ดีขึ้น จากการที่รัฐบาลมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
โดยได้เร่งรัดให้มีงานโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ออกมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เห็นสัญญาณบวกที่ส่งผลดีต่อธุรกิจที่บริษัทฯ ดำเนินการอยู่ซึ่งมีโอกาสเข้าร่วมประมูลโครงการใหม่ๆ ทำให้มีงานในมือทยอยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันบริษัทฯ ยังมีประสิทธิภาพในการควบคุมต้นทุนได้เป็นอย่างดี ส่งผลทำให้ภาพรวมผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/2566 (สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2566) ของบริษัทและบริษัทย่อยยังคงมีผลการดำเนินงานที่เป็นบวก โดยมีกำไรสุทธิเท่ากับ 12.44 ล้านบาท ส่วนรายได้จากการให้บริการจำนวน 169.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 16.18 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 10.56%จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 153.21 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2566 บริษัทฯ เชื่อว่ารายได้และกำไรสุทธิจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ผลจากภาคอุตสาหกรรมก่อสร้างในส่วนของภาครัฐมีแนวโน้มฟื้นตัวที่ดีขึ้น จากการที่รัฐบาลมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยได้เร่งรัดให้มีงานโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ออกมาอย่างต่อเนื่องทำให้เห็นสัญญาณบวกที่จะเกิดขึ้นกับบริษัทฯ เพราะทำให้มีโอกาสเข้าร่วมประมูล โครงการออกแบบ และก่อสร้างใหม่ๆ เพิ่มอีกหลายโครงการ
อีกทั้งทยอยรับรู้รายได้จากงานในมือ (backlog)ที่มีอยู่ประมาณ 2,109.19 ล้านบาท (ณ วันที่ 24 เมษายน 2566)ซึ่งช่วยสนับสนุนให้รายได้ปีนี้เติบโตตามเป้าไม่ต่ำกว่า 15-20 %
“ศักยภาพที่เป็นบริษัทชั้นนำด้านวิศวกรรมที่ปรึกษา และออกแบบพร้อมก่อสร้างในการลงทุนโครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานที่ได้รับการยอมรับ และได้รับความเชื่อถือจากหน่วยงานต่างๆ จากภาครัฐและเอกชนทำให้สามารถคว้างานโครงการต่างๆ ได้อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มูลค่างานในมือเพิ่มมากขึ้น ทำให้ผลการดำเนินงานเติบโตอยู่ในทิศทางที่ดี ซึ่งบริษัทฯ ยังคงเข้าร่วมประมูลโครงการใหม่ๆ เพื่อผลักดันให้ผลการดำเนินงานในปีนี้เติบโตตามเป้าที่ตั้งไว้” ดร.พรลภัสกล่าว