เจ๊จิ๋ม..สายเถื่อน 31-01-23
31-01-23 สวัสดีพี่น้องชาวไทย "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิม www.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยเวลา 7.30 น.มีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ
***ตื่นนอนตอนเช้ามาทุกวันนี้ จะได้ยินเรื่องแรกคือการเมือง แหม!!! เพิ่มดีกรีความร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ ทุกพรรคเร่งหาเสียงทำคะแนนทุกวัน ตอนนี้การประเมินว่าการเลือกตั้งใหญ่ปีนี้ อย่างช้าไม่น่าจะเกินวันที่ 7 พ.ค.66 ตอนนี้อยู่ระหว่างรอเพียงการโปรดเกล้าฯกฎหมายลูกเลือกตั้ง และประกาศในราชกิจจานุเบกษา หลังจากนั้น กลไกนำไปสู่การเลือกตั้ง ได้แก่ 1) การยุบสภา จะต้องมีการจัดเลือกตั้งภายใน 45-60 วัน นับจากวันยุบสภา 2) รัฐบาลอยู่จนครบสมัย จะต้องมีการจัดเลือกตั้งภายใน 45วัน นับจากมีกฤษฎีกาการเลือกตั้งหรือปัจจุบันที่
กกต. กำหนดไว้ในวันที่ 7 พ.ค. 66
***กูรูหุ้นได้ประเมินว่าในกรณีที่มีการยุบสภาปกติ SET จะตอบรับในเชิงลบ แต่รอบนี้หลายฝ่ายพร้อมเดินหน้าเลือกตั้ง ตลาดหุ้นก้อไม่น่าจะตอบรับเชิงลบ และจากผลการศึกษาของทีมกลยุทธ์คาด SET ตอบรับการเลือกตั้งใหญ่ 2566 ดีกว่าค่าเฉลี่ยผลตอบแทนช่วง 1-3 เดือนก่อนการเลือกตั้ง 5 ครั้งหลังสุด ที่ให้ผลตอบแทนราว 2.1% -2.3%
***ประเด็นบวกดังกล่าว บวกกับ Upside การปรับเพิ่มกำไรผลบวกของกรณีจีนเปิดประเทศเร็วกว่าคาดขั้นต่ำที่ราว 2% ต่อกำไรตลาด นั่นหมายความว่าโอกาสที่ SET จะเดินหน้าใกล้เคียงเป้าหมายปีนี้ที่ 1800 จุด (Forward PER 17X) ยังอยู่ในกรอบที่มีความเป็นไปได้
***กลุ่มอิงการบริโภคในประเทศ (BANK, ICT, PROPERTY,FOOD, COMMERCE, FIN และ MEDIA) มัก Outperform ก่อนการ
เลือกตั้ง สำหรับหุ้นที่มัก Outperform SET ก่อนการเลือกตั้ง 1-3 เดือน คือ KBANK, SCB, ADVANC, INTUCH, SC, AMATA, SIRI, CPALL,MAKRO, KTC, MINT, BEC โดยให้ผลตอบแทนตั้งแต่ 3.7-19.3% ด้วยโอกาส 60% ขึ้นไป
***และหลังการเลือกตั้งจบ จะเข้าสู่ช่วงเก็บเกี่ยวผลประโยชน์เชิงเศรษฐกิจหลังไทยเตรียมความพร้อมล่วงหน้า โดยมีการปรับปรุงโครงสร้างต่างๆ ทั้งโครงสร้างภาษีโครงสร้างพื้นฐาน(โครงการขนาดใหญ่ที่มีการอนุมัติในช่วง 7 ปีที่ผ่านมากว่า 85% จะทยอยเปิดในสมัยรัฐบาลชุดถัดไป) โครงสร้างรายได้การออมของประชาชนในปัจจุบัน หนุนภาพเศรษฐกิจไทยเติบโตระยะกลาง-ยาวเด่น กลยุทธ์คือแน ะ นำหุ้นเด่นในธีม Election ได้แก่ KBANK-SCB-ADVANC-INTUCH-SC-AMATA-SIRI-CPALL-MAKRO-KTC-MINT-BEC
***ในเรื่องของนักท่องเที่ยวจีน ตอนนี้เริ่มทยอยหลั่งไหลเข้ามาในไทยพอสมควารแล้ว ที่เห็นออกมาฟันธงชัดๆ คือ HL ประเมินว่าผลงานไตรมาสแรกปีนี้ได้รับผลบวก 2 เด้ง ทั้งนโยบาย“ช้อปดีมีคืน" และ "นักท่องเที่ยวจีน” เรื่องนี้ CEO คนเก่ง "ภก.ธัชพล ชลวัฒนสกุล" ประเมินว่าจะผลักดันให้ยอดขายปีนี้(2566) มีรายได้เติบโตเกิน 20%
***ภาพใหญ่ของ HL ตลอดปีนี้มีแผนเปิดสาขาใหม่อีก 14 แห่ง เน้นพื้นที่ กทม.และปริมณฑล และทั้งปีน่าจะมีสาขารวมทั้งสิ้น 50 สาขา จากปี 2565 ที่มีสาขารวม 36 สาขา เชียร์ค่ะ!!!! สำหรับไตรมาสแรกเตรียมเปิดสาขาใหม่ 4-5 สาขา ภายใต้แบรนด์ร้านขายยา iCare และ Pharmax เป็นหลัก นอกจากนี้จะมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง ภายใต้บริษัท เฮลทิเนส จำกัด ที่ HL ถือหุ้นในสัดส่วน 100% โดยจะได้เห็นการขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์นวัตกรรมใหม่ และเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่อีกประมาณ 5-10 รายการ
***ปังๆๆ มากค่ะสำหรับ TACC ประกาศให้ทราบโดยทั่วกันตอนนี้ได้ต่อสัญญาตัวแทนลิขสิทธิ์คาแรคเตอร์แบรนด์ดังจากญี่ปุ่น San-X ครอบคลุม 7 ประเทศ “ไทย-สิงคโปร์- มาเลเซีย- กัมพูชา-เมียนมาร์- ลาว-เวียดนาม” ระยะเวลาสัญญา 5 ปี (2566-2570) โดยคาแรคเตอร์ของ San-X ได้แก่ Rilakkuma, Sumikkogurashi, Sentimental Circus, Kamonohashikamo, และ Mamegoma, เป็นต้น ทางผู้บริหารมั่นใจว่าจะผลักดันให้รายได้ปีนี้เติบโตได้ดีต่อเนื่อง 10%
***ส่วนธุรกิจ License Business ทาง TACC วางเป้าที่จะเป็น One-Stop-Service และขยายตลาดไปยังต่างประเทศ ส่วนคาแรคเตอร์อื่นๆ เช่น คาแรคเตอร์ไทยทั้งหมดที่ดูแลไม่ว่าจะเป็น "หมาจ๋า”, “Warbie Yama” และ “LINE CREATORS” จะเน้นเจาะกลุ่มตลาดในไทยมากขึ้น และมีแผนขยายคาแรคเตอร์ไทยไปต่างประเทศด้วย อันนี้เริ่ดดดดดดด!!! งานนี้อ่ะนะ..จะนำคาแรคเตอร์ไทยไปร่วมงาน Hong Kong International Licensing Show 2023 ที่ฮ่องกง ในเดือนเมษายน 2566 เพื่อโปรโมทคาแรคเตอร์ไทย และต่อยอดธุรกิจลิขสิทธิ์คาแรคเตอร์ไทยในต่างประเทศ เจ๊ปรบมือให้รัวๆๆๆ เลยค่ะ..เพราะจะได้นำผลงานของคนไทยไปโชว์ให้ต่างประเทศได้เห็น ชั้นก้อทำได้นะคร๊าาา-ทำได้ดีด้วยยยยย
***ปิดท้ายกับผู้บริหาร สวย-เก่ง "ชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง" บอสใหญ่ WP หลังจากที่ได้ประกาศจัดทัพปี 66 เดินหน้าเต็มกำลังขยายธุรกิจเกี่ยวเนื่องที่อยู่ในอุตสาหกรรมเมกะเทรนด์ ทั้งโครงการพลังงานลม, EV และ Battery Storage เพื่อต่อยอดธุรกิจก๊าซ LPG รวมถึงก้าวไปสู่เป้าหมายปั้นแบรนด์ “WP Energy” ให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง สเต็ปต่อจากนี้แฟนคลับเกาะติดกันไว้เลยนะ ทั้งแนวโน้มธุรกิจและผลการดำเนินงานสดใสไม่เบา พร้อมตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 1.7 หมื่นล้านบาท…ว๊าวววววว!!!! หุ้นดีราศีจับขนาดนี้เคลียร์พอร์ตรอไว้ได้เลยนะตะเอง!
31-01-23 สวัสดีพี่น้องชาวไทย "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิม www.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยเวลา 7.30 น.มีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ
***ตื่นนอนตอนเช้ามาทุกวันนี้ จะได้ยินเรื่องแรกคือการเมือง แหม!!! เพิ่มดีกรีความร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ ทุกพรรคเร่งหาเสียงทำคะแนนทุกวัน ตอนนี้การประเมินว่าการเลือกตั้งใหญ่ปีนี้ อย่างช้าไม่น่าจะเกินวันที่ 7 พ.ค.66 ตอนนี้อยู่ระหว่างรอเพียงการโปรดเกล้าฯกฎหมายลูกเลือกตั้ง และประกาศในราชกิจจานุเบกษา หลังจากนั้น กลไกนำไปสู่การเลือกตั้ง ได้แก่ 1) การยุบสภา จะต้องมีการจัดเลือกตั้งภายใน 45-60 วัน นับจากวันยุบสภา 2) รัฐบาลอยู่จนครบสมัย จะต้องมีการจัดเลือกตั้งภายใน 45วัน นับจากมีกฤษฎีกาการเลือกตั้งหรือปัจจุบันที่
กกต. กำหนดไว้ในวันที่ 7 พ.ค. 66
***กูรูหุ้นได้ประเมินว่าในกรณีที่มีการยุบสภาปกติ SET จะตอบรับในเชิงลบ แต่รอบนี้หลายฝ่ายพร้อมเดินหน้าเลือกตั้ง ตลาดหุ้นก้อไม่น่าจะตอบรับเชิงลบ และจากผลการศึกษาของทีมกลยุทธ์คาด SET ตอบรับการเลือกตั้งใหญ่ 2566 ดีกว่าค่าเฉลี่ยผลตอบแทนช่วง 1-3 เดือนก่อนการเลือกตั้ง 5 ครั้งหลังสุด ที่ให้ผลตอบแทนราว 2.1% -2.3%
***ประเด็นบวกดังกล่าว บวกกับ Upside การปรับเพิ่มกำไรผลบวกของกรณีจีนเปิดประเทศเร็วกว่าคาดขั้นต่ำที่ราว 2% ต่อกำไรตลาด นั่นหมายความว่าโอกาสที่ SET จะเดินหน้าใกล้เคียงเป้าหมายปีนี้ที่ 1800 จุด (Forward PER 17X) ยังอยู่ในกรอบที่มีความเป็นไปได้
***กลุ่มอิงการบริโภคในประเทศ (BANK, ICT, PROPERTY,FOOD, COMMERCE, FIN และ MEDIA) มัก Outperform ก่อนการ
เลือกตั้ง สำหรับหุ้นที่มัก Outperform SET ก่อนการเลือกตั้ง 1-3 เดือน คือ KBANK, SCB, ADVANC, INTUCH, SC, AMATA, SIRI, CPALL,MAKRO, KTC, MINT, BEC โดยให้ผลตอบแทนตั้งแต่ 3.7-19.3% ด้วยโอกาส 60% ขึ้นไป
***และหลังการเลือกตั้งจบ จะเข้าสู่ช่วงเก็บเกี่ยวผลประโยชน์เชิงเศรษฐกิจหลังไทยเตรียมความพร้อมล่วงหน้า โดยมีการปรับปรุงโครงสร้างต่างๆ ทั้งโครงสร้างภาษีโครงสร้างพื้นฐาน(โครงการขนาดใหญ่ที่มีการอนุมัติในช่วง 7 ปีที่ผ่านมากว่า 85% จะทยอยเปิดในสมัยรัฐบาลชุดถัดไป) โครงสร้างรายได้การออมของประชาชนในปัจจุบัน หนุนภาพเศรษฐกิจไทยเติบโตระยะกลาง-ยาวเด่น กลยุทธ์คือแน ะ นำหุ้นเด่นในธีม Election ได้แก่ KBANK-SCB-ADVANC-INTUCH-SC-AMATA-SIRI-CPALL-MAKRO-KTC-MINT-BEC
***ในเรื่องของนักท่องเที่ยวจีน ตอนนี้เริ่มทยอยหลั่งไหลเข้ามาในไทยพอสมควารแล้ว ที่เห็นออกมาฟันธงชัดๆ คือ HL ประเมินว่าผลงานไตรมาสแรกปีนี้ได้รับผลบวก 2 เด้ง ทั้งนโยบาย“ช้อปดีมีคืน" และ "นักท่องเที่ยวจีน” เรื่องนี้ CEO คนเก่ง "ภก.ธัชพล ชลวัฒนสกุล" ประเมินว่าจะผลักดันให้ยอดขายปีนี้(2566) มีรายได้เติบโตเกิน 20%
***ภาพใหญ่ของ HL ตลอดปีนี้มีแผนเปิดสาขาใหม่อีก 14 แห่ง เน้นพื้นที่ กทม.และปริมณฑล และทั้งปีน่าจะมีสาขารวมทั้งสิ้น 50 สาขา จากปี 2565 ที่มีสาขารวม 36 สาขา เชียร์ค่ะ!!!! สำหรับไตรมาสแรกเตรียมเปิดสาขาใหม่ 4-5 สาขา ภายใต้แบรนด์ร้านขายยา iCare และ Pharmax เป็นหลัก นอกจากนี้จะมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง ภายใต้บริษัท เฮลทิเนส จำกัด ที่ HL ถือหุ้นในสัดส่วน 100% โดยจะได้เห็นการขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์นวัตกรรมใหม่ และเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่อีกประมาณ 5-10 รายการ
***ปังๆๆ มากค่ะสำหรับ TACC ประกาศให้ทราบโดยทั่วกันตอนนี้ได้ต่อสัญญาตัวแทนลิขสิทธิ์คาแรคเตอร์แบรนด์ดังจากญี่ปุ่น San-X ครอบคลุม 7 ประเทศ “ไทย-สิงคโปร์- มาเลเซีย- กัมพูชา-เมียนมาร์- ลาว-เวียดนาม” ระยะเวลาสัญญา 5 ปี (2566-2570) โดยคาแรคเตอร์ของ San-X ได้แก่ Rilakkuma, Sumikkogurashi, Sentimental Circus, Kamonohashikamo, และ Mamegoma, เป็นต้น ทางผู้บริหารมั่นใจว่าจะผลักดันให้รายได้ปีนี้เติบโตได้ดีต่อเนื่อง 10%
***ส่วนธุรกิจ License Business ทาง TACC วางเป้าที่จะเป็น One-Stop-Service และขยายตลาดไปยังต่างประเทศ ส่วนคาแรคเตอร์อื่นๆ เช่น คาแรคเตอร์ไทยทั้งหมดที่ดูแลไม่ว่าจะเป็น "หมาจ๋า”, “Warbie Yama” และ “LINE CREATORS” จะเน้นเจาะกลุ่มตลาดในไทยมากขึ้น และมีแผนขยายคาแรคเตอร์ไทยไปต่างประเทศด้วย อันนี้เริ่ดดดดดดด!!! งานนี้อ่ะนะ..จะนำคาแรคเตอร์ไทยไปร่วมงาน Hong Kong International Licensing Show 2023 ที่ฮ่องกง ในเดือนเมษายน 2566 เพื่อโปรโมทคาแรคเตอร์ไทย และต่อยอดธุรกิจลิขสิทธิ์คาแรคเตอร์ไทยในต่างประเทศ เจ๊ปรบมือให้รัวๆๆๆ เลยค่ะ..เพราะจะได้นำผลงานของคนไทยไปโชว์ให้ต่างประเทศได้เห็น ชั้นก้อทำได้นะคร๊าาา-ทำได้ดีด้วยยยยย
***ปิดท้ายกับผู้บริหาร สวย-เก่ง "ชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง" บอสใหญ่ WP หลังจากที่ได้ประกาศจัดทัพปี 66 เดินหน้าเต็มกำลังขยายธุรกิจเกี่ยวเนื่องที่อยู่ในอุตสาหกรรมเมกะเทรนด์ ทั้งโครงการพลังงานลม, EV และ Battery Storage เพื่อต่อยอดธุรกิจก๊าซ LPG รวมถึงก้าวไปสู่เป้าหมายปั้นแบรนด์ “WP Energy” ให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง สเต็ปต่อจากนี้แฟนคลับเกาะติดกันไว้เลยนะ ทั้งแนวโน้มธุรกิจและผลการดำเนินงานสดใสไม่เบา พร้อมตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 1.7 หมื่นล้านบาท…ว๊าวววววว!!!! หุ้นดีราศีจับขนาดนี้เคลียร์พอร์ตรอไว้ได้เลยนะตะเอง!